หลัวอวิ๋นซี: Born to be an Icon ถอดรหัสหัวใจ "เทพบุตรนักล่าฝัน" ผู้เปล่งประกายเหนือดวงดาว!

หลัวอวิ๋นซี: Born to be an Icon ถอดรหัสหัวใจ "เทพบุตรนักล่าฝัน" ผู้เปล่งประกายเหนือดวงดาว!
การเดินทางสู่บทบาทไอคอนระดับโลกของพระเอกหนุ่มเจ้าบทบาท "หลัวอวิ๋นซี" แห่งซีรีส์เรื่องเยี่ยม Till the End of the Moon จันทราอัสดง

จะมีสักกี่คนบนโลกใบนี้ที่อดทนต่อสู้กับอุปสรรคและความท้าทายที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน จนสามารถพิชิตความฝันมาครองได้อย่างงดงาม


หลัวอวิ๋นซี (Luo Yunxi) พระเอกหนุ่มหล่อเจ้าของบทบาท ถานไถจิ้น แห่งซีรีส์ดราม่าแฟนตาซีเรื่องเยี่ยม Till the End of the Moon หรือ จันทราอัสดง ที่โด่งดังข้ามกำแพงเมืองจีนแผ่ขยายไปไกลถึงทั่วโลก คือหนึ่งในบุคคลเหล่านั้น! เขาได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเขาคือ "เทพบุตรนักล่าฝัน" ตัวจริง ที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นและหัวใจที่ไม่ย่อท้อต่อทุกอุปสรรคในชีวิต!


จากบัลเลต์สู่ดวงดาว: เส้นทางที่ไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบของหลัวอวิ๋นซี

หลัวอวิ๋นซี ดาราหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ ขณะถ่ายเซ็ตแฟชั่น ภาพ: Weibo


หลัวอวิ๋นซี เกิดวันที่ 28 กรกฎาคม 1988 เขามีชื่อเดิมว่า หลัวอวี้ (Luo Yi) เติบโตมากับครอบครัวที่มีพ่อเป็นครูสอนเต้น เมื่ออายุย่างเข้า 3 ขวบ พรสวรรค์ในตัวก็เริ่มเจิดจ้า พ่อจึงเริ่มบังคับบุตรชายหัดฝึกฝนบัลเลต์อย่างจริงจัง หลัวอวิ๋นซีตั้งใจฝึกฝนอย่างอดทนเป็นเวลานานถึง 11 ปี ได้รับรางวัลการเต้นมากมาย และได้รับโอกาสอันล้ำค่าในการศึกษาต่อที่วิทยาลัยการละครเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Theater Academy) เอกสาขาบัลเลต์


หลังเรียนจบ แม้จะได้สัมผัสกับการเป็นครูสอนเต้นช่วงสั้นๆ แต่เส้นทางชีวิตของเขาก็พลิกผันไปอีกครั้ง เมื่อเพื่อนชักชวนให้เขามาเป็นเด็กฝึกไอดอล! การตัดสินใจครั้งนี้สร้างความกังวลให้กับคนรอบข้าง เพราะมันหมายถึงความยากลำบากและอนาคตที่ไม่แน่นอน แต่ด้วยความตั้งใจและอดทนอดกลั้น หลัวอวิ๋นซีและเพื่อนๆ ก็ได้เดบิวต์ในนามวง "JBOY3" พร้อมเพลงเปิดตัวที่สดใสอย่าง "Promise of Love" ทว่าตลาดเพลงบอยแบนด์ในจีนในขณะนั้นยังไม่เปิดกว้างนัก วงจึงต้องยุบลงในเวลาอันสั้น เขายังคงไม่ยอมแพ้ ผันตัวไปตั้งวงดูโอ "Double JL" แต่ก็ต้องพบกับความล้มเหลวอีกครั้ง


จุดเปลี่ยนสู่เส้นทางนักแสดง: เมื่อ "โอกาส" มาพร้อม "คำวิจารณ์"

หลัวอวิ๋นซี คนหล่อทำอะไรก็ดูดีแม้อยู่นิ่งๆ ภาพ: Weibo

ท่ามกลางความมืดมิด โอกาสก็ฉายแสงเข้ามา! หลัวอวิ๋นซีได้รับข้อเสนอให้เป็นพิธีกรทางโทรทัศน์ ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่โลกของการแสดงอย่างเต็มตัวในภาพยนตร์เรื่องแรก The Spring of My Life นี่คือการเปลี่ยนผ่านจากเส้นทางนักร้องสู่การเป็นนักแสดงอย่างแท้จริง


แม้จะต้องเผชิญกับคำวิพากษ์วิจารณ์และความท้าทายจากการขาดพื้นฐานการแสดง แต่หลัวอวิ๋นซีกลับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เขาลุกขึ้นสู้กับทุกอุปสรรค! ทุ่มทุนจ้างครูสอนการแสดงส่วนตัว หมั่นเรียนรู้ พัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง จนในที่สุดเขาก็ได้รับการยอมรับจากผลงานในซีรีส์ My Sunshine และได้รับการยกย่องในฐานะนักแสดงเจ้าบทบาทจากซีรีส์ Ashes of Love


ล่าสุดกับเรื่อง Till the End of the Moon หรือ จันทราอัสดง ผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามทั้งคำวิจารณ์และรายได้ ส่งผลให้หลัวอวิ๋นซีเลื่อนขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของอาชีพนักแสดงได้อย่างเต็มภาคภูมิ


ความทุ่มเทระดับมาสเตอร์พีซ: สามบทบาท สามหัวใจในร่างเดียว

หลัวอวิ๋นซีกับกล้องถ่ายรูปคู่ใจที่พกติดตัวไว้ตลอดเวลา ภาพ: Weibo

ก่อนถ่ายทำดาราหนุ่มต้องทำการบ้านอย่างหนัก เนื่องจากเขาต้องรับบทบาทตัวละครที่มีบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกันสุดขั้วถึง 3 ตัวด้วยกัน ได้แก่

- ถานไถจิ้น องค์ชายผู้ถูกคำสาปแห่งความมืด ผู้เติบโตอย่างเดียวดายและเย็นชาก่อนจะกลายร่างเป็นจอมมารผู้เหี้ยมโหด

- หมิงเย่ เทพแห่งสงครามผู้มุ่งมั่นในอุดมการณ์และซื่อตรง

- ชางจิ่วหมิน เซียนหนุ่มผู้อ่อนโยนที่ต้องต่อสู้กับความขัดแย้งในตัวเอง


ด้วยความรับผิดชอบอันแรงกล้าและความทุ่มเทแบบสุดตัว เขาทุ่มเทศึกษาลักษณะนิสัยของแต่ละตัวละครอย่างลึกซึ้ง เพื่อถ่ายทอดอารมณ์และบุคลิกให้สมบูรณ์แบบที่สุด แม้จะประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บระหว่างถ่ายทำฉากแอ็กชัน เขาก็ยังแสดงสปิริตนักแสดงด้วยการกลับมาถ่ายทำต่อหลังจากพักฟื้นเพียงชั่วครู่ เพื่อไม่ให้กระทบกับตารางงานของทุกคน! นี่คือหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรับผิดชอบอย่างแท้จริง!

 

ไอคอนแห่งยุค: มากกว่าแค่ดารา แต่คือ "จักรวาล" ที่ส่องแสง

หลัวอวิ๋นซีกับโมเมนต์สุดประทับใจจากคอนเสิร์ตเดี่ยวของเขา ภาพ: Weibo


ความสำเร็จและชื่อเสียงที่หลัวอวิ๋นซีได้รับมานั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน หากแต่เกิดจากความอุตสาหะและอดทนไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค การเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ และการเป็นแบบอย่างที่ดีในการแยกแยะเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกันอย่างชัดเจน 

เขาหาเวลาพักผ่อนด้วยการอยู่กับครอบครัว เล่นเกม (โดยเฉพาะ League of Legends) เขียนพู่กันจีน และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ "การร้องเพลง" ไม่ว่าจะรอแต่งหน้าทำผมหรือทำอะไรก็ตาม คนรอบข้างมักจะได้ยินเขาฮัมเพลงเบาๆ อย่างมีความสุขเสมอ 


แม้เส้นทางชีวิตจะพาเขาไปในทิศทางที่แตกต่าง แต่เขากลับไม่เคยละทิ้งความฝันในการร้องเพลง หลังจากประสบความสำเร็จในฐานะนักแสดง หลัวอวิ๋นซียังคงมุ่งมั่น จนสามารถจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวได้เป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว และยังได้รับเชิญไปร่วมร้องเพลงในงานมิวสิกเฟสติวัลอีกหลายครั้ง เขาสื่อให้แฟนคลับเห็นว่ามีความสุขทุกครั้งที่จับไมค์ร้องเพลง โดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำพูดใดๆ 


ในอนาคตอันใกล้นี้ แฟนๆ จะได้ตื่นเต้นกับบทบาทใหม่ๆ ที่เขาตั้งใจแสดงเพื่อตอบแทนความรักของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์แฟนตาซีย้อนยุค Whispers of Fate, ละครแนวสืบสวนฆาตกรรม The Truth Within รวมถึง Shadow Punisher ที่เริ่มถ่ายทำไปแล้ว และยังมีผลงานในรูปแบบอื่นที่เขายังฝันและอยากลองทำอีกมากมาย เหล่า "กระต่ายน้อย" (แฟนคลับของหลัวอวิ๋นซี) ต้องติดตามและให้กำลังใจเขาไปพร้อมกัน! 


จากนักเต้นบัลเลต์ สู่การเป็นนักร้องและนักแสดงที่ประสบความสำเร็จในวันนี้ หลัวอวิ๋นซีในวัย 37 ปี ได้กลายเป็นศิลปินผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในวงการบันเทิงอย่างสมศักดิ์ศรี! เขาคือ "ไอคอน" คือแบบอย่างอันยอดเยี่ยมสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีฝันอยากเป็นศิลปิน ทั้งในเรื่องของความมีวินัย ความอดทนอดกลั้น ความรับผิดชอบ และการหมั่นสำรวจและพัฒนาตัวเอง


ที่เหนือไปกว่านั้น ไม่ว่าชื่อเสียงของเขาจะโด่งดังไปไกลแค่ไหน หลัวอวิ๋นซี "เจ้าปลาน้อย" คนนี้ยังคงไม่ลืมที่จะมอบความรักและความห่วงใยคืนให้กับเหล่า "กระต่ายน้อย" แฟนคลับที่น่ารักของเขา ที่คอยเฝ้าติดตามและอยู่เคียงข้างกันเสมอมา 


เพราะสำหรับเหล่ากระต่ายน้อยแล้ว หลัวอวิ๋นซีไม่ใช่แค่ดวงดาวบนฟ้า แต่เป็น "จักรวาลทั้งใบ" ที่ส่องแสงให้หัวใจของพวกเขาเรืองรอง!

Weibo

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : TrueVisions Now