ชาร์ลส์ เลอแกลร์ และอาถรรพ์สนามหลังบ้าน

ชาร์ลส์ เลอแกลร์ และอาถรรพ์สนามหลังบ้าน
“เลอแกลร์” ทำเวลาเร็วที่สุดในรอบซ้อม “โมนาโก กรังด์ปรีซ์ 2022” แต่อาถรรพ์ยังอาจกำลังก่อตัวอยู่ไม่ไกลจากสนามหลังบ้าน “โฮมเรซ” ที่ไม่เคยจบด้วยความทรงจำอันดี


ชาร์ลส์ เลอแกลร์ และ เฟอร์รารี่ ทำผลงานได้ดีในรอบซ้อม 1 และ 2 ที่ โมนาโก กรังด์ปรีซ์ เมื่อ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา รอบคัดเลือกวันที่ 28 พ.ค. ตรงกับเวลา 22.00 น. ทางช่อง ทรูสปอร์ต1 (666) ซึ่งแนวโน้มสำหรับ 2 นักขับรวม คาร์ลอส ไซนซ์ ดูเป็นไปในทางที่ดีและน่าจะได้อะไรติดไม้ติดมือ หากจะดีกว่านั้นก็คือการทำคะแนนแซงหน้า แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน กลับมาในตาราง และกู้คืนพื้นที่ประเภททีม 


อย่างที่รู้กันว่า โมนาโก เป็นสนามอันทรงเกียรติระดับตำนานของวงการมอเตอร์สปอร์ต ศักดิ์ศรีพอๆ กับ อินเดียนาโพลิส 500 และรายการ 24 ชั่วโมง เลอ มองส์ รวมแล้วเท่ากับตรีเพชรแห่งมอเตอร์สปอร์ต นอกจากนี้ความสวยงามตระการตาและการเอาพื้นที่ถนนจริงที่ผู้คนสัญจรปรับมาเป็นการแข่งขันก็ชวนให้ตื่นเต้น ท้าทาย และที่นี่คือสนามหลังบ้าน (หรืออาจจะหน้าบ้าน) ของ เลอแกลร์ ที่เติบโตมาในฐานะชาวโมนากัน การได้แชมป์ที่นี่จึงมีความหมายเป็นพิเศษ เหมือนที่ สแปนิช กรังด์ปรีซ์ มีความหมายต่อ เฟร์นานโด อลอนโซ่ และการได้แชมป์ที่ ซิลเวอร์สโตน เต็มไปด้วยเสียงเชียร์ถึง ลูอิส แฮมิลตัน 


อย่างไรก็ดี สนามที่บ้านกลับไม่ใช่สนามสร้างชื่อเสียงให้ เลอแกลร์ อย่างที่ควรจะเป็นแต่เป็นสนามต้องสาปอาถรรพ์ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ใช่แค่ใน ฟอร์มูล่า วัน แต่มันเริ่มต้นตั้งแต่ ฟอร์มูล่า ทู 


F2 2017


ย้อนกลับไปในปี 2017 ครั้งนั้น เลอแกลร์ คว้าตำแหน่งโพล โพซิชั่น มาครองได้สำเร็จ เขาออกตัวตีคู่มากับ อเล็กซ์ อัลบอน แต่ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ เซฟตี้ คาร์ออกมาวิ่งจนรถทุกคันกลับมาต่อท้ายกันอีกครั้ง เลอแกลร์ กลับมาขึ้นนำและทำเวลาหนีห่าง แต่โชคไม่เข้าข้าง เพราะเซฟตี้ คาร์ ยังออกมาเป็นครั้งที่สอง สิ่งที่สะสมมาเหมือนจะพังทลาย แต่สิ่งที่ทำให้การแข่งครั้งนั้นเป็นหายนะอย่างแท้จริงคือแรงสั่นที่ล้อหน้าซ้าย ซึ่งทำให้เขาต้องขับรถเข้าพิตและออกจากการแข่งขันโดยไม่มีคะแนน


F1 2018


อย่างไรก็ดี การพลาดแต้มที่นั่นไม่สั่นสะเทือนแชมป์ฤดูกาล เพราะเขาเป็นแชมป์ ฟอร์มูล่า ทู และก้าวขึ้นมาใน ฟอร์มูล่า วัน กับทีม เซาเบอร์ ในปีถัดมา การได้แข่งขันในบ้าน แข่งจบถือว่าดี จบแบบมีคะแนนถือว่าดีกว่า เนื่องจากทีมสัญชาติสวิสมีรถระดับกลาง เขาจึงจบรอบคัดเลือกที่อันดับ 14 ดังนั้นความหวังที่ดีที่สุดจึงขอแค่แข่งให้จบและได้คะแนนบ้าง ซึ่งในตอนนั้น เลอแกลร์ อยู่อันดับ 12 และอีก 8 รอบจะจบเรซ 


อุโมงค์ที่ โมนาโก เป็นเหมือนอุโมงค์กาลเวลาในภาพยนตร์ลึกลับสยองขวัญที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย และเมื่อผ่านอุโมงค์ออกมา ทั้งที่เห็นว่ามีรถคันหน้าของ โตโร รอสโซ่ แต่ เลอแกลร์ เบรกไม่อยู่ ชนท้าย เบรนดอน ฮาร์ทลี่ย์ อย่างแรง จบเรซแรกในบ้านและในซีซั่นแรกของ เอฟ วัน อย่างน่าเจ็บใจกับความผิดพลาดทางเทคนิค แน่นอนว่าสิ่งที่ออกมาในสนามเดียวไม่ย่ำแย่พอจะหยุดยั้งสัญญาจาก เฟอร์รารี่ 


F1 2019


ด้วยวัยเพียง 20 ปี เฟอร์รารี่ เซ็นสัญญาดึงตัว เลอแกลร์ มาเป็นนักขับเคียงข้างแชมป์โลก 4 สมัย เซบาสเตียน เว็ทเทล และทุกอย่างก็ดูสวยงามไปหมด เมื่อย้ายมาเป็นมือขับ “ม้าลำพอง” ผลงานใน 5 เรซแรกของปีเกาะตำแหน่งท็อป 5 และมีโพเดียมที่ บาห์เรน กรังด์ปรีซ์ 


แต่เมื่อเข้าถึงรอบคัดเลือก Q1 สิ่งที่เกิดขึ้นคือขณะที่พยายามทำฟลายอิ้ง แล็ป หรือทำความเร็วต่อรอบให้ดีที่สุดหลังจากอุณหภูมิล้อยางได้ที่และทุกกอย่างน่าจะลงล็อก เมื่อเข้าโค้ง ราสแค็สส์ ล้อรถเสียหายเล็กน้อย เขากลับเข้าพิทมาด้วยตำแหน่งอันดับ 6 พร้อมกับความมั่นใจว่าการทำเวลาเท่านี้น่าจะพอสำหรับ Q2 แต่เป็นความคิดที่ผิด และเป็นการตัดสินใจพลาดของทีม เพราะช่วงเวลาที่เหลือรถคันอื่นแซงหน้าขึ้นไป คันแล้วคันเล่า เลอแกลร์ กลายเป็นอันดับ 16


ตำแหน่งจากรอบคัดเลือกทำให้การขึ้นไปยืนบนโพเดียมในรอบสุดท้ายยากเย็น แต่เขาเป็นนักสู้ผู้ไม่ยอมแพ้ เมื่อออกสตาร์ทผ่านไป 8 รอบเขาพยายามพาตัวเองขยับขึ้นมา 3 อันดับ เขารู้ดีว่าต้องเล่นเกมบุกที่หมายถึงความเสี่ยง และเมื่อเข้าสู่รอบที่ 11 รถเสยกำแพงระหว่างพยายามแซง นิโก้ ฮุลเคนเบิร์ก ผลก็คือยางแตก เขาพยายามพารถกลับมาที่พิต แต่ความเสียหายมากเกินไป และเส้นทางยาวไกลกว่าจะกลับไปที่นั่นทำให้ต้องออกจากการแข่งขัน 


F1 2021


ปี 2020 การแข่งขันไม่เกิดขึ้นเพราะโควิด 19 ระบาดไปทั่ว เขากลับมาในปี 2021 แบบเตรียมสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ ทั้งที่เปิดฤดูกาลมาใน 4 เรซแรก เฟอร์รารี่ ดูห่างชั้นจาก เร้ดบูลล์ เรซิ่ง และ เมอร์ซิเดซ พอสมควร แต่พลังแรงใจกับสนามหน้าบ้านทำให้ เลอแกลร์ ฮึดใน Q3 จนคว้าโพลสำเร็จ และเมื่อเข้าสู่รอบสุดท้าย เขาควรพารถกลับเข้ามาจอดอย่างสวยงาม แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น 


SF21 ของ เลอแกลร์ปีนขอบโค้ง ลอยขึ้นจนควบคุมไม่อยู่ อัดเข้ากับกำแพงกั้นจนกระบังหน้าหลุดออกเป็นชิ้น ฝ่ายควบคุมการแข่งขันต้องโบกธงแดง และทีมงานต้องพารถกลับไปซ่อมให้ทันการแข่งรอบสุดท้ายที่รออยู่ในวันถัดไปด้วยความหวังว่าจะออกสตาร์ทได้ตามปกติ แต่ก็ไม่เป็นดังหวัง เกียร์บ็อกซ์ดูจะทำงานได้ตามปกติ แต่ระหว่างพารถไปที่กริด เพลาซ้ายเกิดมีปัญหา เขาไม่ได้เริ่มการแข่งด้วยซ้ำ และ แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน อันดับ 2 เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาก่อนคว้าแชมป์ไปครอง 


2022


ก่อนการแข่งขันจริงที่ โมนาโก กรังด์ปรีซ์ มีอีเวนต์ชื่อ 2022 โมนาโก ฮิสโตริค ของ ออโตโมบิล คลับ เดอ โมนาโก หรือชมรมคนรักรถซิ่ง ซึ่ง เฟอร์รารี่ และ เลอแกลร์ ได้รับเชิญมาเป็นพิเศษให้ขับโชว์ 3 รอบด้วยรถคลาสสิกปี 1974 คันเดียวกับที่ นิกกิ เลาดา เคยแข่งจริง และเมื่อถึงรอบสุดท้าย เบรกมีปัญหา ที่โค้งราสแคสส์ ซึ่งเคยหลอกหลอนเขามาแล้ว รถคลาสสิกของ เฟอร์รารี่ ชนกับที่กั้นถนนเสียหาย และทำให้ใจเสีย


รอบซ้อมที่โมนาโกผ่านไปแล้ว เหลือรอบคัดเลือกและเข้าสู่รอบจริง ภาษิตไทยว่า ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน ชีวิตนั้นมีขึ้นและลง ดีและไม่ดีสลับสับเปลี่ยนกันไป หลังจากพายุร้ายทีมงาน เฟอร์รารี่ และพลพรรคกองเชียร์ที่จะมากันนับแสนชีวิตก็หวังให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นบ้าง และหวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีที่ โมนาโก สวนหลังบ้านของ ชาร์ลส์ เลอแกลร์ 

F1DRIVE

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial