เรกรากีชี้ลูกทีมสู้เต็มที่แล้ว แม้สุดท้ายจะต้องพ่ายฝรั่งเศส

ในเกมรอบรองชนะเลิศ โมร็อกโก ที่เจอปัญหานักเตะแนวรับบาดเจ็บหลายราย และบางคนก็ต้องเข็นลงสนาม ไม่ว่าจะเป็น โรแม็ง ซาอิสส์ หรือ นูสซาอีร์ มาซราอุย โดน ฝรั่งเศส ออกนำไปก่อนตั้งแต่ 5 นาทีแรกของเกมจาก เตโอ แอร์กน็องเดซ แม้ว่าในครึ่งหลังพวกเขาจะพยายามยกระดับเกมอย่างเต็มที่ และมีโอกาสเกือบตีเสมอได้หลายครั้ง แต่ท้ายที่สุดแล้ว ฝรั่งเศส ก็มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะในนาทีที่ 79 จากการยิงซ้ำจ่อๆ หน้าประตูของ ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ทำให้จบเกม โมร็อกโก ต้องเป็นฝ่ายแพ้ไป 0-2 พลาดโอกาสสร้างประวัติศาสตร์เข้าไปชิงชนะเลิศในที่สุด

อย่างไรก็ตาม หลังจบเกม เรกรากี กุนซือวัย 47 ปีของโมร็อกโกได้กล่าวว่า เขาพอใจกับความทุ่มเทของลูกทีมทุกคน และภูมิใจที่ โมร็อกโก สามารถเดินทางมาถึงรอบนี้ในฟุตบอลโลก โดยกล่าวว่า "พวกเราทุ่มเทและพยายามกันอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ผมมองว่าสำคัญที่สุด"

"เราต้องเจอกับปัญหานักเตะบาดเจ็บหลายราย ไม่ว่าจะเป็น (นาเยฟ) อาเกิร์ด ที่ไปเจ็บในช่วงวอร์มก่อนเกม (โรแม็ง) ซาอิสส์ และ (นูสซาอีร์) มาซราอุย ที่ก็ต้องโดนเปลี่ยนออกจากสนามตั้งแต่ครึ่งแรก"

"การเจอกับทีมอย่างฝรั่งเศส ความผิดพลาดเพียงนิดเดียวนำมาซึ่งความเสียหายที่ใหญ่หลวง ผลงานแบบในครึ่งแรกไม่มีทางเลยที่เราจะผ่านไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศได้"

"ครึ่งหลังเราทำได้ดีกว่าเดิม แม้ว่าประตูที่สองของเกมจะทำให้ความหวังของเราหมดลงอย่างสิ้นเชิง แต่มันก็ไม่สามารถแย่งทุกอย่างที่เราทำได้ในช่วงก่อนหน้านี้ไปได้"

ทั้งนี้ ภารกิจของ โมร็อกโก ยังไม่จบลง โดยพวกเขายังเหลือเกมรอบชิงอันดับที่ 3 ที่ต้องเจอกับ โครเอเชีย ในวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคมนี้ ซึ่งถ้าหาก โมร็อกโก ชนะ ก็จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ กลายเป็นทีมจากแอฟริกาทีมแรกที่มาได้ไกลถึงอันดับที่ 3 ในฟุตบอลโลก หลังจากที่ก่อนหน้านี้เพิ่งสร้างสถิติเป็นทีมจากกาฬทวีปทีมแรกที่ผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศรายการนี้