SUPER BOWL LVI - KEY PLAYERS

SUPER BOWL LVI  - KEY PLAYERS
ผู้เล่นสำคัญ ไม่รู้จักทุกคนก็ดูสนุกได้ ถ้ารู้จักบทบาทที่จะขับเคลื่อนทีม และขัดขาคู่แข่ง

แม็ทธิว แสตฟฟอร์ด (9, แอลเอ แรมส์)

“มนุษย์ยางยืด” (Mr. Resilience) 


สื่อหลายเจ้าเชื่อว่า แรมส์ ทุ่มสุดตัวเพื่อความสำเร็จในครั้งนี้ หลังจากผิดหวังเมื่อ 4 ปีก่อน ที่จริงแล้วพวกเขาทุ่มสุดตัวเสมอ เพียงแค่ในครั้งนี้รูปแบบแตกต่างกันออกไป พวกเขาหวังให้ จาเร็ด กอฟฟ์ อยู่กับทีมไปอีกหลายปี แต่หลังจากพลาดหวังในปี 2018 กอฟฟ์ เหมือนเมาหมัดไม่ฟื้น 


แสตฟฟอร์ด ในวัย 33 ปีโดนเทรดเข้ามา ด้วยความเชื่อว่าประสบการณ์ของเขาจะช่วยทีมได้ และมันเกิดขึ้นจริงในเกมกับ ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตี้นายเนอร์ส เมื่อตาม 10 คะแนนในควอเตอร์สุดท้าย ดาวน์ 3 เหลือ 3 หลาเพื่อเปลี่ยนดาวน์แรก แต่มันกลายเป็น 25 หลาถึง คูเปอร์ คัพพ์ เกมนั้น แรมส์ เปลี่ยนดาวน์3 หลายครั้ง โดยควอเตอร์แบ็คที่ไม่หวั่นไหว ทำให้หลายครั้งในซีซั่นนี้ ฌอน แม็คเวย์ เรียกควอเตอร์แบ็คของเขาว่า “มนุษย์ยางยืด” (ซึ่งเป็นคนละอย่างกับ ลูฟี่ ใน วัน พีซ แต่หมายถึงคนที่เด้งไปเด้งกลับ ปรับตัวได้กับทุกสถานการณ์) 


โจ เบอร์โรว (9, ซินซินเนติ เบงกอลส์)

“คัมแบ็ค ออฟ เดอะ เยียร์” 


มีคนถกเถียงกันว่า รางวัล คัมแบ็ค ออฟ เดอะ เยียร์ ควรเป็นของ แด็ค พรีสค็อตต์ ควอเตอร์แบ็คของ ดัลลัส คาวบอยส์ เขาปา 5 ทัชดาวน์ในเกมสุดท้ายปิดฤดูกาลอย่างสวยงาม แต่แพ้เกม ไวลด์ การ์ด ให้ ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตี้นายเนอร์ส 


อีกเสียงหนึ่งบอกว่า ต้องเป็นของ โจ เบอร์โรว ต่างหาก ซีซั่น 2020 เขาเดินออกจากสนามไปอย่างเจ็บช้ำในสัปดาห์ที่ 11 ที่จริงยังไม่ต้องได้แชมป์ การพาทีมมาถึงตรงนี้ทั้งที่เป็นทีมรองบ่อนมาตลอด รางวัลคัมแบ็คก็น่าจะเป็นของ เบอร์โรว ได้ ถ้าไม่ลืมว่านี่คือฤดูกาลที่ 2 ในอาชีพเท่านั้น 


คูเปอร์ คัพพ์ (10, แอลเอ แรมส์)

“ว่าที่ MVP” 


เกือบทุกสถิติของ ไวด์ รีซีฟเวอร์ เป็นของ คูเปอร์ คัพพ์ ย้อนกลับไปที่ควอเตอร์สุดท้ายกับ นายเนอร์ส ดาวน์ 3 และ 3 หลา การรับลูกนั้นจาก แสตฟฟอร์ด คือจุดที่ทำให้ แรมส์ กลายเป็นผู้ชนะ และในเกมเพลย์ออฟทั้งหมด ทุกทีมรู้ดีว่าต้องจับ คัพพ์ ให้อยู่ แต่ก็ไม่มีใครทำได้อยู่ดี 


เจ้าของเสื้อหมายเลข 10 อยู่ที่ แอลเอ มานาน 4 ปี แต่สถิติของเขาไปถึงขีดสูดเมื่อ แรมส์ ได้ แสตฟฟอร์ด เข้ามา จึงเกิดการถกเถียงที่น่าสนใจถึงตำแหน่ง MVP ใน ซูเปอร์โบวล์ ถ้าหากไม่ใช่ของควอเตอร์แบ็ค ก็ควรเป็นของ คัพพ์


จามาร์ เชส (1, ซินซินเนติ เบงกอลส์)

“รุกกี้ ออฟ เดอะ เยียร์” 


รางวัลรุกกี้ยอดเยี่ยมประกาศไปเรียบร้อยแล้ว รางวัลนี้เป็นของ จามาร์ เชส สัปดาห์ที่ 17 ในการเจอ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ เขาทำสถิติรับบอล 266 หลามากที่สุดในบรรดารุกกี้ทั้งหมดที่เคยมีมาใน NFL และในเกมชิงแชมป์สาย AFC ยังรับบอลมากที่สุดในเพลย์ออฟ


เชส ทุบสถิติการรับบอลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ เบงกอลส์ ต่อซีซั่นไปแล้วด้วยจากการเข้ามาเพียงปีแรก ด้วยวัย 21 ปี เขาอายุน้อยมาก ทำให้เข้าลีกมาช้ากว่า โจ เบอร์โรว ที่อายุ 25 ปีแล้ว แต่ทั้งสองเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ LSU ตอนที่ได้แชมป์ระดับคอลเลจ นั่นอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ปีแรกในอาชีพเฉิดฉายกว่าที่ใครจะคาดเดา


โซนี่ มิเชล (25, แอลเอ แรมส์)

รันนิ่งแบ็คผู้ไม่พลาดโอกาสโชว์ฝีมือ”


เนื่องจาก แคม เอเคอร์ส (23) มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ โซนี่ มิเชล ได้ลงเล่น แม้หายกลับมาทันฤดูกาลปกติ แต่ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่าเดิม ที่จริงแล้ว มิเชล เป็นสำรองลำดับ 3 เขาไม่ได้ขึ้นมาแทนทันที แต่เป็นสำรองของ ดาร์เรลล์ เฮนเดอร์สัน (27) อีกทีก่อนจะค่อยๆ แทรกตัวขึ้นมา เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าแต่ละคนสร้างความต่างให้ทีมมากน้อยเท่าไร แต่อย่างน้อยแม้ระยะหลาต่อการแคร์รี่อาจไม่มาก ก็พอให้ แสตฟฟอร์ด มีเวลาในพ็อคเก็ตมากขึ้น 


โจ มิกซัน (28, ซินซินเนติ เบงกอลส์)

รันนิ่งแบ็คฝนเวลาที่ต้องการ”


โจ มิกซัน ก็เหมือนผู้เล่นอีกหลายคนใน เบงกอลส์ ทุกคนคิดว่าเขาควรจะไป โปร โบวล์ แต่ปัญหาติดที่ดันต้องไป ซูเปอร์โบวล์ สถิติตั้งแต่เป็นรุกกี้ของเขารักษามาตรฐานเอาไว้โดยตลอด แม้ตั้งแต่ โจ เบอร์โรว เข้ามามีคนมองว่าบทบาทของเขาลดลง แต่การแคทช์ของเขายังดีเหมือนเดิมในเวลาที่ทีมต้องการ


*เพิ่มเติม


แอรอน โดนัลด์ (99, แอลเอ แรมส์)

ว่าที่ตำนานเกมรับ”


ดีเฟนซีฟ ไลน์แมน ที่หากมีแหวนแชมป์ติดมือสัก 2 ครั้งเขาจะกลายเป็นตำนานได้แน่ ตำแหน่งที่มีคนมองว่าอาภัพแต่เขากลับโดดเด่น ทั้งหยุดการวิ่งหรือปัดบอล และทำอะไรที่ใครๆ บอกว่ามีให้ทำไม่กี่อย่าง แต่เขาทำได้ยอดเยี่ยม ตลอด 8 ฤดูกาลในอาชีพติดทีม โปร โบวล์ 8 สมัย ครองตำแหน่งผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยมมาแล้ว 3 ครั้งและไม่เคยทำสถิติหลุดจากท็อป 5 เกมรุกใครว่าแน่ รอเจอได้เลย 


ที ฮิกกิ้นส์ (85, ซินซินเนติ เบงกอลส์)

เอ็กซ์แมน”


ดราฟท์เข้ามาในปี 2020 และกลายเป็นคนที่ทำน้อยแต่มากความหมาย ที ฮิกกิ้นส์ เป็นรีซีฟเวอร์ที่มักจะอยู่วงนอก ป้องกันจากวงนอก คอยปิดคอร์เนอร์แบ็คฝ่ายตรงข้าม 74 แคทช์ 1,094 หลา และ 6 ทัชดาวน์ด้วย 14 จาก 17 เกมในซีซั่นปกติ แคร์รี่ลูกสั้น รับลูกสั้นจาก โจ เบอร์โรว 


ฌอน แม็ค เวย์ (เฮดโค้ช)


เมื่อเข้ามาเป็น เฮดโค้ชที่ แอลเอ แรมส์ ซีซั่นแรก เขาอายุเพียง 30 ปี มาสายตรงด้านโค้ช ไม่เคยเข้าลีกอาชีพหลังจากใช้ชีวิตคอลเลจเป็น ไวด์ รีซีฟเวอร์ เคยร่วมงานกับเฮดโค้ชอีกหลายคนที่อายุมากกว่าทั้ง แม็ตต์ ลาเฟลอร์ (แพ็คเกอร์ส) และ แบรนดอน สเตลีย์ (ชาร์เจอร์ส) 


ตอนนี้ แม็คเวย์ อายุเพียง 36 ปี ควอเตอร์แบ็คบางคนในลีกยังอายุมากกว่าด้วยซ้ำ เป็นคนหนุ่มไฟแรง ที่ไม่สิ้นหวัง และหวังว่าจะกลับมาได้ใน ซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 2 ของตัวเอง


แซ็ค เทย์เลอร์ (เฮดโค้ช)


อดีตโค้ช ไวด์ รีซีฟเวอร์ และโค้ช ควอเตอร์แบ็คภายใต้ทีมของ ฌอน แม็คเวย์ ที่ยกย่องเจ้านายเก่า แต่ก็รู้ดีว่าตัวเองมีหนทางเฉพาะ และน่าจะสืบแนวคิดการลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง ต่อให้ในลีกนี้มีแนวทางปฏิบัติที่ยึดกันมา 20 ปี แต่ไม่ได้แปลว่านั่นคือหนทางเดียว มันมีทางอื่น


เทย์เลอร์ เริ่มต้นปีแรกของตัวเองแบบสุดบู่ ชนะเพียง 2 เกม ซีซั่นต่อมา อาการบาดเจ็บเล่นงาน โจ เบอร์โรว ทำให้แผนที่วางไว้ไม่สวยงาม และเขาค่อยๆ เปลี่ยนทีมทีละน้อย จนกลายเป็นทีมดาวรุ่ง 



ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial