อาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ จบลงพร้อมกับฤดูกาลสมานฉันท์ เนื่องจากต่างฝ่าย ต่างทีม ต่างนักขับทุกคนล้วนเห็นภาพชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างตลอดซีซั่นที่ผ่านมา ดังนั้นการคว้าตำแหน่ง ทำคะแนน ได้อะไรหรือไม่ได้อะไร เป็นสิ่งที่ไม่ได้เพิ่งเกิด แต่สะสมมาจากการทำผลงานใน 22 สนามก่อนหน้านี้ และชัยชนะก็เป็นของ แม็คลาเรน
WINNERs and LOSERs
WINNERs
แม็คลาเรน
ลันโด นอร์ริส บอกเอาไว้ในปีก่อนหน้านี้ว่า ฤดูกาล 2024 แม็คลาเรน จะขึ้นมาลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว และก็ทำได้ ก่อนอำลาซีซั่นอย่างสุดสวย แม้ได้อันดับ 2 ในประเภทนักขับ เพราะพลาดท่าให้ แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน แต่ ลันโด ยังเชื่อว่า ปีหน้าจะเป็นปีของเขา และมันก็ดูเป็นไปได้
นอกจากแชมป์ในรุ่นใหญ่ F2 กาเบรียล บอร์โตเลโต้ นักขับจากค่ายสีมะละกอก็คว้าแชมป์โลกในรุ่นนี้ไปครองด้วย ตอกย้ำว่าพวกเขามีทีมที่ยอดเยี่ยมและรถแรงของแท้ แต่เนื่องจากที่นั่งในทีมใหญ่เต็มด้วยสองมือขับอนาคตไกล บอร์โตเลโต้ จึงข้ามไปอยู่กับ คิก เซาเบอร์
LOSERs
คิก เซาเบอร์ และ วัลต์เตรี่ บ็อททาส
ทุกคนต่างเป็นผู้ชนะในลู่ของตัวเอง นี่เป็นคำพูดที่ไม่เกินจริงสำหรับ ฟอร์มูล่า วัน ในสนามสุดท้าย เพียงแค่มันเป็นเรื่องน่าเสียดายไปสักหน่อยที่ บ็อททาส แชมป์โลกสองสมัยไม่สามารถเก็บคะแนนได้ ด้วยศักยภาพของรถ คิก เซาเบอร์ ในซีซั่นนี้ ทำให้ต้องจบแบบเศร้าสร้อยหลังจากผ่านรอบคัดเลือกมาแบบมีลุ้น
DRIVER OF THE DAY
ชาร์ลส์ เลอแกลร์
หลังจากผลงานในรอบคัดเลือกน่าผิดหวัง เลอแกลร์ ต้องออกสตาร์ทจากอันดับ 19 แต่ใครจะไปเชื่อว่าด้วยความเร็ว จังหวะ การฉกฉวยโอกาส เพียงแค่รอบเดียว รถสีแดงก็ไต่ขึ้นมา 9 ตำแหน่ง เป็นอันดับ 10 เขาพยายามใจเย็นทั้งที่ใจร้อน และถามกับทีมงานผ่านวิทยุว่าจบแบบนี้จะเป็นอย่างไรสำหรับ เฟอร์รารี่ ซึ่งน่าเสียดายที่จบแบบนี้ไม่พอจะเป็นแชมป์ แต่เขาสามารถยืนบนโพเดี้ยมได้อย่างภาคภูมิ
FASTEST LAP
เควิน แม็กนุสเซ่น
ซีซั่นนี้ ฮาส เอฟ วัน ไม่ต้องเล่นเกมหนีบ๊วย และได้คะแนนเป็นอันดับ 7 ในตารางประเภททีม ส่วน เควิน แม็กนุสเซ่น คว้าอันดับ 15 เก็บคะแนนได้ไม่เลว แม้ในซีซั่นหน้าที่นั่งตัวจริงไม่มีพอ แต่อย่างน้อย แม็กนุสเซ่น ก็ฝากผลงานเอาไว้ด้วยการทำความเร็วที่อาบูดาบี
RADIO OF THE WEEK
WE DREAM ALONE
BUT TOGETHER WE BELIEVED
WHAT STARTED OUT AS
A LEAP OF FAITH
TURNED INTO A JOURNEY
INTO A HISTORY BOOKS
เราฝันเดียวดาย แต่เรามีความเชื่อร่วมกัน
อาจจะเริ่มต้นด้วยก้าวย่างแห่งความเชื่อก้าวหนึ่ง ซึ่งเปลี่ยนเป็นการเดินทางในหน้าประวัติศาสตร์
ไม่รู้ว่าคำกล่าวนี้ แชมป์โลก 7 สมัยได้มาจากไหน แต่มันซาบซึ้งเข้าในหัวใจของแฟนๆ และผู้ที่กำลังมอยู่ทั่วโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
เซอร์ ลูอิส แฮมิลตัน อำลาเมอร์ซิเดสไปในฐานะฮีโร่ ตลอดระยะเวลา 12 ปีถือว่ายาวนานมากสำหรับนักขับและทีมซึ่งต่างฝ่ายต่างก็สร้างประวัติศาสตร์และชื่อเสียงความดีเอาไว้ประดับวงการ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า วันไหนที่ท่านเซอร์เลิกไปจากการนั่งขับรถความเร็วสูง ชื่อของเขาจะเ็นตำนาน ตลอดกาล
getty
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial