รวมสถิติที่ แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน ยังไล่ล่าได้อีก

รวมสถิติที่ แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน ยังไล่ล่าได้อีก
อีก 2 สนาม “ฟอร์มูล่า วัน 2022” จะจบลง แชมป์โลกตัดสินไปแล้ว ชวนให้รู้สึกไม่น่าดูชม แต่อย่าเพิ่งคิดแบบนั้น เพราะ “เวอร์สเตปเปน” มีสถิติที่ยังตามไล่ล่าได้อีก ด้วยความมุ่งมั่นไม่หยุดยั้ง




เซา เปาโล กรังด์ปรีซ์ คือการนับถอยหลังสู่การปิดฤดูกาล นับ 2 ที่นี่ นับ 1 ที่อาบูดาบี แล้วช่วงปิดซีซั่นที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นก็จะมาถึง หลายคนอาจรู้สึกว่าไม่อยากดู ฟอร์มูล่า วัน แล้ว ไม่น่าสนใจเลย เพราะแชมป์นักขับและแชมป์ทีมตัดสินไปอย่างครบถ้วน แต่เดี๋ยวก่อน ไหนๆ ก็ได้แชมป์ไปแล้ว ทำไมถึงไม่อยากเห็นแชมป์กับสุดยอดสถิติที่ยังมีให้ไล่ล่า จะได้เห็นถึงความเป็นไปได้ของทั้งรถและคนที่อาจเป็นหน้าประวัติศาสตร์ซึ่งไม่สามารถเห็นได้บ่อยๆ 


แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน คว้าแชมป์เรียบร้อยแล้ว เขาอาจจะพูดได้ว่าไม่สนใจสถิติใดๆ แต่อย่าลืมว่าเขาสร้างสถิติมาตลอดนับตั้งแต่การเป็นนักขับที่อายุน้อยมากและเป็นแชมป์แรกทั้งที่อายุยังไม่ถึง 19 ปี ตอนนี้เขาอายุ 24 ปี ยังมีสถิติอีกมากมายรอให้ทำลาย 



14 สนาม สู่ 16 สนาม

 

นักขับดัตช์ทุบสถิติเป็นแชมป์มากที่สุด 14 สนามที่ เม็กซิโก ซิตี้ แซงหน้า มิชาเอล ชูมัคเกอร์ในปี 2004 และ เซบาสเตียน เว็ทเทล 2013 ที่ต้องใส่ดอกจันทร์เอาไว้ว่ายังมากกว่านี้ได้อีกถึง 16 สนาม แม้มีเสียงทักท้วงว่า ปีหน้าก็อาจจะทำได้อีก เพราะการเพิ่มจำนวนสนามแข่งตามความเป็นธุรกิจของ เอฟ วัน แต่ต่อให้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ จำนวนแชมป์ที่ได้เมื่อคิดสัดส่วนก็ยังมากกว่าทั้ง ชูมัคเกอร์ และ เว็ทเทล รวมถึง อัลแบร์โต้ อัสคารี่ ในปี 1952 ด้วย


416 คะแนน บวก… 


ลูอิส แฮมิลตัน เคยทำสถิติไว้ที่ 413 คะแนนในปี 2019 และ 403 ในปี 2018 แต่ในปี 2022 นี้ เวอร์สเตปเปน ทำไปมากกว่า แถมยังมี สปรินท์ เรซ ที่เพิ่มคะแนนให้อีกเล็กน้อย และก่อนจะถอนหายใจว่า ก็แน่สิ ปีนี้สนามแข่งมาก และเดี๋ยวจะมากขึ้นในปีหน้า ก็บอลเยว่า ปี 2021 แฮมิลตัน เคยทุบสถิติเดิมในปี 2018 2019 ของตัวเองมาแล้ว แต่ เวอร์สเตปเปน ยังทำได้มากกว่า 


สิ่งที่ยังเหลืออยู่ 


แชมป์ด้วยช่องว่างคะแนนมากที่สุด 


ปี 2013 เว็ทเทล คว้าแชมป์กับ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ด้วยช่องว่าง 155 คะแนน มากกว่า เฟร์นานโด อลอนโซ่ ไม่ต้องคิดเลย เวอร์สเตปเปน พยายามทำอยู่ เหลือ 2 สนามท้าย นำหน้า เซอร์จิโอ เปเรซ เพื่อนร่วมทีม 136 คะแนน หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เปเรซ ไม่สามารถขึ้นโพเดียมด้วยอันดับที่ดีกว่า หรืออะไรก็ตาม 


16+2 โพเดียม


หลังจากจบการแข่งที่ เม็กซิโก ซิตี้ เวอร์สเตปเปน คว้าไปแล้ว 16 โพเดียม และมันจะเพิ่มเป็น 18 โพเดียมหากทำ 2 สนามที่เหลือได้ ซึ่งเทียบเท่ากับปี 2021 ด้วยผลงานที่กำลังต่อเนื่องและความมุ่งมั่น จะมีใครกล้าปฏิเสธว่า ถึงเป็นแชมป์โลกแล้ว แต่ก็ไม่สนใจแชมป์ 2 สนามท้าย เพราะนอกจากเป็นสถิติส่วนตัว สิ่งที่ต้องแสดงให้เห็นคือความยอดเยี่ยมของทีมที่มุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ และไม่ยอมให้ใครดีกว่า 


แชมป์ 103 สนาม


สถิตินี้เป็นของ ลูอิส แฮมิลตัน 103 สนาม แชมป์มากที่สุดใน ฟอร์มูล่า วัน ซึ่งหากย้อนอดีตไปสมัยที่ ชูมัคเกอร์ เป็นแชมป์ 91 สนาม ตอนนั้นก็ไม่มีใครคาดคิดว่าสถิตินี้จะโดนทำลายลงได้ และก็อย่างที่คิดนั่นล่ะ อนาคตการแข่งขันในแต่ละปีปฏิทินจะเพิ่มขึ้น โอกาสก็จะเข้ามาหาแชมป์หน้าใหม่ นักขับรุ่นใหม่มากกว่าเดิม โดยปัจจุบัน เวอร์สเตปเปน โอบกอดชัยชนะไว้ 34 สนาม 


หากนับ 2 ปีล่าสุดที่คว้าแชมป์มาได้เฉลี่ยปีละ 12 สนาม นักขับดัตช์อาจทำลายสถิตินี้ในปี 2028 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของสัญญาระยะยาวที่ เร้ดบูลล์ มอบให้ ถึงตอนนั้นเขาจะอายุ 31 ปี ถือว่าไม่มากเลยในยุคที่แฟนๆ ยังเห็น เฟร์นานโด อลอนโซ่ โลดแล่นในวงการได้ด้วยวัย 40 ปี แต่นั่นก็เป็นเรื่องอนาคต


แชมป์ติดต่อกันมากที่สุด ได้แชมป์อย่างน้อยปีละ 1 สนาม


ตอนนี้ ลูอิส แฮมิลตัน คว้าแชมป์เป็นประจำสม่ำเสมอ นับได้ 15 ฤดูกาลเข้าไปแล้ว ซึ่งสถิตินี้จะอยู่ต่อไป บวกเพิ่มเป็น 16 หากแชมป์โลก 7 สมัยเอื้อมมือคว้าแชมป์สัก 1 จาก 2 สนามที่เหลือของซีซั่นนี้ หลังจากพลาดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า ตลอดปี 2022 ทำได้อย่างมากที่สุดแค่อันดับ 2 


เวอร์สเตปเปน เริ่มต้นแชมป์แรกเมื่อปี 2016 และแม้ เร้ดบูลล์ มีข้อบกพร่องมาก ใช้เวลาหลายปีไต่เต้ากว่าจะได้แชมป์โลกคนใหม่อยู่กับทีมในปี 2021 แต่ที่จริง นักขับวัย 24 ก็คว้าแชมป์ไม่ขาด 7 ปีแล้ว หากเขาไม่เบื่อวงการนี้เพราะคว้าแชมป์จนหมดความท้าทาย ในปีก 8 ปีข้างหน้าก็จะทาบสถิติของทั้ง ชูมัคเกอร์ และ แฮมิลตัน


คะแนนรวมตลอดอาชีพมากที่สุด


ก่อนจะพูดถึงสถิติเดิม อยากให้ทุกคนลืมว่าในอดีตมีการแข่งขันไม่มากมายเท่ากับในปัจจุบัน และอย่างที่บอกไปว่า อนาคตการแข่งขันจะเพิ่มขึ้น มากขึ้น หรืออาจมีระบบการคิดคะแนนไม่เหมือนเดิม ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ อาจจะเกิดหรืออาจจะไม่ แต่เอาเป็นว่ามีความเป็นไปได้อยู่


สถิติที่มากที่สุดตอนนี้ ลูอิส แฮมิลตัน ยังสะสมไว้เรื่อยๆ ไม่หยุด 4,381.5 คะแนนแล้ว และเขายังไม่เลิกอาชีพนักขับ ขณะที่ เวอร์สเตปเปน ทำไว้ 1,973.5 คะแนน มากที่สุดเป็นอันดับ 4 ไม่ต้องถามว่าเขาจะอยู่อีกกี่ปี หากเขารักความท้าทาย เขามีอนาคตอันสดใสแน่นอน จากนั้นคำนวณคร่าวถึงความเป็นยอดทีมของ เร้ดบูลล์ ที่จะช่วยให้ เวอร์สเตปเปน ได้ปีละเฉลี่ย 300 คะแนน อย่าพูดว่าไม่ หรือเป็นไปไม่ได้ในวงการนี้


แชมป์โลกติดต่อกันมากสมัยที่สุด 


สถิติที่ผ่านมา มีนักขับเพียง 4 คนเท่านั้นในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าแชมป์โลกติดต่อกัน 2 สมัยและมากกว่า ชูมัคเกอร์ 5 สมัย (2000-2004) ฮวน มานูเอล ฟานโจ้ 4 สมัย (1954-1957) เซบาสเตียน เว็ทเทล 4 สมัย (2010-2013) และ แฮมิลตัน 4 สมัย (2017-2020) 


เวอร์สเตปเปน คว้ามาแล้ว 2 และเขาเหลือสัญญาอีก 5 ปี คงไม่ต้องทวนซ้ำว่า เร้ดบูลล์ คือทีมใหญ่ของวงการที่จะทำทั้งรถที่ดีที่สุด เฟ้นหานักขับที่ดีที่สุด และการพัฒนาแบบไม่หยุดยั้ง 4 สมัยที่เคยเกิดขึ้นกับ เว็ทเทล อาจโดนทำลายลงได้ แต่ก่อนอื่น พวกเขาควรเริ่มต้นปี 2023 ด้วยรถที่ดีก่อน เพราะสิ่งที่หลงเหลือให้ไขว่คว้าทั้ง เวอร์สเตปเปน และ เร้ดบูลล์ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่มีรถที่ดีและทีมที่มุ่งมั่น 

F1DRIVE

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial