รวมผลงานโมโตทู ‘คิง ก้อง’ 2022

โมโตจีพี จบลงเรียบร้อยแล้วด้วยแชมป์ของ ฟรานเชสโก้ บาญาย่า จากทีมดูคาติ การลุ้นแชมป์เป็นไปอย่างสนุกสนานตื่นเต้น แต่ โมโตทู ก็ได้ลุ้นไม่แพ้กัน ในวันเดียวกันที่ บาเลนเซีย กรังด์ปรีซ์ รายการสุดท้ายของซีซั่นเมื่อ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา การลุ้นแชมป์ในรุ่นนี้เป็นของ ออกุสโต้ เฟร์นันเดซ และอีกหนึ่งนักบิดจาก อิเดะมิตสึ ฮอนด้า ทีมเอเชีย

แน่นอนว่านักบิดจาก ฮอนด้า ทีมเอเชีย ที่ได้ลุ้นแชมป์คือ ไอ โอกุระ แม้ในตอนท้าย โอกุระ พลาดล้มเมื่อเหลือประมาณ 10 รอบสนาม และจากนั้น “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักขับไทยที่เป็นเพื่อนร่วมทีมก็ล้มในโค้งเดียวกัน และมีท่าล้มที่ใกล้เคียงกันซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากเซ็ตติ้งรถที่คล้ายกัน ความผิดพลาดที่คล้ายกัน แต่ก็เป็นฤดูกาลที่น่าจดจำของทั้งคู่ 

แชมป์แรกที่ อินโดนีเซีย

สมเกียรติ เริ่มต้นสนามแรกของซีซั่นที่กาตาร์โดยไม่มีคะแนน เป็นการเริ่มต้นที่ไม่ดีนัก แต่หลังจากนั้นที่ อินโดนีเซีย คว้าแชมป์มาครองได้อย่างน่าทึ่ง และเป็นรายการที่ทำให้นักบิดไทยสร้างชื่อจนเป็นที่จับตาในรุ่นนี้ทันที เนื่องจากยังไม่เคยมีคนไทยได้แชมป์ระดับ กรังด์ปรีซ์ มาก่อน สนามถัดไปที่อาร์เจนติน่า สมเกียรติยังขับได้ดีและขึ้นโพเดียมอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม การเป็นแชมป์หรือการคว้าตำแหน่งนั่นหมายถึงการเดิมพันที่ต้องแลกมาด้วยบางอย่าง สมเกียรติ เพิ่งอายุ 23 ปี เป็นคนหนุ่มไฟแรง และได้รับการคาดหวังสูง รวมทั้งคาดหวังต่อตัวเองสูงเช่นกันหลังจากขึ้นโพเดียม 2 ใน 3 เรซแรกของปี ทำให้ 3 สนามถัดจากนั้นเขาทุ่มเทเต็มที่ และขับแบบบู๊สุดขีด ส่งผลให้ต้องออกจากการแข่งขันรวด 3 รายการที่สหรัฐ โปรตุเกส และสเปน 

ไม่ได้โพเดียม ก็ล้ม 

จากนั้นที่ฝรั่งเศส “ก้อง” กลับขึ้นโพเดียมด้วยอันดับ 3 แต่เมื่อไปที่อิตาลี ก็ไม่มีคะแนน ผ่านไป 8 เรซ ถ้าแข่งจบก็ขึ้นโพเดียมไปเลย แต่ถ้าไม่ก็ออกจากการแข่งขัน สไตล์การขับแบบนี้เป็นการเสี่ยงที่คุ้มหรือไม่ นี่คือคำถามที่แฟนๆ สงสัยและเชื่อว่าตัวนักบิดก็คิดเช่นกัน 

กลับมาที่สเปนอีกครั้งในเรซที่ 9 ของปี แต่สลับสนามจาก เฆเรซ มาที่ คาตาลุนญ่า เซอร์กิต ครั้งนี้ สมเกียรติจบด้วยอันดับ 12 มี 4 คะแนนติดมือ ไม่ล้ม ไม่ได้โพเดียม แต่การสะสมคะแนนก็นับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักแข่งเช่นกัน และเชื่อว่าตลอดหลายสนามที่ผ่านมากับเรื่องราวมากมาย เขาเติบโตขึ้นทีละนิด แม้สนามถัดๆ ไปจะเก็บแค่ 1 แต้ม 3 แต้ม 3 แต้ม แต่การอยู่สู้อย่างถึงที่สุดเป็นสิ่งที่ชาวไทยต่างก็อยากเห็นด้วย 2 เหตุผล คือพัฒนาการแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องรีบร้อน และไม่มีใครอยากเห็นนักบิดมีอาการบาดเจ็บจากการพารถลื่นไถลไปตามแทร็คหรือถนนกรวด 

ฮอนด้า ทีมเอเชีย 1-2 

ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ ที่เร้ดบูลล์ ริง สมเกียรติกลับมายืนอย่างสง่าผ่าเผยกับอันดับ 2 บนโพเดียม เป็นการแข่งขันที่ชื่นมื่นสุดๆ ของ ฮอนด้าทีม เอเชีย เพราะอันดับ 1 เป็นของ โอกุระ ที่กำลังลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว เรียกได้ว่าทุกคะแนนมีความหมาย แม้ในอีกไม่ถึงครึ่งซีซั่นคำนวณคร่าวๆ แล้ว สมเกียรติ มีโอกาสขึ้นท็อป 3 ในตารางคะแนนไม่มากก็ตาม แต่ความพยายามไม่ย่อท้อ แถมยังมีโอกาสเบียดแซงเพื่อนร่วมทีมก็ทำให้แฟนๆ มีรอยยิ้มเล็กๆ 

ความหวังของแฟนมอเตอร์สปอร์ตไทย

จากนั้นใน 3 เรซถัดมา “ก้อง” ยังเก็บคะแนนได้อีก และไม่ว่าจะมาด้วยตำแหน่งที่เท่าไร เขาคือความหวังของคนไทยที่แฟนๆ อยากเห็นผลงานที่ดีที่สุด ต่อสู้อย่างที่สุดที่ ไทย กรังด์ปรีซ์ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังในรอบคัดเลือก เป็นคนไทยคนแรกที่คว้าตำแหน่ง โพล โพสิชั่น ในการแข่งขันที่ประเทศไทย 

สภาพอากาศในรอบสุดท้ายออกจะเกินคาดไปสักหน่อย เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในแแถบประเทศที่พายุพัดผ่าน ท้องฟ้าสดใสในวันก่อนหน้ากลายเป็นฝนฟ้าคะนอง และสิ่งที่แฟนๆ ไม่อยากเห็นก็เกิดขึ้น สนามลื่น กับความกดดันคาดหวัง “ก้อง” พลาดล้ม ออกจากการแข่งขัน ในตอนท้ายเขาส่งสัญญาณมือผ่านกล้องว่าขอโทษด้วยที่ล้ม 

3 เรซสุดท้าย สมเกียรติ ได้คะแนนมา 1 สนาม ส่วนอีกสอง โดยเฉพาะสนามที่เพิ่งจบไปที่ บาเลนเซีย ฮอนด้า ทีมเอเชียไม่มีคะแนนจากสองนักขับ และสุดท้าย โอกุระ เป็นอันดับ 2 ในตาราง ส่วนแชมป์เป็นของ ออกุสโต้ เฟร์นานเดซ ขณะที่ “ก้อง” จบในอันดับ 10 ของตาราง

ข่าวดีก็คือ ไม่กี่เดือนก่อนจบซีซั่น ฮอนด้า ทีมเอเชีย ประกาศว่า ปี 2023 ทั้ง โอกุระ และสมเกียรติจะเป็นนักขับในรุ่น โมโตทูต่อไป ก็อย่างที่บอกไปว่า สมเกียรติคือคนหนุ่มอายุ 23 ปี ที่จะมีโอกาสอีกมากมาย และไม่ว่ามันจบลงเช่นไร เขาก็เป็นนักบิดที่แฟนๆ ไทยอยากให้กำลังใจเสมอ