ลิเวอร์พูลฟอร์มยังแรงไม่ตก ไม่น่าแพ้ราชันชุดขาวและมีลุ้นถึงชนะ

พรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส นัดที่ห้า
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) พบ เรอัล มาดริด (สเปน)
สนาม : แอนฟิลด์
เวลา : 03:00 น. วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2567 (แข่งคืนวันพุธ)
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 1 (ช่อง 607)

ลิเวอร์พูล
ทีมหงส์แดงภายใต้การนำทีมของ อาร์เน่อ สลอต ผลงานยอดเยี่ยมแบบสุดๆ หลังแพ้ไปแค่เกมเดียวจากการลงเล่น 18 เกมรวมทุกรายการ ที่เหลืออีก 17 นัดเป็นการชนะไปถึง 16 และเสมอแค่ 1 ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกไปเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-2 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้พวกเขานำเป็นจ่าฝูงอย่างแข็งแกร่ง จากการมีอยู่ 31 แต้มจาก 12 เกม และทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง แมนฯ ซิตี้ ไปไกล 8 คะแนนแล้ว ถือว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ

ในส่วนของผลงานใน แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน หลัง ลิเวอร์พูล ชนะมาตลอดใน 4 เกมที่ผ่านมา เก็บไป 12 คะแนนเต็ม ผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านถล่ม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ขาดลอย 4-0 แม้ว่าตอนนี้จะตกลงมารั้งอันดับ 3 แต่ก็ตามหลัง อินเตอร์ มิลาน จ่าฝูงแค่แต้มเดียวเท่านั้น ถ้าชนะในเกมวันนี้ได้ก็จะกลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงต่อ และจะเป็นเพียงทีมเดียวจากทั้งหมด 36 ทีมที่ชนะได้ 5 เกมรวดในรอบ ลีก เฟส

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ลิเวอร์พูล ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บหน้าเดิมๆ โดยเกมนี้จะยังไม่มีผู้เล่นอย่าง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, เฟเดริโก้ เคียซ่า, อลิสซง เบคเกอร์, ดีโอโก้ โชต้า และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ยังไม่หายเจ็บ แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ ลิเวอร์พูล จะมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 ตามเดิม แนวรุกจะใช้ ดาร์วิน นูนเญซ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิก โซโบสไล และ หลุยส์ ดิอาซ คอยปั้นเกมอยู่ด้านหลัง ขณะที่มิดฟิลด์คู่กลางจะมี ไรอัน กราเฟ่นแบร์ค คุมเกมร่วมกับ เคอร์ติส โจนส์

เรอัล มาดริด
ราชันชุดขาวที่นำโดย คาร์โล อันเชลอตติ ฟอร์มสะดุดไปในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังแพ้คาบ้าน 2 นัดติดในเกมสำคัญอย่างศึก เอล กลาสิโก้ ที่พ่ายต่อคู่ปรับตลอดกาลอย่าง บาร์เซโลน่า ไปอย่างขาดลอย 0-4 ต่อด้วยเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่แพ้ต่อ เอซี มิลาน ไป 1-3 ทำให้เสียความมั่นใจไปพอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็กลับมาแก้ตัวได้อีกครั้ง หลังกลับมาชนะ 2 นัดติดต่อกันในเกม ลา ลีกา โดยผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกชนะ เลกาเนส ขาดลอย 3-0 ทำให้ตอนนี้ เรอัล มาดริด รั้งอยู่อันดับ 2 ของตาราง ตามหลังจ่าฝูงอย่าง บาร์เซโลน่า อยู่ 4 คะแนน แถมยังแข่งน้อยกว่า 1 นัด เรียกได้ว่ายังมีโอกาสที่จะลุ้นแชมป์ ลา ลีกา ได้อยู่

ในส่วนของผลงานใน แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น เรอัล มาดริด ต้องเร่งเครื่องมากกว่านี้ หลังมีสถิติ ชนะ 2 แพ้ 2 จาก 4 เกมที่ผ่านมา มีอยู่ 6 คะแนน และรั้งอยู่อันดับที่ 21 ของตาราง หากอยากผ่านเข้ารอบแบบที่ไม่ต้องไปเล่นเพลย์ออฟให้เหนื่อยอีก 2 นัด ก็ต้องพยายามเก็บแต้มให้มากที่สุดในอีก 4 เกมที่เหลือ และเกมนี้จะเป็นบทพิสูจน์ชั้นดี เมื่อต้องมาเยือน ลิเวอร์พูล ที่กำลังฟอร์มเข้าฝักแบบสุดๆ

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เรอัล มาดริด มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บมากพอควร โดยเกมนี้จะไม่มีผู้เล่นอย่าง โอเรเลียง ชูอาเมนี่, วินิซิอุส จูเนียร์, โรดรีโก้, ติโบต์ กูร์กตัวส์, ดาวิด อลาบา และ เอแดร์ มิลิเตา ที่ยังไม่หายเจ็บทั้งหมด ถือว่ามีผลกระทบต่อการจัดทีมแน่นอน ทำให้เกมนี้ เรอัล มาดริด จะมาในระบบการเล่น 4-4-2 แนวรุกจะใช้ คู่กองหน้าอย่าง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ จับคู่กับ เอ็นดริค โดยมี จู๊ด เบลลิงแฮม และ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ถ่างออกไปเล่นริมเส้น ส่วนแดนกลางจะใช้ ลูก้า โมดริช คุมเกมร่วมกับ เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : ควีวิน เคลเลเฮอร์ : คอเนอร์ แบรดลี่ย์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, คอสตาส ซิมิคาส : ไรอัน กราเฟ่นแบร์ค, เคอร์ติส โจนส์ : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิก โซโบสไล, หลุยส์ ดิอาซ : ดาร์วิน นูนเญซ

เรอัล มาดริด (4-4-2) : อังเดร ลูนิน : ลูคัส บาซเกซ, ราอูล อเซนซิโอ, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, แฟร์กล็อง เมนดี้ : เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, ลูก้า โมดริช, เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า, จู๊ด เบลลิงแฮม : คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, เอ็นดริค

ความน่าจะเป็น : ลิเวอร์พูล กำลังอยู่ในฟอร์มที่มั่นใจสุดๆ แต่แม้ว่าจะเอาชนะมาได้ตลอด แต่ก็ไม่ได้เป็นเกมที่เหนือกว่าคู่แข่งมากมายขนาดนั้น จุดเด่นคือเรื่องของความเฉียบคม และมักจะทำประตูสำคัญได้เสมอ ขณะที่ เรอัล มาดริด ฟอร์มตกไปช่วงหนึ่งแต่ตอนนี้ก็กลับมาเล่นได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหานักเตะบาดเจ็บน่าจะมีผลต่อพวกเขาไม่น้อย ทำให้เกมนี้อาจจะไม่ได้เหนือกว่าเจ้าถิ่น น่าจะมาเน้นเกมแบบรัดกุมมากกว่า โอกาสออกได้ทั้งสามหน้า แต่ถ้าใช้โอกาสไม่เปลือง ลิเวอร์พูล มีลุ้นถึงชนะได้ในเกมนี้

สกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล ชนะ เรอัล มาดริด 2-1