ราชันชุดขาวเล่นสบาย รอรับมือเชลซีที่ต้องบุกเข้าใส่สถานเดียว

ราชันชุดขาวเล่นสบาย รอรับมือเชลซีที่ต้องบุกเข้าใส่สถานเดียว
ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง เรอัล มาดริด จะรับการมาเยือนของ เชลซี โดยเกมนี้มาดริดค่อนข้างได้เปรียบพอสมควร จากการชนะมาได้ก่อนในเกมแรก 3-1 ทำให้จะเล่นแบบรอจังหวะได้ ตรงข้ามกับ เชลซี ที่ไม่มีทางเลือก ต้องเปิดเกมบุกเข้าใส่หากหวังจะพลิกสถานการณ์กลับมาเข้ารอบ ซึ่งดูแล้วค่อนข้างเป็นไปได้ยาก

พรีวิวฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง

เรอัล มาดริด พบ เชลซี (ผลนัดแรก เชลซี 1-3 เรอัล มาดริด)

สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว

เวลา : 02:00 น. วันพุธที่ 13 เมษายน 2565 (แข่งคืนวันอังคาร) (beIN Sports 1 ช่อง 607)


เรอัล มาดริด

ทีมราชันชุดขาวของ คาร์โล อันเชลอตติ โอกาสเข้ารอบตัดเชือกค่อนข้างสดใสเป็นอย่างมาก หลังเกมแรกบุกไปอัด เชลซี มาได้ก่อน 3-1 จากการเล่นที่ยอดเยี่ยมของ คาริม เบนเซม่า นอกจากนี้พวกเขายังคงมีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง ชนะมา 3 เกมติดต่อกันแล้วในทุกรายการ และถ้าดูฟอร์ม 9 นัดหลังสุดพวกเขาชนะ 8 แพ้ 1 ผลงานในเกมล่าสุดคือการเอาชนะ เคตาเฟ่ ได้ 2-0 ในเกม ลา ลีกา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้พวกเขานำโด่งเป็นจ่าฝูงใน ลา ลีกา ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง บาร์เซโลน่า ถึง 12 แต้ม แม้จะแข่งมากกว่า 1 เกมก็ตาม เรียกได้ว่าหายห่วงจริงๆ


ทางด้านสภาพทีมล่าสุด เรอัล มาดริด จะยังคงไม่มี เอแด็น อาซาร์ และ ลูก้า โยวิช ที่ยังบาดเจ็บเหมือนเดิม ส่วน แฟร์กล็อง เมนดี้ แบ็กซ้ายตัวหลักมีอาการเจ็บเล็กน้อย ถ้าลงเล่นไม่ได้ก็จะเป็นหน้าที่ของ นาโช่ เฟร์นานเดซ รอเสียบแทน ส่วนตำแหน่งอื่นไม่มีปัญหาอะไร และบรรดาตัวหลักก็ยังอยู่กันครบ โดยเฉพาะ คาริม เบนเซม่า ที่กลายเป็นคนสำคัญที่สุดของทีมไปแล้วในเวลานี้


เชลซี

หลังจากที่เสียท่าฟอร์มสะดุดแพ้มา 2 เกมติดต่อกัน แถมยังโดนยิงรวมกันถึง 7 ประตู ล่าสุด เชลซี ก็เรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้อีกครั้ง หลังบุกไปถล่ม เซาธ์แฮมป์ตัน ขาดลอย 6-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือว่าเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ทันเวลาก่อนเกมสำคัญที่จะไปเยือน เรอัล มาดริด พอดี หลังจากที่เกมแรกแพ้คาบ้านมาก่อน 1-3 แม้ว่าโอกาสจะพลิกสถานการณ์กลับมาเข้ารอบของ เชลซี จะค่อนข้างยาก เพราะตามสถิติของ แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้ว หากเกมแรกในรอบน็อคเอาท์แพ้มาด้วยความห่าง 2 ประตูขึ้นไป โอกาสที่จะพลิกกลับมาเข้ารอบได้นั้นแทบไม่มี แต่ถ้ายังมีความหวังอยู่ อะไรก็ยังเกิดขึ้นได้


ในส่วนของสภาพทีม เกมนี้ โธมัส ทูเคิ่ล จะไม่สามารถใช้งาน เบน ชิลเวลล์, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, รอสส์ บาร์คลี่ย์ และ โรเมลู ลูกากู ที่บาดเจ็บทั้งหมด แต่ที่เหลือไม่มีปัญหา พร้อมลงช่วยทีมทั้งหมด โดยแนวรุก ติโม แวร์เนอร์ น่าจะยังได้รับโอกาสต่อเนื่องหลังจากเกมล่าสุดเพิ่งจะยิงมา 2 ประตู


ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ : ดาเนียล การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, ดาวิด อลาบา, นาโช่ เฟร์นานเดซ : โทนี่ โครส, กาเซมิโร่, ลูก้า โมดริช : เฟเด วัลเวร์เด้, คาริม เบนเซม่า, วินิซิอุส จูเนียร์ 


เชลซี (3-4-1-2) : เอดูอาร์ เมนดี้ : อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ : รีซ เจมส์, จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ กองเต้, มาร์กอส อลอนโซ่ : เมสัน เมาท์ : ติโม แวร์เนอร์, ไค ฮาแวร์ตซ์ 


ความน่าจะเป็น : โอกาสของ เชลซี เหลือไม่มากหลังแพ้มาก่อนในเกมแรก 1-3 แถมยังต้องออกมาเยือน ซานติอาโก้ เบร์นาเบว อีกด้วย อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีทางเลือก ต้องเปิดเกมรุกแลกเต็มที่ ตรงกันข้ามกับ เรอัล มาดริด ที่เล่นแบบรอจังหวะได้ ทำให้เกมนี้ เชลซี น่าจะพยายามเล่นเกมรุกมากกว่า แต่ถ้าไม่ระวังให้ดี อาจจะโดนเกมสวนกลับของมาดริดเล่นงาน ซึ่ง คาร์โล อันเชลอตติ ถนัดให้ทีมเล่นในสไตล์นี้อยู่แล้ว รูปเกมอาจจะไม่หนีกันมาก แต่จากการที่ราชันชุดขาวได้เปรียบค่อนข้างมาก น่าจะทำให้พวกเขาเล่นอย่างสบายใจ และถ้า เชลซี บุกมากเกินไปอาจเจอเล่นงานไม่รู้ตัวได้ 


สกอร์ที่คาด : เรอัล มาดริด ชนะ เชลซี 2-1

ภาพจาก Getty Images

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial