คล็อปป์โวหงส์สมควรชนะ ชมนูนเญซอีกนิดก็แฮตทริก

ในเกมที่สนาม แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งชนะ แมนฯ ซิตี้ มาได้เมื่อสุดสัปดาห์ ได้เล่นในบ้านต่อเจอกับ เวสต์แฮม ที่ไม่แพ้ใครมา 5 เกมติดต่อกันในทุกรายการก่อนหน้านี้ เกมในช่วงแรกถือว่าสูสีกัน โดยที่ ลิเวอร์พูล ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย ก่อนจะออกนำได้ก่อนในนาทีที่ 22 จากจังหวะที่ คอสตาส ซิมิคาส เปิดบอลจากกราบซ้ายโค้งไปให้ ดาร์วิน นูนเญซ โหม่งเช็ดเข้าเสาไกลไปอย่างสวยงาม ช่วยให้เจ้าถิ่นขึ้นนำก่อน 1-0

อย่างไรก็ตาม เวสต์แฮม พลาดโอกาสทองที่จะตีเสมอ หลังจากที่ช่วงท้ายครึ่งแรก โจ โกเมซ ไปพลาดท่ากระแทก จาร์รอด โบเว่น กองหน้าขุนค้อนล้มลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสินต้องดูวีเออาร์ ก่อนจะเป่าให้เป็นจุดโทษของทีมเยือน แต่ โบเว่น ที่ลุกขึ้นมาสังหารเองยิงไปติดเซฟของ อลิสซง เบคเกอร์ ทำให้จบครึ่งแรกสกอร์ยังคงเดิมที่ ลิเวอร์พูล นำ 1-0

ครึ่งหลัง เวสต์แฮม พยายามอย่างหนักที่จะตีเสมอให้ได้ แต่ก็ไม่เฉียบคมกันเอง โดยเฉพาะจังหวะสุดท้ายก่อนหมดเวลา โบเว่น จ่ายบอลให้ โธมัส ซูเช็ค เข้าชาร์จจ่อๆ แต่ไปติดลำตัวของ อลิสซง ทำให้จบ 90 นาที ลิเวอร์พูล เฉือน เวสต์แฮม ไปอย่างหวุดหวิด 1-0 เก็บ 3 แต้มและชนะในเกมลีกได้เป็นนัดที่สองติดต่อกัน

หลังจบเกม คล็อปป์ ให้สัมภาษณ์ว่า "ผมพอใจมาก หลายๆ ส่วนในเกมนี้เราทำได้ดีจริงๆ ตราบใดที่เราเล่นฟุตบอลเราก็มักจะทำได้ยอดเยี่ยม และยังสร้างปัญหาให้ เวสต์แฮม อย่างมากมาย อย่างไรก็ตาม ปัญหาอย่างเดียวของเราคือเราไม่สามารถทำแบบนี้ได้ตลอดทั้ง 95 นาที และเราเปิดโอกาสให้กับพวกเขาอยู่หลายครั้ง"

"เวสต์แฮม เสี่ยงด้วยการส่ง มิคาอิล อันโตนิโอ และคนอื่นๆ ลงสนาม และเล่นบอลยาวได้อย่างอันตราย และทำให้เราต้องเป็นฝ่ายเล่นเกมรับ เรารู้อยู่แล้วว่าเกมนี้จะไม่ใช่เกมที่ง่าย แต่ผมต้องบอกว่าเราคู่ควรเป็นผู้ชนะในเกมนี้และได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ"

"ที่ผ่านมาเรามักโชคไม่เข้าข้างในตอนท้ายอยู่เสมอ แต่วันนี้ไม่เป็นอย่างนั้น มันเป็น 3 คะแนนที่สำคัญ นอกเหนือจากนั้นคือการเซฟจุดโทษที่ยอดเยี่ยมของ อาลี (อลิสซง เบคเกอร์)"

"ประตูขึ้นนำของเรานั้นมหัศจรรย์มาก และถ้าจังหวะดีกว่านี้อีกสักหน่อย ดาร์วิน (นูนเญซ) ก็น่าจะทำแฮตทริกได้เลยด้วยซ้ำ เขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมพรสวรรค์ และอายุเพิ่งจะ 22 ปีเท่านั้น"