“คุ้ย ทวีวัฒน์” ผู้กำกับฯแห่งยุค ตัวจริงของวงการหนังสยอง

“คุ้ย ทวีวัฒน์” ผู้กำกับฯแห่งยุค  ตัวจริงของวงการหนังสยอง
กว่า 20 ปีในวงการภาพยนตร์และละคร “คุ้ย–ทวีวัฒน์ วันทา” คือหนึ่งในผู้กำกับที่สร้างลายเซ็นชัดเจนที่สุดคนหนึ่งของไทย เขาเริ่มต้นเส้นทางผู้กำกับด้วยภาพยนตร์เรื่อง “ขุนกระบี่ ผีระบาด” (2547) หนังซอมบี้ไทยยุคบุกเบิกที่หลายคนยังจำได้ ตามด้วยผลงานคาแรกเตอร์จัดจ้านอย่าง “อสุจ๊าก” (2550) และหนังฟีลกู๊ดอบอุ่นหัวใจ “อนุบาลเด็กโข่ง” (2552) ก่อนจะเดินหน้าเต็มตัวในหนังสยองขวัญกับผลงาน “ทองสุก 13” (2556) ที่ทำรายได้โดดเด่นในยุคนั้น

ความสำเร็จครั้งใหญ่ที่สุดของเขาเกิดขึ้นในปี 2566–2567 เมื่อ “ธี่หยด” และ “ธี่หยด 2” กลายเป็นปรากฏการณ์แห่งวงการภาพยนตร์ไทย กวาดรายได้รวมทะลุ 1,200 ล้านบาท และส่งให้ชื่อของทวีวัฒน์กลายเป็น “เจ้าพ่อหนังสยองแห่งยุค” แบบเต็มตัว นอกจากงานกำกับ เขายังมีบทบาทในวงการอีกหลายด้าน ทั้งเป็นกรรมการสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย นักแสดงรับเชิญ และล่าสุดขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “13 สตูดิโอ” เพื่อปั้นโปรเจกต์หนังสยองอย่างต่อเนื่อง


ความสำเร็จนี้เองทำให้เขากลายเป็นผู้กำกับที่ค่ายหนังต่างๆ อยากร่วมงานมากที่สุด จนกระทั่ง “คุณโอ๋–จาตุศม เตชะรัตนประเสริฐ” จากสหมงคลฟิล์มฯ ส่งบทภาพยนตร์เรื่องใหม่มาให้เขาอ่านโดยไม่เกริ่นสรรพคุณใดๆ และพอเปิดอ่านเพียงไม่นาน ทวีวัฒน์ถึงกับ “ว้าว” เพราะนี่คือโปรเจกต์ที่ทำให้หัวใจผู้กำกับสยองของเขาสั่นไหวทันที และรู้สึกว่าต้องทำให้ได้ นั่นคือภาพยนตร์เรื่อง “ท่าแร่” หนังสยองท่ามกลางดินแดนคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งอีสานในจังหวัดสกลนคร

ทวีวัฒน์เล่าว่าเสน่ห์ของบทมาจากการเล่าเรื่อง “บาทหลวงนักปราบปีศาจ” ที่ถูกแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากวาติกัน ซึ่งมีอยู่จริงในประเทศไทยเพียงไม่กี่คน และยังโยงเข้ากับอีกหนึ่งความเชื่อพื้นถิ่นที่ไม่เคยถูกเล่าในหนังไทยมาก่อน คือ “หมอเหยา” ผู้เชี่ยวชาญพิธีเรียกขวัญและขจัดสิ่งชั่วร้ายของชาวสกลนคร การปะทะกันระหว่างสองความเชื่อ—คาทอลิกกับผีปู่ย่า—กลายเป็นจุดชนวนของความสยองแบบใหม่ที่ทั้งเข้มข้นและมีชั้นเชิงทางวัฒนธรรม นับเป็นความสดใหม่ที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนในหนังไทย


เมื่อได้อ่านบทเต็ม ทวีวัฒน์ยิ่งเห็นศักยภาพของโปรเจกต์นี้ว่ามีโอกาสไปได้ไกล ทั้งในแง่เนื้อหา เทคนิค และการเล่าเรื่อง เขาจึงพัฒนาบทให้เดินเรื่องกระชับ ตอบโจทย์คนดูยุคโซเชียลที่ชอบอะไรเร็ว เข้ม และไม่อืดอาด พร้อมยกระดับความดุเดือดแบบไม่ให้คนดูพักหายใจ


ในส่วนของนักแสดง เขายืนยันว่า “เจมส์ จิรายุ” คือคนแรกที่นึกถึงในบทบาทหลวงผู้สงบนิ่งแต่หนักแน่น เจมส์ทุ่มเทเต็มที่กับการเตรียมบท ตั้งแต่ท่าทาง การประกอบพิธี ไปจนถึงเรียนรู้บทสวดไล่ปีศาจจริงจากบาทหลวงที่ได้รับแต่งตั้งด้าน Exorcist ขณะที่บท “หมอเหยา” ตกเป็นของ “มีน พีรวิชญ์” ที่ต้องเรียนพิธีเหยา พูดภาษาภูไท และฝึกขั้นตอนพิธีกรรมต่างๆ อย่างละเอียดจนได้รับคำชมว่า “เก่งขึ้นทุกวัน” ส่วนบท “ตามิ่ง” ผู้มีอดีตแสนหนักนั้นเป็นของ “เอก ธเนศ” ที่ทวีวัฒน์ยอมรับว่าเป็นนักแสดงที่ทุ่มเทที่สุดคนหนึ่ง เล่นเองแทบทุกฉาก แม้แต่ซีนเสี่ยงก็ไม่ขอใช้สตันต์


เรื่องราวใน “ท่าแร่” จะเล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์ในอดีตเมื่อบาทหลวงคนหนึ่งถูกวิญญาณร้ายเข้าสิง และเรื่องราวความสยองได้ส่งผลมาถึงลูกหลานในยุคปัจจุบัน จนบาทหลวงจากกรุงเทพฯ ต้องเดินทางไปยังท่าแร่เพื่อสืบหาความจริง ก่อนพบว่าความชั่วร้ายที่กำลังเผชิญนั้นเหนือกว่าที่คาด และจำเป็นต้องร่วมมือกับหมอเหยาเพื่อยุติคำสาปนี้ให้ได้


ทวีวัฒน์บอกว่าความสยองในเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ผีหน้าเละหรือ Jump Scare แบบเดิมๆ แต่เป็นความหลอนที่กัดกินจากภายในและรุกคืบทีละน้อย เหมือนเดินอยู่บนถนนมืดที่น้ำมันรถกำลังจะหมด จะไปต่อก็กลัว แต่จะถอยหลังก็ไม่ได้ บรรยากาศมาพร้อมเทศกาลแห่ดาวก่อนคริสต์มาสของท่าแร่ ที่ทั้งงดงามและแฝงความไม่ชอบมาพากลอยู่ทุกขณะ


ผู้กำกับยังเผยว่าเขาและทีมงานต้องเดินทางไปสกลนครหลายครั้งเพื่อศึกษาพิธีกรรมและวิถีชีวิตจริงของชุมชน ได้เห็นทั้งงานแห่ดาว ความอบอุ่นของผู้คน และบรรยากาศที่เชื่อมโยงทั้งศรัทธาและความเชื่อพื้นบ้าน ซึ่งทั้งหมดจะถูกถ่ายทอดออกมาในหนังอย่างละเอียดที่สุด


ทวีวัฒน์ฝากทิ้งท้ายว่า “หนังผีคือกิจกรรมกลุ่มครับ อยากให้ชวนกันไปดูทั้งแก๊ง ผมเชื่อว่าคนดูจะได้เจออะไรที่ไม่เคยเห็นในหนังไทยมาก่อน และ ‘ท่าแร่’ จะทำให้ทุกคนอยากถามหาภาคต่อทันทีที่หนังจบ”


ภาพยนตร์ “ท่าแร่” (2568) จึงไม่ใช่แค่หนังผีเรื่องใหม่ แต่คือการผสานความเชื่อสองโลกเข้าด้วยกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน และเป็นบทพิสูจน์ครั้งต่อไปของผู้กำกับสยองขวัญที่น่าจับตามองที่สุดของยุคนี้


รับชม “ท่าแร่” สตรีมแล้วที่แอป TrueVisions NOW 

สมัครเลย https://tvs-now.onelink.me/QYYp/vzmemi4u


TrueVisions NOW

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website :

Facebook :

Twitter :

Line :

Youtube official :

Instagram :