“เลอแกลร์” ยังหวังซิวแชมป์หลังคว้าโพลสำเร็จอีกครั้ง ไม่สนใจอุบัติเหตุปีก่อนทำหมดโอกาส และไม่หวั่นฝนตกสนามเปียก “ไซนซ์” ตามติด “เวอร์สเตปเปน” หลุดไปอันดับ 4
ชาร์ลส์ เลอแกลร์ นักขับทีม เฟอร์รารี่ ในศึก ฟอร์มูล่า วัน คว้าโพล โมนาโก กรังด์ปรีซ์ ได้สำเร็จเมื่อ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา ครองตำแหน่งติดต่อกัน หลังจากเคยทำได้เมื่อปี 2021 และ คาร์ลอส ไซนซ์ เพื่อนร่วมทีมรั้งตำแหน่งรองแม้มีอุบัติเหตุช่วงท้าย และอันดับ 3 เป็นของ เซอร์จิโอ เปเรซ ส่วนแชมป์เก่า แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน อีกหนึ่งของทีมเร้ดบูลล์ เรซิ่ง เข้ามาในอันดับ 4
ตั้งแต่เริ่มรอบซ้อมวันก่อนหน้า เลอแกลร์ ทำเวลาได้เร็วที่สุดมาตลอด และรักษาความเร็วต่อเนื่องจนเข้าสู่การควอลิฟาย โดยตลดทั้ง Q1 และ Q2 ทำเวลาเฉลี่ยดีกว่าคันที่ตามหลังอย่างน้อย 0.2 วินาทีจนใกล้จบ Q3 เซอร์จิโอ เปเรซ พารถหลุดโค้งก่อนลอดอุโมงค์ ทำให้มีธงเหลือง ไซนซ์ ที่ตามมาไม่ทันเห็นธง เบรกกระทันหัน แต่เมื่อเห็นรถของ เร้ดบูลล์ จอดอยู่จึงหลุดในลักษณะเดียวกัน
เลอแกลร์ พารถกลับไปจอดที่ พาร์ค แฟร์เม่ ในฐานะอันดับ 1 อย่างไร้ปัญหา ไม่มีอุบัติเหตุเนื่องจากขับอยู่ข้างหน้า และในฐานะขวัญใจเจ้าถิ่นก็กล่าวว่า “ผมคิดว่ารอบแรกดีจริงๆ ผมเริ่มพยายามอีกนิด อย่างที่ผมพยายามทำเสมอที่โมนาโก”
“รอบสองของ Q3 หรือรอบสุดท้ายก่อนมีธงแดงก็ออกมาแข็งแรงดี และมาถึงขีดจำกัด ผมขับไปยิ้มไปจนจบรอบเลย โชคไม่ดีเท่าไรที่ขับไม่จบรอบ แต่เราก็ได้เริ่มต้นจากโพล ตำแหน่งที่ดีที่สุดในการเริ่มแข่งขัน”
ย้อนหลังไป 12 เดือน เลอแกลร์ โชคไม่ดีนัก หลังจากคว้าโพลแล้ว รถอัดเข้าที่กั้นกำแพงอย่างแรง แม้ทีมงานพยายามซ่อมแซมจนเกือบจะได้เริ่มต้น แต่เมื่อพารถไปที่กริด เพลาซ้ายมีปัญหา ทำให้ยังไม่ทันออกรอบแรกด้วยซ้ำ เมื่อถามถึงความทรงจำนี้ นักขับวัย 24 ปีตอบว่า “แน่นอนว่าผมใฝ่ฝันที่จะเป็นแชมป์ที่นี่ เรามาดูกันว่ามันจะเป็นยังไง ผมเตรียมตัวสำหรับเรซนี้เหมือนเรซอื่นๆ นั่นล่ะ ซึ่งมันก็ออกมาดี”
อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าอาจมีฝนตกลงมาเมื่อถึงรอบสุดท้ายวันที่ 29 พ.ค. ตรงกับเวลาในไทย 20.00 น. ถ่ายทอดสดทาง ทรูสปอร์ต1 (666) ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันไม่ราบรื่น แต่ เลอแกลร์ ยืนยันว่า “สนามแห้งก็คาดการณ์ได้ง่ายกว่า แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไร เราจะแข่งขันอย่างเต็มที่ ดังนั้นก็ไม่เป็นไรหรอก
ลันโด นอร์ริส และ แม็คลาเรน ซึ่งมีสถิติประเภททีมดีที่สุดใน โมนาโก เข้ามาเป็นอันดับ 5 ตามด้วย จอร์จ รัสเซลล์ ดาวรุ่งสังกัด เมอร์ซิเดส ขณะที่เพื่อนร่วมทีม ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลก 7 สมัยมาในอันดับ 8 ส่วน อเล็กซ์ อัลบอน นักขับไทยหนึ่งเดียมทีม วิลเลี่ยมส์ จะออกสตาร์ทด้วยอันดับ 16
F1DRIVE
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial