
อาร์เน่อ ชล็อต กุนซือของ ลิเวอร์พูล เปิดใจหลังพาทีมหงส์แดงเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไปอย่างขาดลอย 5-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมสร้างประวัติศาสตร์พาทีมหงส์แดงคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีม
ลิเวอร์พูล ต้องการอีกแค่คะแนนเดียวเท่านั้นในเกมที่พบกับ สเปอร์ส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองอย่างเป็นทางการทันที และแม้ว่าจะเสียประตูไปก่อนอย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 12 จากการยิงของ โดมินิก โซลันกี้ แต่หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล ก็กลับมายิง 5 ประตูรวด โดยได้ 3 ประตูในครึ่งแรกจาก หลุยส์ ดิอาซ, อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ และ โคดี้ คักโป ในนาทีที่ 16, 24 และ 34 ตามลำดับ
จากนั้นในครึ่งหลังก็มายิงเพิ่มอีก 2 ประตูจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาทีที่ 63 และการทำเข้าประตูตัวเองของ เดสตินี่ อูโดกี้ ในนาทีที่ 69 ทำให้ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูล ชนะไปอย่างขาดลอย 5-1 เก็บเพิ่มเป็น 82 คะแนนจาก 34 นัด ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง อาร์เซน่อล 15 คะแนน ขณะที่เหลือเกมอีกแค่ 4 นัด ทำให้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไปครองได้อย่างเป็นทางการ
หลังจบเกมท่ามกลางบรรยากาศเฉลิมฉลอง อาร์เน่อ ชล็อต ได้เปิดเผยว่า "มันยากที่จะหาคำพูดมาอธิบาย คุณสามารถรู้สึกได้ว่ามันมีความสำคัญสำหรับแฟนบอลของสโมสรแห่งนี้"
"เราเป็นทีมที่กลับมาได้เสมอ ผมไม่คิดว่าเราจะแพ้เกมนี้เลย เราเล่นเพื่อชนะเท่านั้น หากคุณเป็นส่วนหนึ่งของทีม คุณจะรู้สึกถึงความกดดันที่ต้องเก็บแต้มในเกมนี้ให้ได้"
"เรานำเป็นจ่าฝูงของลีกตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ทุกคนต่างรู้ว่าพรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่ยากแค่ไหน และเรามั่นใจว่าจะชนะอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนกระทั่งจบฤดูกาล"
"ความภูมิใจที่เกิดขึ้นมันน่าทึ่งอย่างมาก ไม่เพียงแค่นักเตะเท่านั้น แต่รวมถึงทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้อำนวยการกีฬาและสตาฟฟ์โค้ช ทุกคนสมควรได้รับการปรบมือ และมันเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งที่ 2 ในรอบ 5 ปี มันน่าทึ่งอย่างมาก และนับจากนี้เป็นต้นไป ผมได้เป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้แล้ว"
ทั้งนี้ จากการที่ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้มาครองได้ ทำให้ อาร์เน่อ ชล็อต กลายเป็นกุนซือชาวดัตช์คนแรกที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก และยังเป็นกุนซือคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก ที่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ตั้งแต่คุมทีมฤดูกาลแรก ต่อจาก โชเซ่ มูรินโญ่ (เชลซี 2003-04), คาร์โล อันเชล็อตติ (เชลซี 2009-10), มานูเอล เปเยกรินี่ (แมนฯ ซิตี้ 2013-14) และ อันโตนิโอ คอนเต้ (เชลซี 2016-17)
ภาพจาก X
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial