บาร์เซโลน่า ฤดูกาล 2025-26 : การสานต่อความยิ่งใหญ่จากฤดูกาลก่อน

ในฤดูกาล 2025-26 ที่กำลังจะเปิดฉากขึ้นในอีกไม่นานหลังจากนี้นั้น เป้าหมายของ บาร์เซโลน่า นั้นชัดเจน นั่นก็คือการป้องการแชมป์ ลา ลีกา เอาไว้ให้ได้ รวมถึงต้องพยายามประสบความสำเร็จในรายการใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้ด้วย แม้ว่าในเวลานี้ พวกเขาจะยังคงมีปัญหาเรื่องการเงิน ที่ทำให้ส่งผลกระทบต่อการลงทะเบียนนักเตะอยู่ก็ตาม แต่สำหรับทีมอาซูลกราน่า พวกเขาถูกมองว่าเป็นเต็งแชมป์ร่วมกันกับ เรอัล มาดริด อย่างไม่ต้องสงสัย

ตลาดนักเตะขาเข้า : การเสริมทัพที่ไม่ได้หวือหวาแต่ตรงจุดกับสิ่งที่ขาด

ช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้ บาร์เซโลน่า ได้มีการเสริมทัพไม่มากนัก เป้าหมายแรกที่พวกเขาอยากได้มากที่สุดนั้นคือ นิโก้ วิลเลียมส์ แนวรุกทีมชาติสเปนของ แอธเลติก บิลเบา แต่เนื่องด้วยปัญหาความไม่ชัดเจนเรื่องการลงทะเบียนนักเตะ ทำให้ วิลเลียมส์ ล้มเลิกการย้ายมาเล่นให้บาร์ซ่า และเลือกต่อสัญญาใหม่กับ บิลเบา แทน สร้างความผิดหวังให้กับแฟนๆ บาร์เซโลน่า เป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม นักเตะที่พวกเขาได้ตัวมาจนถึงตอนนี้ ก็ถือว่าเข้ามาเติมเต็มกับส่วนที่ขาดได้อยู่ เพื่อแก้ไขปัญหาในจุดที่ขาดหายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งผู้รักษาประตูและเกมรุก

มาร์คัส แรชฟอร์ด (ยืมตัวจาก แมนฯ ยูไนเต็ด) : กองหน้าทีมชาติอังกฤษจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ย้ายมาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัวพร้อมกับมีออปชั่นซื้อขาดในซัมเมอร์หน้า ถือเป็นตัวเลือกรองๆ ที่บาร์ซ่าไม่ได้มองไว้ในทีแรก แต่ด้วยปัญหาเรื่องการเงิน ทำให้การยืม แรชฟอร์ด ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะกองหน้าปีศาจแดงยอมลดค่าเหนื่อยลงมาค่อนข้างมาก เพื่อโอกาสในการได้เล่นกับ บาร์เซโลน่า โดยเฉพาะ และด้วยทักษะที่เขามี ทั้งความเร็วและการจบสกอร์ที่เฉียบคม น่าจะเข้ามาช่วยให้แนวรุกมีความน่าสนใจมากขึ้นอย่างแน่นอน

โจน การ์เซีย (25 ล้านยูโร): ผู้รักษาประตูที่ย้ายข้ามฟากมาจากคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง เอสปันญ่อล โดย การ์เซีย ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ทำให้ บาร์ซ่า ตัดสินใจคว้าตัวเข้ามาร่วมทีม และนี่คือว่าที่นายทวารมือหนึ่งของทีมในฤดูกาลใหม่ หลังจากที่ มาร์ก-อังเดร แทร์ ชเตเก้น ผู้รักษาประตูจอมเก๋ามีปัญหาอาการบาดเจ็บ ต้องพักนานอย่างน้อย 4 เดือน

รูนี่ บาร์ดจี (Roony Bardghji): กองหน้าดาวรุ่งวัย 19 ปีชาวสวีเดน ที่ บาร์เซโลน่า ไปดึงตัวมาจาก เอฟซี โคเปนเฮเก้น นี่คือดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากจากบรรดาทีมใหญ่ทั่วยุโรป โดยเขาจะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในแนวรุกของทีม และเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของสโมสร

ภาพรวมของทีม : การผสมผสานของความเก๋าและพลังหนุ่ม

บาร์เซโลน่า ในฤดูกาลนี้มีจุดเด่นอยู่ที่การผสมผสานผู้เล่นมากประสบการณ์กับเหล่านักเตะพลังหนุ่ม ที่กำลังอยู่ในช่วงอายุที่เหมาะสมเกือบจะทั้งหมด ภายใต้การนำทีมของกุนซืออย่าง ฮันซี่ ฟลิค ที่เน้นปรัชญาฟุตบอลเกมรุกและการเล่นเพรสซิ่งสูง ทำให้ทีมมีสไตล์การเล่นที่ดุดันและน่าตื่นตาตื่นใจตามสไตล์ที่บาร์เซโลน่าควรจะเป็น

แนวรุก : กองหน้าตัวหลักอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่แม้ว่าปัจจุบันจะอายุ 36 ปีเข้าไปแล้ว แต่ก็ยังคงรักษาฟอร์มการทำประตูไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยในฤดูกาลที่แล้วเขาทำไปถึง 42 ประตูจากการลงเล่น 52 เกมรวมทุกรายการ จัดว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ นอกจากนี้ยังมี ลามีน ยามาล ที่กำลังดีวันดีคืน เขาเพิ่งจะอายุครบ 18 ปีไปหมาดๆ แต่ฝีเท้านั้นเข้าขั้นระดับโลกไปแล้ว, ราฟินญ่า ที่ยังเป็นกำลังสำคัญในแนวรุก แถมการมาของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับเกมรุกของบาร์ซ่าในฤดูกาลนี้ นั่นทำให้พวกเขาจะมีความหลากหลายและอันตรายมากยิ่งขึ้น

แดนกลาง : สำหรับ บาร์เซโลน่า แล้ว กองกลางของพวกเขาคือหัวใจสำคัญของทีมอยู่เสมอ การผสมผสานกันระหว่าง เปดรี้, เฟรงกี้ เดอ ยอง และ กาบี ทำให้แดนกลางของบาร์ซ่าแข็งแกร่งและควบคุมเกมได้อย่างเบ็ดเสร็จ ขณะที่ตัวอื่นๆ อย่าง เฟร์มิน โลเปซ และ มาร์ก กาซาโด้ ก็ข้ามชั้นจากดาวรุ่งมาเป็นกำลังหลักของทีมได้อย่างเต็มตัว ทำให้แดนกลางของบาร์ซ่าแข็งแกร่งไม่เป็นสองรองใครใน ลา ลีกา อย่างแน่นอน

แนวรับ : บาร์เซโลน่า มีผู้เล่นในแนวรับที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เปา กูบาร์ซี่ วัย 18 ปีที่ได้รับการยกย่องอย่างมากในฤดูกาลที่ผ่านมา รวมถึงแกนหลักอย่าง โรนัลด์ อเราโฮ่ และรายอื่นๆ อย่าง ชูลส์ กุนเด้ และ เอริก การ์เซีย แม้ว่าจะต้องเสีย อินญิโก้ มาร์ติเนซ ไปหลังตัดสินใจย้ายไปเล่นใน ซาอุดิ โปร ลีก แต่ยังเชื่อว่าแนวรับยังคงไม่ลดทอนความแข็งแกร่ง และการได้ โจน การ์เซีย เข้ามาเป็นนายทวารคนใหม่ จะทำให้แนวรับของบาร์ซ่าในฤดูกาลนี้มีความเหนียวแน่นและสามารถขึ้นเกมรุกได้ดีขึ้น

ความท้าทายและการคาดการณ์

บาร์เซโลน่าในฤดูกาล 2025-26 พร้อมแล้วกับการป้องกันแชมป์ ลา ลีกา และไล่ล่าความสำเร็จให้มากกว่าเดิม แม้ว่าการเสริมทัพอาจจะไม่ได้ดูหวือหวามาก เมื่อเทียบกับทีมใหญ่อื่นๆ ในลีก แต่การมี ฮันซี่ ฟลิค เป็นกุนซือ ทำให้พวกเขายังคงแข็งแกร่ง รวมถึงขุมกำลังเดิมก็ดีมากๆ อยู่แล้ว ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่มีศักยภาพในการลุ้นแชมป์ทุกรายการอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่สำคัญคือต้องระมัดระวังเรื่องอาการบาดเจ็บของนักเตะแกนหลัก เพราะมีหลายคนที่ถ้าขาดหายไปจะทำให้ บาร์ซ่า มีปัญหาแน่ๆ ส่วนเรื่องความสม่ำเสมอในการเล่นตลอดทั้งฤดูกาลนั้นยังไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นห่วงมากนัก และถ้าพวกเขาสามารถจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้ เราอาจจะได้เห็น "เจ้าบุญทุ่ม" สานต่อความสำเร็จจากเมื่อปีที่แล้ว และอาจจะต่อยอดไปถึงแชมป์ใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เช่นกัน