รู้จัก “ทิโมธี ชาลาเมต์” ดาวรุ่งแห่งยุค กับเสน่ห์ที่โลกหลงรัก

ถ้าพูดถึงนักแสดงหนุ่มที่ทั้งเก่ง หล่อ มีเอกลักษณ์ และเปล่งประกายในทุกบทบาท — ชื่อของ ทิโมธี ฮัล ชาลาเมต์ (Timothée Hal Chalamet) ต้องถูกพูดถึงเป็นอันดับต้น ๆ ของฮอลลีวูดในยุคนี้อย่างแน่นอน

จากเด็กหนุ่มธรรมดาในนิวยอร์ก สู่ซูเปอร์สตาร์ที่เฉิดฉายบนพรมแดงทุกเทศกาลหนัง เขาไม่ใช่แค่ “หนุ่มหน้าสวย” แต่คือ “นักแสดงของยุคใหม่” ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าความละเอียดอ่อนและความกล้าแสดงออกสามารถอยู่ในคนคนเดียวกันได้

จุดเริ่มต้นของหนุ่มลูกครึ่งฝรั่งเศส–อเมริกัน

ทิโมธีเกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ค.ศ. 1995 ที่มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

พ่อของเขาเป็นชาวฝรั่งเศส ส่วนแม่เป็นนักเต้นและโค้ชการแสดง ทำให้เขาเติบโตมาในครอบครัวที่เต็มไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรม เขาพูดได้ทั้ง อังกฤษและฝรั่งเศส อย่างคล่องแคล่ว (เพราะเคยใช้ชีวิตอยู่ที่ฝรั่งเศสช่วงวัยเด็ก)และนั่นอาจเป็นเหตุผลที่เขามีเสน่ห์แบบ “เด็กหนุ่มปารีสในร่างอเมริกันบอย” ที่ทำให้ใคร ๆ ก็หลงใหล

เส้นทางสู่การเป็นนักแสดงเต็มตัว

ทิโมธีเริ่มต้นเส้นทางการแสดงจากซีรีส์ทางโทรทัศน์และโฆษณา ก่อนจะได้รับบทเล็ก ๆ ในหนังดังอย่าง Interstellar (2014) ของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ซึ่งแม้จะออกมาไม่มาก แต่เขาก็ฉายแววการแสดงที่จับตาได้ทันที แต่บทบาทที่ทำให้โลกจำชื่อ “Timothée Chalamet” ได้ คือหนังรักอบอุ่นแต่แฝงความลึกซึ้ง “Call Me by Your Name” (2017) ที่เขารับบทเป็น “เอลิโอ” เด็กหนุ่มอ่อนไหวที่ค้นพบความรักครั้งแรก — การแสดงของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์และความเปราะบางจนเข้าถึงหัวใจผู้ชมทั่วโลก และส่งให้เขา เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ด้วยวัยเพียง 22 ปี!

ดาวรุ่งที่ไม่ยอมอยู่ในกรอบ

Call Me by Your Name

"Dune" จากนิยายชื่อดังสู่หนังไซไฟทุนสร้างสูง อีกหนึ่งเรื่องผู้เข้าชิงออสการ์ 2022

รีวิวหนัง "DUNE" มหากาพย์ทะเลทรายแห่งโชคชะตา บทกวีไซไฟที่ทั้งงดงามและยิ่งใหญ่เกินจินตนาการ

หลังจากนั้น ทิโมธีไม่เคยหยุดพัฒนา เขาเลือกเล่นบทที่ “ท้าทายตัวเอง” เสมอ ไม่ว่าจะเป็น

Beautiful Boy (2018) ที่รับบทเป็นลูกชายติดยา บทที่ทำให้คนดูต้องน้ำตาไหล

Little Women (2019) ที่มารับบท “ลอรี” หนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่ทั้งอบอุ่นและเศร้าในเวลาเดียวกัน

Wonka (2023) ที่เขาแปลงร่างเป็น “วิลลี่ วองก้า” เวอร์ชันวัยหนุ่ม เต็มไปด้วยพลังและความฝัน

และแน่นอน กับบทบาท “พอล อะเทรดีส” ในมหากาพย์ไซไฟแห่งยุค DUNE ที่ทำให้เขากลายเป็นสัญลักษณ์ของ “ผู้นำหนุ่มผู้กำหนดชะตากรรมของจักรวาล” บทนี้แสดงให้เห็นความนิ่ง ลึก และการเติบโตในสายตาของนักแสดงคนหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์

ทิโมธีมีเอกลักษณ์ที่หาได้ยาก เขาไม่ใช่ฮีโร่กล้ามใหญ่ แต่มีพลังบางอย่างที่ดึงดูด ทั้งความเป็นธรรมชาติ ความอ่อนไหว และ “ความไม่สมบูรณ์แบบ” ที่คนดูสัมผัสได้จริง ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวบนจอ จะมีทั้งความเปราะบางและความเข้มแข็งอยู่ในแววตาเดียวกัน เขายังเป็นไอคอนแห่งวงการแฟชั่น ด้วยสไตล์การแต่งตัวสุดยูนีค ไม่กลัวการทดลอง และมักจะสร้างไวรัลบนพรมแดงอยู่เสมอ