อาร์เตต้าพอใจปืนใหญ่คว้าชัย ชมเอ็นเคเทียห์ฟอร์มสุดยอด

อาร์เซน่อล มีโปรแกรมรับมือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมบ๊วยของตาราง ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเป้าหมายในเกมนี้คือการคว้า 3 แต้มเท่านั้น เพื่อไล่จี้จ่าฝูงอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ให้เหลือ 2 คะแนนตามเดิม หลังทีมไก่เดือยทองชนะไปได้ก่อนตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ ซึ่งเกมนี้ อาร์เตต้า ถือโอกาสพักผู้เล่นบางราย และเปิดโอกาสให้ตัวสำรองบางคนได้ลงสนามด้วย อาทิ เอมิล สมิธ โรว์, ไค ฮาแวร์ตซ์ และ ยาคุบ คิวิออร์

รูปเกมเป็นทีมปืนใหญ่ที่เล่นได้เหนือกว่าตั้งแต่แรก ก่อนที่จะใช้เวลาเพียง 28 นาที ทำประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะเกี่ยวบอลลงมายิงจ่อๆ หน้าประตูของ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ และเป็นประตูเดียวเท่านั้นที่เกิดขึ้นในครึ่งแรก

หลังจากนั้นในครึ่งหลัง อาร์เซน่อล ยกระดับฟอร์มการเล่นมากขึ้น ก่อนจะจัดการยิงอีก 4 ประตูรวด โดย เอ็นเคเทียห์ ทำเพิ่มอีก 2 ประตู ในนาทีที่ 50 และ 58 กลายเป็นแฮตทริก ขณะที่อีก 2 ประตูที่เหลือ เป็นลูกจุดโทษของ ฟาบิโอ วิเอยร่า ในนาทีที่ 88 และ เทเคฮิโร่ โทมิยาสึ กองหลังทีมชาติญี่ปุ่นที่ลงมาเป็นตัวสำรอง ก่อนจะเป็นคนยิงประตูปิดท้ายในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 95 ช่วยให้ทีมปืนใหญ่เอาชนะไปอย่างขาดลอย 5-0 เก็บเพิ่มเป็น 24 แต้มจาก 10 เกม ไล่จี้ สเปอร์ส เหลือเพียง 2 แต้มตามเดิม

ทั้งนี้ หลังจบเกม อาร์เตต้า กล่าวชมลูกทีมว่าเล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยม และมีการพัฒนาฟอร์มการเล่นในระหว่างเกม ช่วยให้ อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายชนะไปด้วยสกอร์ที่ท่วมท้นในที่สุด โดยกล่าวว่า "การเจอกับ เชฟฯ ยูไนเต็ด ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะพวกเขากำลังต่อสู้เพื่อตัวพวกเขาเอง และทีมใหญ่ๆ หลายทีมก่อนหน้านี้ก็เจอกับความยากลำบากในการเอาชนะพวกเขา"

"เราต้องพยายามเล่นด้วยความอดทน นอกจากนี้บรรดานักเตะยังยกระดับฟอร์มการเล่นให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เมื่อเทียบกับในช่วง 20-25 นาทีแรก เราเล่นเกมบุกได้กว่าเดิม และเล่นในเกมฟุตบอลในแบบที่เราต้องการ"

ขณะเดียวกัน อาร์เตต้า ยังไม่ลืมที่จะกล่าวชมเชย เอ็นเคเทียห์ ที่ทำแฮตทริกได้ในเกมนี้ โดยกล่าวว่าทั้ง 3 ประตูเกิดจากการยิงในรูปแบบที่ต่างกัน แต่ เอ็นเคเทียห์ ทำมันได้อย่างสุดยอดในทุกๆ ลูก นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความใจกว้าง ในการมอบโอกาสยิงจุดโทษให้กับ ฟาบิโอ วิเอยร่า อีกด้วย

สำหรับโปรแกรมนัดถัดไป อาร์เซน่อล จะบุกไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในศึก คาราบาว คัพ รอบที่ 4 ในวันพุธที่ 1 พฤศจิกายน ก่อนที่จะต้องบุกไปเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในเกมพรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายนนี้ต่อไป