ซัลซ์บวร์กเปิดบ้านรับมือเชลซี ใครชนะมีลุ้นเข้ารอบสูงลิบ

พรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี
เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก พบ เชลซี
สนาม : เร้ดบูลล์ อารีน่า
เวลา : 23:45 น. วันอังคารที่ 25 ตุลาคม 2565 (beIN Sports 1 ช่อง 607)

ซัลซ์บวร์ก
ซัลซ์บวร์ก ยังคงมีผลงานใน ออสเตรีย บุนเดสลีกา ที่ยอดเยี่ยมเหมือนเช่นเคย หลังลงเล่นไปแล้ว 13 นัด มีสถิติชนะ 9 เสมอ 3 แพ้ 1 เก็บไปแล้ว 30 แต้ม นำเป็นจ่าฝูงอยู่ในเวลานี้ โดยมีแต้มนำอันดับ 2 อย่าง สตวร์ม กราซ อยู่ 2 คะแนน และถ้าหากนับรวมทุกรายการ พวกเขาลงสนามไปแล้ว 20 นัด ชนะได้ 13 เสมอ 6 และแพ้ 1 เท่านั้น ที่สำคัญตอนนี้ไม่แพ้ใครมา 16 เกมติดต่อกันแล้ว ถือว่าสุดยอดมากๆ โดยผลงานในเกมล่าสุดคือการเสมอกับ สตวร์ม กราซ 0-0 ในเกมออสเตรีย บุนเดสลีกา ขณะที่เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดล่าสุดเมื่อสองสัปดาห์ก่อนก็บุกไปเสมอกับ ดินาโม ซาเกร็บ 1-1 เท่ากับว่า 4 เกมที่ผ่านมาในรอบแบ่งกลุ่มพวกเขายังไม่แพ้ใครเลย เก็บไปแล้ว 6 แต้มจากการชนะ 1 เสมอ 3 ยังมีลุ้นที่จะผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ได้อยู่ ซึ่งผลในการเจอ เชลซี เกมนี้จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญได้เลย

ในส่วนของสภาพทีม ซัลซ์บวร์ก มีปัญหานักเตะบาดเจ็บมากถือ 7 ราย โดนเกมนี้จะไม่มีผู้เล่นอย่าง แฟร์นันโด, ดิฌง กาเมรี่, อูมาร์ ดิยาคิเต้, จัสติน โอโมเรจี้, นิโกลาส กาปาลโด้, เซคู โกอิต้า และ ลูก้า ซูชิช อย่างไรก็ตาม ทีมที่ใช้อยู่ในปัจจุบันก็กำลังทำผลงานได้ดี ทำให้อาการบาดเจ็บของนักเตะเหล่านี้อาจจะไม่ได้กระทบกับทีมมากเท่าไหร่ โดยเกมรุกของทีมตอนนี้มี โนอาห์ โอคาฟอร์ เป็นตัวชูโรง

เชลซี
เชลซี ในยุคของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ยังคงไม่แพ้ใครก็จริง และมีช่วงที่สามารถชนะได้ 5 เกมติดต่อกันในทุกรายการ อย่างไรก็ตาม 2 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีกนั้นทำได้แค่เสมอทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการบุกไปเสมอกับ เบรนท์ฟอร์ด 0-0 และล่าสุดที่เปิดบ้านเสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 ทำให้ฟอร์มของ เชลซี ดูเริ่มจะแผ่วลงไป แต่กระนั้นก็ยังถือว่าพวกเขาเป็นทีมที่แพ้ยากอยู่ดี หลังจากที่ไม่แพ้ใครมาแล้ว 8 เกมติดต่อกันในทุกรายการ ส่วนผลงานใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ถือว่าทำได้เยี่ยม หลังจากที่ออกสตาร์ทในรอบแบ่งกลุ่มด้วยการบุกไปแพ้ ดินาโม ซาเกร็บ 0-1 พวกเขาก็ไม่แพ้ใครอีกเลยในอีก 3 เกมถัดมา โดยเป็นการชนะ 2 เสมอ 1 ทำให้ตอนนี้มีอยู่ 7 แต้ม นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มอีอยู่ในตอนนี้ และถ้าหากพวกเขาชนะในเกมนี้ได้ ก็แทบจะการันตีการเข้ารอบต่อไปทันที

ในส่วนของสภาพทีมเกมนี้ เชลซี จะยังคงไม่มี เอ็นโกโล่ กองเต้, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า และ รีซ เจมส์ ที่บาดเจ็บหมดสิทธิ์ลงเล่นทั้งหมดเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมในส่วนของ คาลิดู คูลิบาลี่ ที่มีอาการเจ็บเล็กน้อย คาดว่าไม่น่าจะได้ลงเล่นในเกมนี้เช่นกัน ทำให้การจัดตัวน่าจะคล้ายกับเกมล่าสุดที่เสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเกมรุกจะยังคงมี ปิแอร์-เอมเมอริก โอบาเมย็อง ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้าประสานงานร่วมกับ เมสัน เมาท์ และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เหมือนเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซัลซ์บวร์ก (4-3-1-2) : ฟิลิปป์ โคห์น : อมาร์ เดดิช, อูมาร์ โซเลต์, สตราอินย่า พาฟโลวิช, มักซิมิเลียน วือเบอร์ : นิโกลาส ไซวัลด์, ลูก้าส์ กูร์กนา-ดูอัธ, โมริทส์ เคียร์การ์ด : ลอว์เรนซ์ อั๊กเยกุม : จูเนียร์ อาดามู, โนอาห์ โอคาฟอร์

เชลซี (3-4-2-1) : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า : เทรโวห์ ชาโลบาห์, ติอาโก้ ซิลวา, มาร์ก กูกูเรย่า : เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, จอร์จินโญ่, เบน ชิลเวลล์ : เมสัน เมาท์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง : ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง

ความน่าจะเป็น : เป็นที่สำคัญสำหรับทั้งสองทีม และถ้าใครชนะ จะมีโอกาสสูงมากที่จะผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ ซึ่งเกมแรกที่พบกันที่บ้านของ เชลซี นั้น ซัลซ์บวร์ก สามารถยันเสมอกลับออกมาได้ อย่างไรก็ตาม เกมนี้น่าจะแตกต่างออกไป เพราะนักเตะเชลซีเริ่มที่จะเข้าใจแผนการเล่นของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ แล้ว และมีผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ อาจจะหลุดเสมอมาในสองเกมหลังสุด แต่สำหรับเกมนี้เชื่อว่า เชลซี จะเน้นเต็มที่แน่แม้ว่าจะเป็นฝ่ายมาเยือน เชื่อว่าเกมน่าจะสูสีกันในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นน่าจะเป็น เชลซี ที่จะครองเกมได้ดีกว่า และอาศัยคุณภาพที่เหนือกว่าเบียดเอาชนะไปได้    

สกอร์ที่คาด : ซัลซ์บวร์ก แพ้ เชลซี 1-2