สื่ออังกฤษยืนยัน 'เซอร์จิม' ร่วมวงเทคโอเวอร์ปีศาจแดง

ตระกูลเกลเซอร์ ที่มี โจเอล และ อัฟราม เกลเซอร์ นั้น เป็นผู้ถือหุ่นส่วนใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด และเป็นเจ้าของทีมปีศาจแดงมาตั้งแต่สมัยที่ มัลคอล์ม เกลเซอร์ ผู้เป็นพ่อได้เทคโอเวอร์สโมสรสำเร็จในปี 2005 อย่างไรก็ตาม แนวทางการบริหารงานของเจ้าทีมชาวอเมริกันตระกูลนี้ไม่เคยได้รับความชื่นชมจากแฟนบอลปีศาจแดงทั้งในอังกฤษและต่างประเทศ เนื่องจากหลายฝ่ายมองว่าตระกูลเกลเซอร์สนใจแต่ในเรื่องทำธุรกิจและแสวงผลกำไรเท่านั้น โดยที่ไม่ได้สนใจในมิติของฟุตบอลสักเท่าไหร่

แม้ว่าจะใช้เงินซื้อนักเตะเกือบ 1,000 ล้านปอนด์ นับตั้งแต่ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือจากการเป็นกุนซือเมื่อปี 2013 ก็ตาม แต่ทีมปีศาจแดงกลับมีผลงานตกต่ำ และไม่เคยประสบความสำเร็จคว้าแชมป์รายการใหญ่ได้อีกเลย แม้ว่าระหว่างทางจะเคยได้แชมป์เอฟเอ คัพ ในยุคของ หลยุส์ ฟาน กัล, แชมป์ ลีก คัพ และ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ แต่สำหรับแชมป์พรีเมียร์ลีกและ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น ไม่เคยมีความใกล้เคียงแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา อยู่ๆ ตระกูลเกลเซอร์กลับประกาศว่าพร้อมที่จะขายกิจการของสโมสรแล้ว ทำให้กลายเป็นข่าวใหญ่และได้รับความสนใจจากหลายกลุ่มทุนจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในจีน, ตะวันออกกลาง และในสหรัฐอเมริกา และเมื่อไม่นานมานี้มีรายงานว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะทำการพิจารณาข้อเสนอในเดือนกุมภาพันธ์นี้ และจะได้ทราบกันว่าใครจะเข้ามาเป็นเจ้าของรายใหม่ภายในเดือนมีนาคม

ล่าสุด รายงานจาก เดอะ ไทม์ส ระบุว่า Ineos บริษัทด้านเคมีภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก ซึ่งมี เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ เป็นเจ้าของ จะเข้าสู่การแข่งขันในการซื้อกิจการของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ โดยมหาเศรษฐีชาวอังกฤษรายนี้ ซึ่งได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ ให้เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเกาะอังกฤษ มีความสนใจที่จะเป็นเจ้าของทีมปีศาจแดงมาโดยตลอด เนื่องจากเขาเป็นแฟนบอลของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตัวยง ซึ่งปัจจุบันเขาก็เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสรนีซ ใน ลีก เอิง ฝรั่งเศส ด้วย

อย่างไรก็ตาม เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ยังต้องแข่งขันกับกลุ่มทุนอีกหลายแห่ง ซึ่งเชื่อกันว่าไม่ใช่มีเขาเพียงแค่รายเดียวที่สนใจเป็นเจ้าของทีมปีศาจแดง โดยน่าจะมีกลุ่มทุนจากเอเชีย, ตะวันออกกลาง และ สหรัฐอเมริกา ที่เข้าร่วมแข่งขันด้วยเช่นกัน แต่ยังไม่มีการประกาศรายชื่อออกมาแต่อย่างใด

ทั้งนี้ สำหรับราคาขายที่ทางตระกูลเกลเซอร์ตั้งเอาไว้นั้น เชื่อว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 6-7 พันล้านปอนด์ หรือราว 2.4-2.8 แสนล้านบาท หลังจากที่ใช้เงินเพียง 800 ล้านปอนด์ (32,400 ล้านบาท) เทคโอเวอร์ทีมปีศาจแดงมาเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองเมื่อ 18 ปีก่อน