ลิเวอร์พูลเล่นในบ้านแต่เป็นรอง มีสิทธิ์โดนราชันชุดขาวบุกเล่นงาน

ลิเวอร์พูลเล่นในบ้านแต่เป็นรอง มีสิทธิ์โดนราชันชุดขาวบุกเล่นงาน
ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2025-26 รอบ ลีก เฟส นัดที่สี่ ลิเวอร์พูล จากอังกฤษ จะเล่นที่ แอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ เรอัล มาดริด จากสเปน โดยเกมนี้ ลิเวอร์พูล เจ้าถิ่น เรียกความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง หลังเกมล่าสุดเปิดบ้านเอาชนะ แอสตัน วิลล่า ได้ในเกมลีก ถือเป็นการชนะเกมที่ 2 ในรอบ 8 นัดหลังสุด ซึ่งพวกเขาแพ้ไปถึง 6 เกม ขณะที่ เรอัล มาดริด ฟอร์มแรงต่อเนื่อง ชนะ 13 จาก 14 เกมรวมทุกรายการ และเกมนี้พวกเขาก็หวังที่จะบุกมาเก็บชัยชนะกลับออกไป แม้ว่าจะไม่ง่ายก็ตาม

พรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2025-26 รอบ ลีก เฟส นัดที่สี่
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) พบ เรอัล มาดริด (สเปน)
สนาม : แอนฟิลด์
เวลา : 03.00 น. พุธที่ 5 พฤศจิกายน 2568 (แข่งคืนวันอังคาร)
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 1 (ช่อง 607)
สกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล แพ้ เรอัล มาดริด 1-2

ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ อาร์เน่อ ชล็อต กลับมาเก็บชัยชนะได้อีกครั้งในเกมล่าสุด ที่เปิดบ้านเอาชนะ แอสตัน วิลล่า 2-0 ในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังก่อนหน้านี้ฟอร์มร่วงอย่างหนัก แพ้ 4 นัดติดต่อกันในทุกรายการ และแพ้ 6 จาก 7 เกมก่อนหน้านี้ ซึ่งจากการเอาชนะ วิลล่า ได้ในเกมล่าสุด ทำให้พวกเขาเก็บเพิ่มเป็น 18 แต้มจาก 10 นัดในลีก ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 3 ของตาราง แต่ยังตามหลังจ่าฝูงอย่าง อาร์เซน่อล อยู่ถึง 7 คะแนน อย่างไรก็ดี การชนะได้ในเกมล่าสุดยังไม่การันตีว่าพวกเขาผ่านพ้นวิกฤติแล้ว และการต้องรับการมาเยือน เรอัล มาดริด ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ถือว่าเป็นงานหนักมากสำหรับพวกเขา ยังดีที่ ลิเวอร์พูล มี 6 คะแนนจาก 3 เกมที่ผ่านมา ทำให้สถานการณ์ในรายการนี้ยังไม่น่าเป็นห่วงนัก

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ลิเวอร์พูล มีปัญหานักเตะบาดเจ็บพอควร โดยเกมนี้จะไม่มี อเล็กซานเดอร์ อิซัค, อลิสซง เบคเกอร์, โจวานนี่ เลโอนี่, เจเรมี่ ฟริมปง และ สเตฟาน บายเซติช ที่บาดเจ็บอยู่ทั้งหมด แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้ ลิเวอร์พูล จะมาในระบบ 4-2-3-1 กองหน้าจะใช้ อูโก้ เอกิติเก้ ยืนเป็นหน้าเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ และ โคดี้ คักโป คอยปั้นเกม ส่วนแดนกลางจะใช้ ไรอัน กราเฟนแบร์ค คุมเกมร่วมกับ โดมินิก โซโบซไล

เรอัล มาดริด
เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของ ชาบี อลอนโซ่ ฟอร์มยังคงยอดเยี่ยม โดยพวกเขาแพ้แค่เกมเดียวจากการลงเล่น 14 เกมรวมทุกรายการ ที่เหลืออีก 13 เกมนั้นชนะได้ทั้งหมด นอกจากนี้พวกเขายังชนะมาตลอดใน 6 นัดหลังสุด ผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านถล่ม บาเลนเซีย ขาดลอย 4-0 ในศึก ลา ลีกา สเปน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ เรอัล มาดริด มีอยู่ 30 แต้มจาก 11 เกม รั้งจ่าฝูงของตารางต่อไป โดยนำหน้าอันดับ 2 อย่าง บาร์เซโลน่า ไปแล้ว 5 แต้ม ส่วนผลงานใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ยอดเยี่ยม เมื่อชนะมาทั้ง 3 เกม มี 9 คะแนนเต็ม และเกมนี้พวกเขาพร้อมแล้วกับการมาเยือน ลิเวอร์พูล

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เรอัล มาดริด จะยังไม่มี อันโตนิโอ รือดิเกอร์ และ ดาเนียล การ์บาฆาล ที่ยังไม่หายเจ็บ แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ฟิตพร้อมลงสนาม ทำให้เกมนี้ เรอัล มาดริด จะมาในระบบ 4-2-3-1 แนวรุกจะใช้ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ เป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนเกมรุกอย่าง อาร์ด้า กือแลร์, จู๊ด เบลลิงแฮม และ วินิซิอุส จูเนียร์ ส่วนแดนกลางจะใช้ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ คุมเกมร่วมกับ โอเลเรียง ชูอาเมนี่ ขณะที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ คาดว่าจะเป็นแบ็กขวาตัวจริงในการเยือนทีมเก่าครั้งนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ : คอเนอร์ แบรดลี่ย์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน : ไรอัน กราเฟนแบร์ค, โดมินิก โซโบซไล : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ฟอลเรียน เวียร์ตซ์, โคดี้ คักโป : อูโก้ เอกิติเก้

เรอัล มาดริด (4-2-3-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เอแดร์ มิลิเตา, ดีน เฮาเซ่น, อัลบาโร่ การ์เรราส : เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, โอเลเรียง ชูอาเมนี่ : อาร์ดา กือแลร์, จู๊ด เบลลิงแฮม, วินิซิอุส จูเนียร์ : คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้

ความน่าจะเป็น : ลิเวอร์พูล น่ากลัวเสมอเวลาที่เล่นในบ้าน แต่ไม่ใช่ในช่วงที่ผ่านมา ยังดีที่เกมล่าสุดกลับมาชนะได้อีกครั้งทำให้พอจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้ ขณะที่ เรอัล มาดริด ฟอร์มแรงอย่างมาก หลังสะดุดพ่าย แอตเลติโก มาดริด ใน ลา ลีกา ก็ไม่พลาดอีกเลย ถือเป็นหนึ่งในทีมที่มีผลงานดีที่สุดในยุโรปฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ดี ลิเวอร์พูล ที่ได้เล่นต่อหน้าแฟนๆ จะพยายามสู้เต็มที่ ขณะที่ เรอัล มาดริด แม้ฟอร์มจะดีกว่าแต่คงไม่ได้มีเกมที่เหนือกว่ามากขนาดนั้น รูปเกมน่าจะออกมาสูสีกัน และน่าจะตัดสินกันที่ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งดูแล้ว เรอัล มาดริด ยังดูมีความเสถียรกว่าในส่วนนี้ โอกาสออกเสมอกันมีสูง แต่ถ้ามีผู้ชนะยังเชื่อว่าทีมเยือนยังมีโอกาสมากกว่า

สกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล แพ้ เรอัล มาดริด 1-2

ภาพจาก Getty Images

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website :

Facebook :

Twitter :

Line :

Youtube official :

Instagram :