อาแจ็กซ์พร้อมดึงเอริคเซ่น กลับถิ่นเก่าอีกครั้งซัมเมอร์นี้

กองกลางวัย 33 ปี แจ้งเกิดจากการเล่นให้กับ อาแจ็กซ์ ในช่วงระหว่างปี 2009-2013 ก่อนจะถูก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คว้าตัวมาร่วมทีมในเดือนสิงหาคมปี 2013 ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ หรือราว 482 ล้านบาท และโด่งดังสุดขีดกับการเล่นในถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน หลังลงสนามให้ทีมไก่เดือยทองไปถึง 305 นัด ทำไป 69 ประตูกับอีก 88 แอสซิสต์ แต่กระนั้นก็ไม่สามารถช่วยให้ สเปอร์ส ประสบความสำเร็จอะไรได้

ทำให้ เอริคเซ่น ที่เหลือสัญญาเพียง 6 เดือน ย้ายไปร่วมทีม อินเตอร์ มิลาน ในเดือนมกราคมปี 2020 ด้วยค่าตัวเพียง 10 ล้านยูโร (ราว 367 ล้านบาท) ก่อนจะมีส่วนช่วยให้ทีมงูใหญ่คว้าแชมป์ เซเรีย อา มาครองได้ในฤดูกาล 2020-21 อย่างไรก็ดี เอริคเซ่น ประสบกับภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน ในระหว่างรับใช้ทีมชาติเดนมาร์ก ในศึก ยูโร 2020 ที่เลื่อนมาจัดการแข่งขันในช่วงกลางปี 2021 ทำให้ต้องว่างเว้นจากฟุตบอลไปราว 6 เดือน

หลังจากนั้นในเดือนมกราคม 2022 เอริคเซ่น กลับมาเล่นฟุตบอลอาชีพได้อีกครั้งกับ เบรนท์ฟอร์ด ที่เซ็นสัญญาระยะสั้นจนจบฤดูกาล และ เอริคเซ่น ก็ยังคงโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมในการลงเล่น 11 เกมในพรีเมียร์ลีก ทำให้เมื่อจบฤดูกาล แมนฯ ยูไนเต็ด จึงคว้าตัวไปร่วมทีมแบบไม่มีค่าตัวด้วยสัญญา 3 ปี

อย่างไรก็ตาม ด้วยอายุที่มากขึ้นรวมถึงมีปัญหาบาดเจ็บ ทำให้ เอริคเซ่น ลงเล่นให้ทีมปีศาจแดงน้อยลงเรื่อยๆ จนทำให้หลังจบฤดูกาลนี้ สัญญาของ เอริคเซ่น จะหมดลง และจะไม่ได้รับการต่อออกไป ทำให้เจ้าตัวจะย้ายทีมได้แบบไม่มีค่าตัวอีกครั้งหลังจบซีซั่นนี้

ล่าสุด มาไรน์ เบวเกอร์ ผู้อำนวยการกีฬาของ อาแจ็กซ์ ได้ออกมายอมรับตามตรงว่า มีความสนใจที่จะดึงตัว เอริคเซ่น กลับมาเล่นด้วยกันอีกครั้ง โดยกล่าวว่า "เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับเราในอดีต ซึ่งตอนนี้เรากำลังพิจารณาเรื่องนี้กันอยู่"

"นักเตะแบบเขาเป็นตัวเลือกอยู่เสมอ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าทุกอย่างจะเหมาะสมกับสิ่งที่ อาแจ็กซ์ เป็นอยู่ในเวลานี้หรือไม่ รวมถึงเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยของนักเตะด้วย"

ทั้งนี้ เอริคเซ่น ทำสถิติลงเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแล้ว 99 นัดรวมทุกรายการ ทำไป 7 ประตูกับอีก 17 แอสซิสต์ และยังมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ และ เอฟเอ คัพ มาครองได้ในฤดูกาล 2022-23 และ 2023-24 ตามลำดับ