ตัดเกรดช้างศึกU23 ไปไม่ถึงแชมป์ แต่ได้บทเรียนเพียบ

ตัดเกรดช้างศึกU23 ไปไม่ถึงแชมป์ แต่ได้บทเรียนเพียบ
ตัดเกรดให้คะแนน นักเตะทีมชาติไทย ในเกมที่พ่าย เวียดนาม 0-1 ในศึกฟุตบอลU23 ชิงแชมป์อาเซียน รอบชิงชนะเลิศ

รูดม่านปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศกัมพูชา เป็นเจ้าภาพ โดยแชมป์ตกเป็นของ ทีมชาติเวียดนาม ที่สามารถเอาชนะ ทีมชาติไทย ไปด้วยสกอร์ 1-0

โดยเกมนัดชิงชนะเลิศเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา(26 ก.พ. 65) บรรดานักเตะทีมชาติไทยของเราจะทำผลงานได้เป็นอย่างไรกันบ้าง ไปติดตามกัน...

ผู้รักษาประตู

หมายเลข 1 ณรงค์ศักดิ์ เนื่องวงษา : 6.5 คะแนน
ได้ลงเฝ้าเสาอย่างต่อเนื่องในเกมตัดสินแชมป์ ซึ่งภาพรวมเจ้าตัวก็มีจังหวะอ่านเกมออกมาตัดบอลสวยๆ รวมถึงโชว์เซฟสำคัญๆช่วยทีมเอาไว้ได้หลายครั้ง ส่วนประตูที่เสียก็หมดปัญญาที่จะป้องกันได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าจุดเริ่มต้นนั้นมาจากความผิดพลาดของตัวเองที่ปัดบอลจากลูกเตะมุมไม่ขาด ทำให้คู่แข่งได้โอกาสโจมตีต่อเนื่อง และแนวรับก็เสียกระบวนจนโดนขึ้นนำในช่วงเวลาสำคัญท้ายครึ่งแรก


กองหลัง


หมายเลข 27 อนุศักดิ์ ใจเพชร : 6 คะแนน

เกมนี้เจ้าตัวโดนจับโยกไปเล่นแบ็กขวา เพื่อแก้ปัญหาที่ทีมขาด วาริส ชูทอง ตัวหลักที่ติดโควิด-19 ทำให้จังหวะเติมเกมรุกดูจะไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ หากเทียบกับหลายๆเกมที่ วาริส ทำผลงานเอาไว้ แต่เกมรับถือว่าทำหน้าที่ได้ดีตามมาตรฐานตัวเอง ก่อนจะถอยลงเล่นเซ็นเตอร์ในช่วงท้าย

หมายเลข 5 ชนภัช บัวพันธ์ : 6.5 คะแนน
ยังคงปักหลักในตำแหน่งเซ็นเตอร์ ซึ่งแม้จะไม่ได้จับคู่กับ อนุศักดิ์ เหมือนกันในทุกเกมที่ผ่านมา แต่เจ้าตัวก็ยังทำผลงานได้ดี มีจังหวะโหม่งบอลสวยๆและตัดเกมรุกคู่แข่งหลายครั้งด้วยลีลาที่ดุดันเหมือนเดิม ถือเป็นอีกหนึ่งกองหลังที่น่าจับตามองยาวๆ

หมายเลข 4 ธีร์กวิน จันทร์ศรี : 6 คะแนน
ได้โอกาสลงสนามในฐานะตัวจริงเป็นนัดแรก หลังจากหลายเกมก่อนหน้านี้รับบทบาทตัวสำรองมาตลอด ซึ่งภาพรวมเจ้าตัวก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดี แต่อาจจะต้องเพิ่มในเรื่องของความแข็งแกร่ง และดุดันมากกว่านี้ เพราะในหลายๆจังหวะก็โดนคู่แข่งใช้ความใหญ่เบียดชิงเหลี่ยม แต่ด้วยอายุที่ยังน้อยถือว่าน่าสนใจหากเจ้าตัวกลับมายกระดับตัวเองได้ดีกว่าเดิม

หมายเลข 3 ธวัชชัย อินทร์ประโคน : 7 คะแนน
ยังคงความยอดเยี่ยมในเกมริมเส้นฝั่งซ้ายของทีมชาติไทย ทั้งจังหวะเกมรับที่ตัดบอลสวยๆเอาไว้ได้หลายครั้งและการเติมเกมรุกที่พยายามเชื่อมเกมกับเพื่อนตลอดเวลา แต่น่าเสียดายที่ไม่ค่อยจะไปได้ถึงสุดเส้นหลัง เพราะเราเสียบอลง่ายกันเกินไป ทำให้ความอันตรายในเกมรุกดูจะลดลงไปหากเทียบกับหลายๆเกมที่ผ่านมา


กองกลาง


หมายเลข 6 สิทธา บุญหล้า : 6 คะแนน
เป็นอีกครั้งที่เจ้าตัวโดนเกมบีบเร็วเข้าใส่ทำให้หลายจังหวะต้องรีบออกบอล ส่งผลต่อคุณภาพตรงกลางที่ไม่ค่อยนิ่งเท่าที่ควร และพอหัวใจสำคัญตรงกลางไม่สามารถจับจังหวะได้ก็ทำให้จังหวะต่อบอลดูจะขาดๆเกินๆไป เกมรุกก็เลยดูสะดุดและไม่ไหลลื่นอย่างที่ควรจะเป็น

หมายเลข 7 คคนะ คำยก : 6.5 คะแนน
กลับมาลงบัญชาเกมในแดนกลางอีกครั้งในนัดนี้ หลังจากไม่มีชื่อในเกมรอบรองชนะเลิศ ซึ่งเจ้าตัวก็ยังคงมาตรฐานการเล่นที่ดีในการสร้างสรรค์เกมรุก แต่ก็มีหลายครั้งที่พอโดนบีบเร็วกลายเป็นว่ามีความผิดพลาดให้เห็นอยู่บ้าง แต่โดยภาพรวมก็ถือว่าเป็นคนที่เล่นงานเกมรับคู่แข่งได้ดี แต่น่าเสียดายที่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันที่จะทำให้ทีมได้ประตู

หมายเลข 12 ธนวัฒน์ ทรายเพชร : 6.5 คะแนน
ยังคงทำผลงานส่วนตัวได้ดีอีกหนึ่งนัด แม้บางจังหวะอาจจะดูขาดๆเกินๆเนื่องจากโดนคู่แข่งบีบให้เล่นเกมเร็ว ส่งผลให้ความแน่นอนก็ลดลงไปด้วย แต่ถึงกระนั้นก็ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น และมีจังหวะจบสกอร์นอกกรอบสวยๆให้นายทวารคู่แข่งต้องออกแรงเซฟ ถือเป็นอีกหนึ่งนักเตะของทีมชาติไทยที่น่าจะฝากอนาคตเอาไว้ได้เลย


กองหน้า


หมายเลข 19 เกริกพล อาบรัมย์ : 6.5 คะแนน
เป็นอีกหนึ่งแนวรุกของทีมชาติไทย ที่รักษามาตรฐานการเล่นที่ดีของตัวเองได้ มีหลายครั้งที่เจ้าตัวได้โอกาสลากเลื้อย ใช้ความเร็วเล่นงานคู่แข่ง แต่น่าเสียดายที่เพื่อนร่วมทีมไม่สามารถเปลี่ยนโอกาสเป็นสกอร์ได้ ซึ่งโดยภาพรวมแล้วเขาถือเป็นอีกหนึ่งแนวรุกของไทยที่น่าจับตามองยาวๆ เพราะมีโอกาสที่จะได้พัฒนาตัวเองอีกเยอะ

หมายเลข 28 ธนาวุฒิ โพธิ์ชัย : 6 คะแนน
ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรกในฐานะกองหน้าตัวเป้า แทนที่ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ดาวยิงที่ไม่สามารถลงสนามได้จากปัญหาโควิด-19 ซึ่งในช่วงต้นเกมก็ดูหวือหวาและมีจังหวะจบสกอร์ชนเสา แต่ก็มีหลายครั้งที่ในเรื่องการตัดสินใจยังไม่แน่นอน เพราะด้วยอายุที่เพียงแค่ 16 ปี ทำให้ขาดลูกประสบการณ์ แต่โดยภาพรวมถือเป็นอีกหนึ่งทัวร์นาเมนต์ที่แจ้งเกิด และน่าติดตามพัฒนาการของแข้งรายนี้แบบยาวๆ

หมายเลข 22 วรเดช บุญมาขจรกิจ : 6 คะแนน
เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้โอกาสลงสนามเป็น 11 คนแรกในเกมนี้ แทนที่ นิพิฐพนธ์ วงศ์ปัญญา ที่เจอโควิด-19 เล่นงาน แต่ก็ต้องยอมรับว่าคุณภาพโดยรวมยังดูเป็นรองอยู่พอสมควร ซึ่งเจ้าตัวก็พยายามแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะช่วยทีมทำเกมรุก และพยายามที่จะถอยลงมาช่วยเกมรับหลายครั้ง อย่างไรก็ตามถือเป็นอีกหนึ่งคนที่ยังพัฒนาได้อีกไกล


ตัวสำรอง


หมายเลข 18 ศตวรรษ ลีลา : 5.5 คะแนน
ได้โอกาสลงมาเป็นตัวสำรองแทนที่ วรเดช บุญมาขจรกิจ ในช่วงราวๆครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกม แต่ก็ยังไม่ได้โอกาสที่จะสร้างความแตกต่างในสนามให้ทีมได้เท่าที่ควร เพราะด้วยสถานการณ์ที่เป็นรอง ทำให้คู่แข่งลงไปแพ็คเกมรับกันแน่นจนแทบจะไม่เปิดพื้นที่ให้ได้เล่นง่ายเลย

หมายเลข 17 ธุวานนท์ บุญมา : 5.5 คะแนน
ถูกส่งลงสนามมาเพื่อเพิ่มมิติในเกมรุก แต่ด้วยเวลาและสถานการณ์ที่ทีมตามหลังทำให้แทบจะไม่ได้เล่นในแบบที่ตัวเองถนัด สุดท้ายจึงไม่สามารถช่วยทีมได้ตามที่คาดหวัง

หมายเลข24 โทนี โรล็องต์ กอนเนต : ไม่สามารถให้คะแนนได้
มีเวลาในสนามน้อยไปหน่อย บวกกับสถานการณ์ที่ทีมตามหลัง ทำให้ยังไม่ได้โชวผลงานและวัดผลออกมาเป็นคะแนนได้

หมายเลข 14 เสกสรรค์ ราตรี : ไม่สามารถให้คะแนนได้
ถูกส่งลงมาในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เลยแทบจะไม่ได้มีจังหวะสร้างความอันตราย ไม่ได้โชวผลงานและวัดผลออกมาเป็นคะแนนได้

กมายเลข 21 สงครามสมุทร น้ำผึ้ง : ไม่สามารถให้คะแนนได้
เป็นอีกคนที่ถูกส่งลงมาในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ มีเวลาในสนามน้อยไปหน่อย เลยไม่สามารถวัดผลออกมาเป็นคะแนนได้

สุดท้ายแม้ว่าทีมชาติไทย จะไปไม่ถึงตำแหน่งแชมป์ แต่ถ้าย้อนกลับไปในวันแรกก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ ไม่มีใครคาดคิดว่าทีมชุดนี้ที่แบกอายุในสนามหลายปี เจอคู่แข่งที่โตกว่าจะทำได้เกินความคาดหมาย

การเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศถือเป็นโบนัสและผลงานที่น่าชื่นชมแล้ว แถมยังเป็นโอกาสดีดีที่นักเตะทุกคนแทบจะหาไม่ได้อีกแล้วกับการได้ลงเล่นในระดับทีมชาติ

หลายคนดูมีอนาคตที่สดใสรออยู่ สิ่งเดียวที่อยากจะฝากน้องๆในทีมชุดนี้คือเมื่อกลับมาแล้วก็จะต้องมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป ในแบบที่คูณสองคูณสามเพื่อที่จะยกระดับฝีเท้าตัวเองให้สูงขึ้น เพราะพวกน้องคือความหวังของแฟนฟุตบอลไทยทุกคน

และดูจากผลงานที่เกิดขึ้นตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์นี้ เชื่อว่าแฟนฟุตบอลไทยก็ได้เห็นในความสามารถของเด็กไทยกันไปแล้ว เหลือเพียงแค่จากนี้ต่อไปแต่ละคนจะกลับมาต่อยอด พัฒนาตัวเองได้ดีขนาดไหน เพราะต้องไม่ลืมว่านี่เพิ่งจะเป็นเพียงแค่ก้าวแรก และก้าวสั้นๆกว่าจะถึงความสำเร็จนั้นยังคงหนทางอีกยาวไกล

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนกลับมามุ่งมั่นเพื่อหวังว่าจะพาทีมชาติไทยของเราเข้าใกล้กับคำว่าระดับเอเชียและระดับโลกให้มากกว่านี้...


"บิ๊ก กิโล10"

FA Thailand

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial