พรีวิว เอ็นบีเอ ดัลลัส แมฟเวอริกส์ @ บอสตัน เซลติกส์

“เอ็นบีเอ ไฟนัลส์” คือการพบกันของ 2 ทีมที่ดีที่สุดในลีก “เซลติกส์” นอนมาจากสายตะวันออก ผ่านทุกรอบแบบสมราคาเต็งหนึ่ง แตกต่างจาก “แมฟเวอริกส์” ที่ฝ่าฟันทุกด่านมาอย่างเชือดเฉือน หายใจไม่ทั่วท้อง นี่คือเกมการแข่งขันที่ทุกคนอยู่ใกล้ชัยชนะแค่อีกเอื้อมมือ

พรีวิว เอ็นบีเอ

ดัลลัส แมฟเวอริกส์ @ บอสตัน เซลติกส์

เวลา 07.30 น. วันที่ 7 มิ.ย. 2024

ช่อง : ทรูสปอร์ต 1 (666)

NBA FINALS ซีรี่ส์ของสองทีมที่ฝ่าฟันบททดสอบมาจนถึงปลายทาง สายตะวันออก บอสตัน เซลติกส์ นอนมาตั้งแต่ฤดูกาลปกติ และ ดัลลัส แมฟเวอริกส์ ที่มาได้ไกลกว่าที่ใครๆ คาดคิด เนื่องจากไม่ใช่ม้าเต็งตั้งแต่แรก แต่ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงที่นี่

เซลติกส์ มีโอกาสอันยอดเยี่ยมที่จะคว้าแชมป์สมัยที่ 18 แซงหน้า แอลเอ เลเกอร์ส ส่วน แมฟเวอริกส์ ห่างหายจากการชิงแชมป์ไปตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งนั่นคือแชมป์เดียวของ แฟรนไชส์สมัย เดิร์ค โนวิตซ์กี้ ตำนานชาวเยอรมัน

เซลติกส์ เข้าสู่เพลย์ออฟเป็นทีมแรกตั้งแต่ฤดูกาลยังเหลืออีก 9 เกมด้วยสถิติที่ดีที่สุด 64-18 เป็นอันดับ 1 ของสาย ฤดูกาลที่แล้วพลาดท่าในรอบชิงชนะเลิศให้ ไมอามี่ ฮีต 4-1 ซีซั่นนี้ได้ล้างตาอย่างรวดเร็ว เจอกันตั้งแต่รอบแรก และเอาคืน 4-1 จากนั้นเป็นตัวเต็งมาทุกรอบ และเรียกความมั่นใจในรอบชิงแชมป์สายด้วยการกวาดซีรี่ส์ใส่ อินเดียนา เพเซอร์ส ที่ไม่มี ทายรีส ฮาลิเบอร์ตันใน 2 เกมหลัง 4-0

บอสตัน ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 2 ใน 3 ปี นี่คือทีมที่มีสไตล์การเล่นแบบบาสเก็ตบอลยุคใหม่ ตัวจริงยิงไกลได้ทุกคน ถ้า คริสตาป ปอร์ซิงกิส กลับมาลงสนามได้ แต่ถึงจะลงไม่ได้ก็ดุเหมือนจะไม่มีปัญหา เพราะ ปอร์ซิงกิส หายไป 10 เกม แต่ยังชนะ 9 เกม ว่ากันตามตรงนี่คือทีมที่ดีที่ได้ ปอร์ซิงกิส เข้ามาเป็นส่วนเติมเต็มจากช่วงเทรด

พรีวิว เอ็นบีเอ ดัลลัส แมฟเวอริกส์ @ มินเนโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์

Celtics Road to NBA Finals

Mavericks Road to NBA Finals

โจ มาซซูล่า เฮดโค้ชวัย 35 ปียังเป็นคนหนุ่มที่พาทีมเข้าชิงชยะเลิศ ตามรอบ บิล รัสเซลล์ ที่เคยพา เซลติกส์ คว้าแชมป์ในปี 1969 แต่ รัสเซลล์ พิเศษกว่าเล็กน้อย ที่เป็นทั้งเฮดโค้ชและผู้เล่นในตอนนั้น ขณะที่ เจสัน คิดด์ จะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นทั้งผู้เล่นและเฮดโค้ชที่คว้าแชมป์ให้กับ แมฟเวอริกส์

แมฟเวอริกส์ ก็ไม่ยอมน้อยหน้ากับการเทรด ส่ง แกรนท์ วิลเลี่ยมส์ และ เซธ เคอร์รี่ แลกเอา พีเจ วอชิงตัน เข้ามา พร้อมกับดราฟท์รอบแรกปี 2027 และเป็นไปได้ว่านี่คือทีมที่ เจสัน คิดด์ ต้องการให้เป็น หลังแยกทางจาก ริค คาร์ไลส์ ซึ่ง คิดด์ ไม่มีประเด็นกับ ปอร์ซิงกิส มากนัก ปัญหาที่ทำให้ต้องเทรดเซ็นเตอร์แลตเวี่ยนออกไปมาจากค่าจ้างราคาสูงเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนเกมที่ลงเล่น เจ็บบ่อย แม้ในภายหลัง ปอร์ซิงกิส บอกว่า “พวกเราเข้ากันได้ไม่ดีนัก มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในที่ทำงานบ้างบางครั้ง มันไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวัง” ก็ตาม

แมฟเวอริกส์ ต่อสู้อย่างหนักในทุกรอบเพลย์ออฟ ผ่านมาครบทุกรสชาติทั้งการเจอกับทีมจตุรเทพ แอลเอ คลิปเปอร์ส ที่ค่าเฉลี่ยอายุผู้เล่นสูงที่สุดในลีก หรือการรับมือกับทีมพลังหนุ่ม โอเคซี ธันเดอร์ ที่มีค่าเฉลี่ยอายุผู้เล่นน้อยที่สุดในลีก และในรอบชิงแชมป์สายก็เจอกับทีมที่เกมรับดีที่สุด มีทั้งผู้เล่นทีมรับยอดเยี่ยม 1 คือ รูดี้ โกแบร์ และผู้เล่นทีมรับยอดเยี่ยมทีม 2 จาเดน แม็คแดเนี่ยลส์ ถ้านี่คือเกมเซอร์ไวเวอร์ ก็ถึงคราวที่ต้องเจอกับ Last Boss ตัวสุดท้าย คือทีมที่ยอดเยี่ยมเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์ในซีซั่นนี้

ทั้งสองพบกันมาแล้วในซีซั่นนี้ เซลติกส์ ชนะทั้งสองครั้ง เกมแรกที่ ทีดี การ์เดน เจ้าถิ่นชนะ 119-110 ยังไม่มี ปอร์ซิงกิส เพราะบาดเจ็บ ใช้ อัล ฮอร์ฟอร์ด ลงเป็นตัวจริง และ แมฟเวอริกส์ ยังไม่ได้เทรดเอา พีเจ วอชิงตัน เข้ามา แต่เกมสองที่เท็กซัส มี วอชิงตัน แล้ว ก็ยังแพ้เละ 138-110 ด้วยความแม่นยำที่แตกต่างกัน เซลติกส์ ฟิลด์โกล 55.3 เปอร์เซ็น และ แมฟเวอริกส์ 46.8 เปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ดี ทั้งสองทีมมีความสามารถในการยิง 3 คะแนนไม่ต่างกันมาก เซลติกส์ เป็นอันดับ 1 ที่พยายามยิง 3 คะแนนมากที่สุดในลีก อันดับ 2 คือ แมฟเวอริกส์ ส่วนเกมรับแตกต่างกันค่อนข้างมาก ในซีซั่นปกติ เซลติกส์ เสียแต้มน้อยเป็นอันดับ 5 ส่วน แมฟเวอริกส์ อันดับ 20 และตัวเต็งที่จะคว้าเอ็มวีพีรอบชิงชนะเลิศ เต็งหนึ่ง เจสัน เททั่ม เต็งสอง ลูก้า ดอนซิช