"โมโตจีพี" สนามที่ 2 ของฤดูกาล

เมื่อสัปดาห์ก่อน ณ เมืองฝอยทอง ในการแข่งขัน  "โปรตุกีส กรังด์ปรีซ์" ที่สนามอัลการ์ฟ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เมืองปอร์ติเมา ประเทศโปรตุเกส "เเชมป์โลกคนล่าสุด" ฟรานเชสโก้ บัญญาญ่า ยอดนักบิดชาวอิตาเลียน จากค่าย ดูคาติ โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมกวาดไปถึง 37 คะแนนเต็ม หลังจากบิดผ่านธงตราหมากรุกเป็นคันเเรก(25 คะเเนน) เเละยังเป็นผู้ชนะในช่วงของ "สปรินท์เรซ" เก็บเเต้มพิเศษเพิ่มอีก 12 คะเเนน

ตามมาด้วย มาเวริค บีญาเลส อดีตแชมป์โลกชาวสเปน จากค่าย อาพริเลีย เเม้ว่าจะบิดเข้าเส้นชัยเป็นคันที่ 2 เเต่ว่าในช่วงของ "สปรินท์เรซ" กลับรั้งเป็นอันดับที่ 5 เลยเก็บเพิ่มได้ทั้งหมดเพียงเเค่ 25 คะเเนนเท่านั้น ตามหลังผู้นำอยู่ 12 คะเเนน

ขณะที่ สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดชาวไทย ที่ลงแข่งขันในรุ่น โมโตทู ออาจจะทำเวลาไม่ดีนักในรอบคัดเลือก โดยออกสตาร์ทจากกริด 13 และสามารถบิดเข้าเส้นชัยได้เป็นอันดับที่ 9 ในสนามแรก เก็บมาครองได้ทั้งหมด 7 คะแนน 

สำหรับสนามต่อไปของ ศึก โมโตจีพี 2023 จะโยกไปดวลความเร็วกันที่ เทอร์มาส เดอ ริโอ ฮอนโด้ ประเทศอาร์เจนติน่า ระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-2 เม.ย.นี้   ในปีที่ผ่านมา "ก้อง" สมเกียรติ ฝากผลงานด้วยการคว้าโพเดียม ในอันดับที่ 2 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

สัปดาห์นี้ "เป็กโก้" บัญญาญ่า ยังได้รับการคาดหมายว่าจะเข้าเส้นชัยเป็นคันเเรก หลังจากผลงานยอดเยี่ยมในศึก "โปรตุกีส กรังด์ปรีซ์" รวมทั้งเมื่อปีที่เเล้วส เจ้าตัว ก็ยังสามารถเร่งเครื่องเข้าเส้นชัยได้เป็นคันที่ 5 ทั้งๆที่ทำเวลาในรอบคัดเลือกไม่ดีเเละออกสตาร์ทในกริด 13

ส่วนอีก 1 คนที่จะประมาทไม่ได้คือ อเล็กซ์ เอสปาร์กาโร่ นักบิดมือดีชาวกระทิงดุ จากค่าย อาพริเลีย เพื่อนร่วมทีมของ บีญาเลส เเม้ว่าในสัปดาห์ที่เเล้ว เจ้าตัว จะเข้าเส้นชัยเป็นคันที่ 9 เเละไม่ได้ขึ้นไปยืนบนโพเดี้ยม เเต่ว่า เจ้าตัว คือคนที่ทำเวลาต่อรอบได้ดีที่สุด เเละเมื่อฤดูกาลที่เเล้ว เจ้าตัว ก็ยังคว้าเเชมป์ "กรังด์ปรีซ์ ออฟ อาร์เจนตินา" มาครองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นเเชมป์เดียวของ เอสปาร์กาโร่ ที่ทำได้ทั้งซีซั่น

การเเข่งขันรายการ "กรังด์ปรีซ์ ออฟ อาร์เจนตินา" เหมือนจะถูกโฉลกกับ "นักบิดชาวสเปน" ในยุคหลังๆ เพราะนับตั้งเเต่กลับมาจัดอีกครั้งเมื่อปี 2014 เเละย้ายมาใช้สนาม เทอร์มาส เดอ ริโอ ฮอนโด้ ปรากฏว่า "นักบิดชาวสเปน" ผลัดกันประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยตลอด 7 ครั้งที่ผ่านมานับตั้งเเต่ปี 2014 มาจนถึงปี 2022(ช่วงโควิคระบาดไม่มีเเข่ง 2 ปี) เเชมป์ตกเป็นของ "นักบิดชาวสเปน" ไปถึง 5 ครั้ง

ไล่ตั้งเเต่ มาร์ค มาร์เกซ คว้าเเชมป์ไปครอง 3 สมัย, อเล็กซ์ เอสปาร์กาโร่ เเละ มาเวริค บีญาเลส เเบ่งเเชมป์กันไปคนละ 1 สมัย โดยมีเพียงเเค่ วาเลนติโน่ รอสซี่ จากอิตาลี เเละ คาร์ล ครัชท์โลว์ จากอังกฤษ ที่สอดเเทรกขึ้นมาเเย่งเเชมป์ได้คนละ 1 ครั้ง 

ยังไม่นับรวมในรุ่นเล็กอย่าง โมโตทู เเละ โมโตทรี ที่มี "นักบิดชาวสเปน" ผงาดคว้าเเชมป์ได้หลายคนเช่นกัน นั่นก็หมายความว่าทั้ง บีญาเลส, เอสปาร์กาโร่, ฆอร์เก้ มาร์ติน, โจอัน เมียร์, ราอูล เฟร์นานเดซ หรือเเม้เเต่ อเล็กซ์ มาร์เกซ ต่างก็มีโอกาสประสบความสำเร็จไม่น้อยในสัปดาห์นี้

แต่ที่น่าจะหมดโอกาสลุ้นเเชมป์เเน่นอนเเล้ว คือ โปล เอสปาร์กาโร่ เเละ "เเชมป์โลก 8 สมัย" มาร์ค มาร์เกซ เพราะต่างก็ได้รับบาดเจ็บในสัปดาห์เเรก เเละดูจากอาการเเล้วน่าจะยังต้องพักฟื้นต่อไปอีกอย่างน้อยๆ 1-2 สัปดาห์(เอเนีย บาสเตียนินี เเละ มิเกล โอลิเวียร่า ก็น่าจะลงเเข่งขันไม่ได้เช่นเดียวกัน) 

ส่วนในรายของ "ก้อง" สมเกียรติ จันทรา ก็น่าจะมีลุ้นพอสมควรที่ เทอร์มาส เดอ ริโอ ฮอนโด้ ประเทศอาร์เจนติน่า หลังจากที่โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมและคว้าอันดับ 2 มาครองได้สำเร็จเมื่อปีก่อน โดยเป็นรองเพียงแค่ เชเลสติโน่ เวียตติ นักบิดชาวอิตาเลียน คนเดียวเท่านั้น 

"เทอร์มาส เดอ ริโอ ฮอนโด้" สังเวียนเเข่งขัน "กรังด์ปรีซ์ ออฟ อาร์เจนตินา" มีความยาวต่อรอบ 4.805 km หรือราวๆ 2.986 ไมล์ส โดยเวลาต่อรอบที่ดีที่สุดคือ 1:39.019 นาที ทำไว้โดย "เดอะ ด็อกเตอร์ส" วาเลนติโน รอสซี่ ยอดนักบิดชาวอิตาลี เมื่อปี 2015

แฟนๆผู้รักความเร็วทุกคนยังสามารถติดตามการถ่ายทอดสด "โมโตจีพี" รวมทั้ง "โมโตทู" เเละ "โมโตทรี" กันได้เช่นเคยทาง ทรูวิชั่นส์ โดยสนามที่ 2 "กรังด์ปรีซ์ ออฟ อาร์เจนตินา" ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม - 2 เมษายนนี้ ถ่ายทอดสดทางช่อง SPOTV (689) 

โปรแกรม ถ่ายทอดสด โมโต จีพี กรังด์ปรีซ์ ออฟ อาร์เจนติน่า ทาง ทรูวิชั่นส์ SPOTV (689)

1. ศุกร์ 31 มีนาคม รอบฝึกซ้อม 18.55 น. / 21.10 น.
2. เสาร์ 1 เมษายน รอบฝึกซ้อม+ รอบควอลิฟายด์ และสปรินท์ เรซ 18.35 น. - 01.45 น.
3. อาทิตย์ 2 เมษายน. รอบแข่งขัน 20.55 น. - 01.00 น.