เรือใบสีฟ้าปะทะอาร์เซน่อล บิ๊กแมตช์ประจำเอฟเอ คัพ รอบ 4

ศึกเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบที่ 4 แมนฯ ซิตี้ จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล โดยเกมนี้ ทีมเรือใบสีฟ้าถือว่ามีสภาพทีมที่สมบูรณ์เต็มร้อยเลยก็ว่าได้ เนื่องจากไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเลยแม้แต่รายเดียว และเกมนี้พวกเขาก็ต้องการคว้าชัยชนะ นอกจากจะเป็นการได้ไปต่อแล้ว ยังเป็นการตัดไม้ข่มนาม อาร์เซน่อล ที่เป็นคู่แข่งแย่งแชมป์ลีกโดยตรงอีกด้วย ขณะที่ทีมปืนใหญ่ก็อยู่ในฟอร์มที่ดีสุดๆ เช่นกัน หลังไม่แพ้ใครมา 7 เกมติดต่อกันในทุกรายการแล้ว และพวกเขาก็หวังจะเอาชนะในเกมนี้เพื่อผ่านเข้ารอบต่อไปในเอฟเอ คัพ เช่นกัน

พรีวิวฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบที่ 4
แมนฯ ซิตี้ พบ อาร์เซน่อล
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
เวลา : 03:00 น. วันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2566 (แข่งคืนวันศุกร์)
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 3 (ช่อง 608)

แมนฯ ซิตี้
ทีมเรือใบสีฟ้าของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กลับมาคืนฟอร์มได้ในเกมพรีเมียร์ลีก 2 นัดหลังสุด หลังเปิดบ้านเอาชนะ สเปอร์ส ไป 4-2 และต่อด้วยถล่ม วูล์ฟแฮมป์ตัน ไปอีก 3-0 ทำให้สถานการณ์ดูดีขึ้นมาก หลังจากที่ก่อนหน้านี้หลุกฟอร์มพ่าย 2 เกมติดต่อกันในเกม คาราบาว คัพ ที่บุกไปพ่าย เซาธ์แฮมป์ตัน 2-0 ต่อด้วยบุกไปโดน แมนฯ ยูไนเต็ด เฉือน 2-1 ในเกมพรีเมียร์ลีกนัด แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ขณะที่ในรายการเอฟเอ คัพ รอบที่แล้วพวกเขาอัด เชลซี มาได้ 4-0 แต่ในรอบที่ 4 ยังต้องเจองานยากต่อเนื่อง เมื่อต้องรับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล ในวันนี้ ถ้าหากว่า เป๊ป จัดทีมแบบไม่เต็มสูบ ก็อาจจะยากที่จะเอาชนะทีมปืนใหญ่ที่ชั่วโมงนี้ฟอร์มแรงมากจริงๆ

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ ถือว่ามีทีมที่สมบูรณ์สุดๆ เพราะไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บหรือว่าติดโทษแบนเลยแม้แต่รายเดียว และเชื่อว่าเกมนี้ กวาร์ดิโอล่า อาจจะมีการหมุนตัวผู้เล่นบ้าง แต่หลักๆ น่าจะยังเป็นผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามแบบเกือบเต็ม เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องพักตัวจริงเอาไว้ โดยแนวรุกน่าจะยังนำโดย เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ กองหน้าตัวเก่ง และมีตัวสนับสนุนในเกมรุกอย่าง แจ็ค กรีลิช, ริยาด มาห์เรซ และ เควิด เดอ บรอยน์

อาร์เซน่อล
ทีมปืนใหญ่ยังคงมีผลงานที่สุดยอดมากๆ หลัง 11 เกมหลังสุดในทุกรายการพวกเขาแพ้ไปแค่เกมเดียว เสมอ 1 และชนะได้ถึง 9 เกม ยิ่งถ้านับผลงานเฉพาะในพรีเมียร์ลีกจะพบว่าครั้งสุดท้ายที่ อาร์เซน่อล แพ้นั้นเกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนปีก่อน นั่นคือเกมที่บุกไปแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 หลังจากนั้นพวกเขาไม่แพ้ใครในลีกอีกเลย 12 เกมติดต่อกัน โดยในจำนวนนี้เป็นชัยชนะถึง 11 เกม โดยผลงานในเกมล่าสุดคือการเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไป 3-2 ทำให้ยังครองจ่าฝูงของลีกไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง และตอนนี้พวกเขาไม่แพ้ใครมา 7 เกมติดต่อกันในทุกรายการแล้ว ขณะที่ในเอฟเอ คัพ รอบที่แล้วก็บุกไปเอาชนะ อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด มาได้แบบสบายๆ 3-0 แต่ในรอบนี้พวกเขาต้องเจอกับของจริงเมื่อต้องไปเยือน แมนฯ ซิตี้ ที่เป็นคู่แข่งแย่งแชมป์ที่แข็งแกร่งที่สุด

ในส่วนของสภาพทีม อาร์เซน่อล จะไม่สามารถใช้งานนักเตะอย่าง กาเบรียล เชซุส, รีสส์ เนลสัน และ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ มีบาดเจ็บทั้งหมด โดยเฉพาะในรายชอง เอลเนนี่ ที่เพิ่งเจ็บเข่าและคาดว่าอาจจะต้องพักทั้งฤดูกาล อย่างไรก็ตามถือว่าไม่มีผลกระทบอะไรมากมายนักเพราะตัวจริงยังอยู่กันเกือบครบ และกำลังเล่นได้ดีมากๆ โดยเกมรุกนัดนี้จะยังคงมี เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนเดิม แต่อาจจะมีตัวใหม่อย่าง เลอันโดร ทรอสซาร์ ได้ลงเป็นตัวจริงเพิ่มเติมด้วย ในระบบการเล่น 4-2-3-1

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : สเตฟาน ออร์เตก้า : ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, เซร์คิโอ โกเมซ : เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา : ริยาด มาห์เรซ, เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์, แจ็ค กรีลิช

อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : แม็ตต์ เทอร์เนอร์ : ทาเคฮิโร่ โทมิยาสึ, วิลเลี่ยม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส, คีแรน เทียร์นี่ย์ : กรานิต ชาค่า, โธมัส ปาร์เตย์ : บูคาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด, เลอันโดร ทรอสซาร์ : เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์

ความน่าจะเป็น : เป็นเกมที่โคจรมาเจอกันเร็วมาก เพราะเพิ่งจะแค่รอบที่ 4 เท่านั้น และน่าจะเป็นเกมที่ใช้ชิมลางก่อนหน้าที่จะได้เจอกันในศึกพรีเมียร์ลีกที่จะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ เชื่อว่าทั้งสองทีมอาจจะมีการใช้ผู้เล่นสำรองอยู่บ้าง แต่หลักๆ ต้องเป็นตัวจริง ไม่อย่างนั้นมีโอกาสเพลี่ยงพล้ำให้อีกฝ่ายสูง ดูแล้วรูปเกมที่ออกมาน่าจะสูสีกัน แต่ แมนฯ ซิตี้ น่าจะได้เปรียบกว่าเนื่องจากได้เล่นในบ้าน และเชื่อว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า น่าจะสั่งลูกทีมเน้นเป็นพิเศษ เพื่อเป็นการตัดไม้ข่มนามไปในตัว

สกอร์ที่คาด : แมนฯ ซิตี้ ชนะ อาร์เซน่อล 2-1