เชลซีฟอร์มกำลังเข้าฝักสุดๆ น่าบุกชนะไบรท์ตันได้ไม่ยาก

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ไบรท์ตัน พบ เชลซี
สนาม : เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม
เวลา : 01.45 น. พฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม 2567 (แข่งคืนวันพุธ)
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 3 (ช่อง 603)

ไบรท์ตัน
ไบรท์ตัน ฟอร์มดูดีขึ้นในช่วงหลังก็จริง หลังไม่แพ้ใครในลีกมา 2 เกมติดต่อกัน แต่ในภาพรวมก็ยังถือว่ายังไว้ใจไม่ค่อยได้ เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาเคยมีช่วงที่แพ้ไปถึง 7 จาก 11 เกมหลังสุดในทุกรายการ และมีช่วงที่ไม่ชนะใครในลีกถึง 6 เกมติด แต่หลังจากที่กลับมาเปิดบ้านเฉือนชนะ แอสตัน วิลล่า 1-0 ต่อด้วยบุกเสมอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-1 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ ไบรท์ตัน น่าจะมีความมั่นใจกลับมามากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้มีลุ้นอะไรอยู่แล้วในอีก 2 เกมที่เหลือ หลังจากที่ตอนนี้มีอยู่ 48 จาก 36 เกม รั้งอยู่อันดับ 10 ของตาราง ต่อให้ชนะได้ทั้งหมดในเกมที่เหลือ ก็ไม่น่าจะมีอะไรที่ดีกว่านี้

ในส่วนของสภาพทีมนั้น ไบรท์ตัน มีปัญหาตัวเจ็บมากพอสมควร โดยเกมนี้พวกเขาจะไม่มีผู้เล่นอย่าง ซอลลี่ มาร์ช, แจ็ค ฮินเชลวู้ด, คาโอรุ มิโตมะ, เจมส์ มิลเนอร์, อีแวน เฟอร์กูสัน, เปร์วิส เอสตูปิญัน, ยาน พอล ฟาน เฮคเค่, โจเอล เฟลท์มัน และ ชูเอา เปโดร ที่บาดเจ็บทั้งหมด แต่ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ ไบรท์ตัน จะมาในระบบ 4-2-3-1 ตามเดิม แนวรุกจะใช้ แดนนี่ เวลเบ็ค ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า และมีตัวสนับสนุนเกมรุกอย่าง ไซม่อน อาดิงกรา, ฮูลิโอ เอ็นซิโซ่ และ ฟากุนโด้ บัวนาน็อตเต้ คอยสร้างสรรค์เกม

เชลซี
เชลซี ภายใต้การนำของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ถือว่ามีผลงานที่ค่อนข้างดีเลยในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าข้อเสียคือเวลาที่เจอกับเกมสำคัญหรือเกมที่เจอกับทีมใหญ่ด้วยกัน เชลซี มักจะแพ้ แต่ถ้าเป็นเกมที่เจอกับทีมที่เป็นรองกว่า พวกเขาก็เก็บได้เกือบหมดเช่นกัน โดยพวกเขาแพ้ไปเพียง 2 เกมจากการลงเล่น 14 เกมหลังสุดในทุกรายการ เสมอ 4 และชนะได้ถึง 8 เกม ล่าสุดไม่แพ้ใครมา 4 เกมติดต่อกันแล้ว และยังชนะได้ใน 3 เกมหลังสุดอีกด้วย ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-2 ในเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ เชลซี ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 7 ของตารางแล้ว หลังเก็บเพิ่มเป็น 57 แต้มจาก 36 เกม โดยมีแต้มเท่ากันกับอันดับ 6 อย่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แต่ผลต่างประตูได้เสียยังเป็นรอง ทำให้ตอนนี้พวกเขายังมีลุ้นที่จะจบในอันดับที่ 6 เพื่อคว้าตั๋วไปเล่นใน ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ปีหน้า (ในกรณีที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่สามารถคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ)

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดของ เชลซี นั้น ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บกันมากมายเหมือนเดิม โดยพวกที่ยังเจ็บอยู่และลงเล่นไม่ได้อย่างแน่นอนนั้นประกอบไปด้วย เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, โรเมโอ ลาเวีย, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, เบน ชิลเวลล์, โรเบิร์ต ซานเชซ และ แคร์นี่ย์ ชุควูเมก้า แต่ที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ เชลซี จะยังมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 แนวรุกจะใช้ นิโกล่าส์ แจ็คสัน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนในเกมรุกอย่าง โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์ และ มีไคโล มูดริค

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไบรท์ตัน (4-2-3-1) : บาร์ท แฟร์บรุ๊กเก้น : ทาริค แลมพ์ตี้ย์, อดัม เว็บส์เตอร์, ลูอิส ดังค์, อีกอร์ ฮูลิโอ : ปาสกาล โกรสส์, บิลลี่ กิลมอร์ : ฟากุนโด้ บัวนาน็อตเต้, ฮูลิโอ เอ็นซิโซ่, ไซม่อน อาดิงกรา : แดนนี่ เวลเบ็ค

เชลซี (4-2-3-1) : จอร์จี้ เปโตรวิช : มาโล กุสโต้, เทรโวห์ ชาโลบาห์, เบอนัวต์ บาเดียชิล, มาร์ก กูกูเรย่า : คอเนอร์ กัลลาเกอร์, มอยเซส ไกเซโด้ : โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์, มีไคโล มูดริค : นิโกล่าส์ แจ็คสัน

ความน่าจะเป็น : แม้ว่า ไบรท์ตัน จะได้เล่นในบ้าน อีกทั้งยังมีฟอร์มการเล่นที่ดีขึ้นในช่วงหลัง แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่า เชลซี กำลังเล่นได้อย่างเข้าฝักจริงๆ ทำให้เกมนี้การครองบอลอาจจะสูสีกัน แต่จังหวะเข้าทำ เชลซี น่าจะทำได้ดีกว่า จากการที่แนวรุกกำลังมั่นใจกันแบบยกแผง และมีความตั้งใจที่จะจบฤดูกาลนี้ให้ดีที่สุด ทำให้เกมนี้เมื่อวัดกันไปแบบทีต่อทีแล้ว จะเป็น เชลซี ที่แนวรุกเฉียบคมกว่าเป็นฝ่ายบุกมาเอาชนะไปได้

สกอร์ที่คาด : ไบรท์ตัน แพ้ เชลซี 1-3