สื่ออิตาเลี่ยนแฉลิเวอร์พูล ไม่ได้สนคว้าอาร์ตูร์ตั้งแต่แรก

ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เจอกับปัญหานักเตะบาดเจ็บเล่นงานในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล เมื่อมีนักเตะอยู่ในลิสต์บาดเจ็บยาวเป็นหางว่าวกว่า 10 ราย แถมยังมีปัญหาฟอร์มตก ชนะใครไม่ได้ในการลงเล่น 3 เกมแรก อีกทั้ง ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้ารายใหม่ที่คว้าตัวมาในราคาระดับ 100 ล้านยูโรก็ยังมาโดนใบแดงจนต้องติดโทษแบน 3 นัด ยิ่งทำให้การจัดทีมของ คล็อปป์ ยากลำบากมากขึ้นไปอีก

และเมื่อดูจากขุมกำลังที่มีอยู่ ส่วนที่เป็นปัญหาของทีมมากที่สุดคือแดนกลาง ที่มีนักเตะบาดเจ็บมากเกินไป และเหลือทางเลือกให้ใช้ลงสนามได้เพียงไม่กี่รายเท่านั้น ทำให้ คล็อปป์ ออกมายอมรับว่าทีมต้องการกองกลางเข้ามาเพิ่ม หลังจากก่อนหน้านี้เคยคิดว่าไม่ต้องซื้อใครเข้ามาเพิ่มแล้วในตลาดซัมเมอร์นี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่รับประกันว่าจะมีนักเตะใหม่เข้ามาก่อนที่ตลาดนักเตะจะปิดตัวลงในวันที่ 1 กันยายน

อย่างไรก็ตาม ในวันสุดท้ายของตลาดซัมเมอร์ ลิเวอร์พูล ก็ประกาศยืมตัว อาร์ตูร์ เมโล่ กองกลางชาวบราซิลมาจาก ยูเวนตุส เป็นเวลา 1 ฤดูกาล พร้อมกับมีออปชั่นซื้อขาดในช่วงซัมเมอร์หน้า โดยการมาของกองกลางวัย 26 ปี ซึ่งเคยได้รับฉายาว่า "นิว ชาบี เอร์นานเดซ" สมัยที่ค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า จะช่วยเพิ่มทางเลือกในแดนกลางให้กับทีมหงส์แดง รวมถึงสไตล์การเล่นก็ดูคล้ายกับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ที่มักได้รับบาดเจ็บอยู่เป็นประจำ

อย่างไรก็ดี กัลโช่แมร์คาโต้ ได้รายงานว่าอันที่จริงแล้ว ลิเวอร์พูล ไม่ได้มอง อาร์ตูร์ เป็นตัวเลือกแรกในการเสริมทัพ โดยเป้าหมายแรกคือ เดนิส ซากาเรีย กองกลางตัวรับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ที่อยู่กับ ยูเวนตุส เช่นกันมากกว่า แต่เป็นเพราะตกลงกับทีมม้าลายรวมถึงเงื่อนไขส่วนตัวกับทางนักเตะไม่ได้ เลยทำให้ต้องเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็น อาร์ตูร์ แทน

ขณะที่ในรายของ ซากาเรีย นั้น กลายเป็น เชลซี ที่เข้ามาเจรจากับ ยูเวนตุส และบรรลุข้อตกลงในการยืมตัวกองกลางวัย 25 ปีไปร่วมทีมเป็นเวลา 1 ฤดูกาลแทน พร้อมกับมีออปชั่นซื้อขาดในช่วงซัมเมอร์หน้าเช่นกัน

สำหรับ ซากาเรีย นั้น ถือเป็นกองกลางตัวรับโดยธรรมชาติ และมีส่วนสูงถึง 191 ซม. ซึ่งน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับ ลิเวอร์พูล มากกว่า เนื่องจากในทีมตอนนี้ยังไม่มีตัวแทนของ ฟาบินโญ่ อย่างชัดเจน ขณะที่ตำแหน่งกองกลางเชิงรุกนั้นมีหลายคนที่เป็นทางเลือกได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ และ เคอร์ติส โจนส์