เชลซีฟอร์มแรงชนะมา 5 เกมติด น่าเปิดรังทุบฟอเรสต์ได้ไม่ยาก

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25
เชลซี พบ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เวลา : 20.00 น. อาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2567
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 3 (ช่อง 603)

เชลซี
เชลซี ภายใต้การนำของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า หลังจากเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ด้วยการพ่ายคาบ้านต่อ แมนฯ ซิตี้ 0-2 หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่แพ้ใครอีกเลย 5 เกมติดต่อกันในลีก โดยมีสถิติชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 1 จาก 6 เกมที่ลงเล่น ผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านถล่ม ไบรท์ตัน ไป 4-2 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ตอนนี้ เชลซี มีอยู่ 13 แต้ม รั้งอยู่อันดับที่ 4 ของตาราง และถ้าหากเกมนี้พวกเขาเก็บ 3 แต้มได้อีก ก็จะมีแต้มไล่จี้จ่าฝูงอย่าง ลิเวอร์พูล เหลือแค่ 2 คะแนนตามเดิม

ขณะที่ผลงานใน ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ถ้วยเล็กสุดของยุโรปเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เชลซี ก็ประเดิมนัดแรกได้สวยเมื่อเปิดบ้านถล่ม เกนท์ จากเบลเยียมไปสบายๆ 4-2 แถมยังใช้นักเตะสำรองลงเล่นเป็นส่วนใหญ่ เท่ากับว่าตอนนี้ เชลซี ไม่แพ้ใครมา 6 เกมติดต่อกันแล้วในทุกรายการ แถมยังชนะมาตลอดใน 5 เกมหลังสุดอีกด้วย

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เชลซี มีปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่มากนัก โดยจะยังไม่มีเพียงแค่ รีซ เจมส์ และ โอมารี เคลลี่แมน เท่านั้นที่ยังบาดเจ็บ และ คาร์นี่ย์ ชุควูเมก้า ที่ยังมีปัญหาเรื่องความฟิต นอกนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ เชลซี จะมาในระบบ 4-2-3-1 ตามเดิม แนวรุกจะใช้ นิโกล่าส์ แจ็คสัน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์ และ เจดอน ซานโช่ คอยไล่ล่าประตู ขณะที่แดนกลางยังมี มอยเซส ไกเซโด้ คุมเกมร่วมกับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ

ฟอเรสต์
ทีมเจ้าป่าถือว่ามีผลงานที่ไม่เลวร้ายอะไรนัก หลังเพิ่งแพ้ไปเพียง 2 เกมจากทั้งหมด 7 เกมรวมทุกรายการ และถ้าดูเฉพาะผลงานในพรีเมียร์ลีกอย่างเดียวพวกเขาก็เพิ่งจะแพ้เป็นเกมแรกเท่านั้นหลังลงเล่นมา 6 นัด ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังพ่ายคาบ้านต่อ ฟูแล่ม ไป 0-1 ทำให้ตอนนี้ ฟอเรสต์ มีอยู่ 9 แต้มจาก 6 เกม จากผลงานชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 1 รั้งอยู่อันดับที่ 11 ของตาราง ผลงานที่ดีที่สุดของทีมเจ้าป่านับตั้งแต่เปิดฤดูกาลเป็นต้นมา ก็น่าจะเป็นเกมที่พวกเขาบุกชนะ ลิเวอร์พูล ได้อย่างเหลือเชื่อ 1-0 เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายน ทำให้เกมนี้ที่ต้องออกไปเยือน เชลซี แม้ว่าจะยาก แต่เชื่อว่าพวกเขายังหวังจะสร้างปาฏิหาริย์แน่นอน

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ฟอเรสต์ มีปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่มากนัก โดยจะไม่มีแค่ ดานิโล่ กองกลางตัวเก่งได้รับบาดเจ็บยาว และ อิบราฮิม่า ซองกาเร่ ที่ยังลงเล่นไม่ได้ แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ ฟอเรสต์ น่าจะยังยึดผู้เล่นชุดเดิมๆ เป็นหลัก ในระบบการเล่น 4-2-3-1 แนวรุกจะใช้ คริส วู้ด ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าต่อไป โดยมี แอนโธนี่ อีแลงก้า, มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ และ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย คอยสนับสนุนเกมรุก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ : มาโล กุสโต้, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า : มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ : โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์, เจดอน ซานโช่ : นิโกล่าส์ แจ็คสัน  

ฟอเรสต์ (4-2-3-1) : แม็ตซ์ เซลส์ : โอล่า ไอน่า, นิโกล่า มิเลนโควิช, มูริลโล่, อเล็กซ์ โมเรโน่ : เจมส์ วอร์ด-พราวส์, เอลเลียต แอนเดอร์สัน : แอนโธนี่ อีแลงก้า, มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย : คริส วู้ด

ความน่าจะเป็น : แม้ว่า ฟอเรสต์ จะเคยทำเซอร์ไพรส์บุกชนะ ลิเวอร์พูล มาแล้ว แต่เกมนี้น่าจะแตกต่างออกไป เพราะ เชลซี กำลังอยู่ในฟอร์มที่เข้าฝักเต็มที่ 4 เกมหลังสุดยิงไปถึง 16 ประตู เฉลี่ยนัดละ 4 ลูก แถมยังได้พักตัวหลักมาเต็มที่จากเกม ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ทำให้เกมนี้เชื่อว่าจะเป็นเจ้าถิ่นที่ครองเกมบุกมากกว่า ส่วน ฟอเรสต์ จะใช้แผนโต้กลับเหมือนเดิม แต่ด้วยแนวรุกที่กำลังเฉียบคมจะทำให้ เชลซี ทุบเอาชนะไปได้ สกอร์อาจจะไม่ขาดเหมือนเกมก่อนหน้านี้ แต่ก็น่าจะยิงได้มากกว่า 1 ประตู

สกอร์ที่คาด : เชลซี ชนะ ฟอเรสต์ 3-1