F1 FLASHBACK ความท้าทายของ สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์

สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ เป็นหนึ่งในการแข่งขันที่ต้องการความสมบูรณ์แบบมากที่สุดแห่งหนึ่งในบรรดาสนามทั้งหมด นอกจากรถพร้อม ทีมพร้อม ใจและกายของเหล่านักขับก็ต้องพร้อม กับสภาพอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ร้อนระอุมากกว่ายุโรปในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ที่นี่จึงเป็นสนามที่แชมป์เปลี่ยนหน้าบ่อยที่สุดใน 4 ครั้งที่ผ่านมา 

สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ 2018

ลูอิส แฮมิลตัน

ปีก่อนหน้านี้ มีอุบัติเหตุที่ชวนให้เสียวหลัง แต่ปลอดภัยสำหรับคันข้างหน้าที่เร่งเครื่องออกตัวไปก่อน ส่วนในครั้งนี้ทุกอย่างเรียบง่ายกว่าเคย และไม่มีสภาพอากาศเป็นอุปสรรคมากนัก ซึ่งชาวไทยที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงอย่างเราเรียกว่า ร้อนเป็นปกติ และไม่มีอุบัติเหตุธงแดง มีเพียง เซอร์จิโอ เปเรซ (ที่อยู่กับ ฟอร์ซ อินเดีย ในตอนนั้น) และ เซอร์เก ซิร็อตคิน แย่งอันดับ 14 ห่างไกลจากแถวหน้า ลงท้ายด้วยแชมป์ 3 สมัยซ้อนของ แฮมิลตัน ตามด้วย แม็กซ์ เวอร์ศเตปเปน และ เซยาสเตียน เว็ทเทล 

สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ 2019

เซบาสเตียน เว็ทเทล

เจ้าของโพล ชาร์ลส์ เลอแกลร์ ออกตัวได้อย่างยอดเยี่ยม เพียงแค่หากสังเกตเวลาในรอบคัดเลือก จะเห็นช่วงที่ เซบาสเตียน เว็ทเทล เพื่อนร่วมทีมมีช่วงที่เร็วกว่า และการทำความเร็วเพื่อจัดอันดับ เป็นคนละเรื่องกับการทำความเร็วเฉลี่ย และการจัดการสถานการณ์ต่างๆ ในรอบจริง เมื่อเปลี่ยนยางอีกครั้งและออกจากพิต ทีมงานทำความเร็วได้ดีแล้ว แต่อุณหภูมิยางที่ร้อนไม่พอ บวกกับกลยุทธเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ เลอแกลร์เฉียดแชมป์ไปเพียงนิดเดียว 

สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ 2022

เซอร์จิโอ เปเรซ

นี่คือฤดูกาลที่ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง และ เฟอร์รารี่ ต่อสู้กันอย่างดุเดือด และเหล่านักขับต้องเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกลงมา พื้นสนามแห้งบ้างเปียกบ้าง และเนื่องจาก แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน เพื่อนร่วมทีมมีปัญหาในการเติมเชื้อเพลิง จึงต้องออกสตาร์ทจากอันดับ 8 นี่จึงเป็นการแข่งขันที่แท้จริงของ เซอร์จิโอ เปเรซ ที่คัดเลือกอยู่ตามหลัง ชาร์ลส์ เลอแกลร์ แต่ชิงจังหวะการออกตัวได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังทำเวลาทิ้งห่างไปเรื่อยๆ และเข้าเส้นชัยที่ช่องว่างมากกว่า 7 วินาที 

สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ 2023

คาร์ลอส ไซนซ์

เนื่องจากตลอดฤดูกาล แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน และ เซอร์จิโอ เปเรซ ผลัดกันความแชมป์มาตลอด กว่าจะถึงสิงคโปร์ การชิงแชมป์ก็ออกจะจืดชืดไปมากแล้ว เพราะทุกคนรู้ดีว่า อีกไม่กี่สนาม เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ก็จะคว้าแชมป์ แต่อยู่ๆ ทั้งสองออกจากรอบคัดเลือกรอบ Q2 ไปแบบสุดช็อก โพลกลายเป็นของ คาร์ลอส ไซนซ์ ซึ่งเป็นแชมป์สนามนี้โดยมี เลอแลกร์ ช่วยป้องกันตำแหน่งอยู่ข้างหลัง และถ้าจะมีอะไรตื่นเต้น ก็น่าจะเป็น จอร์จ รัสเซลล์ ซึ่งควรคว้าตำแหน่งสุดท้ายบนโพเดี้ยม แต่ไม่รู้ว่าขับผิดพลาดอย่างไร เบรกช้าเกินไป หรือโดน ลูอิส แฮมิลตัน เพื่อนร่วมทีมไล่จี้อยู่ข้างหลัง ถึงได้พลาดเอาหัวรถชนกำแพงในรอบสุดท้าย 

ฟอร์มูล่า วัน สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ วันที่ 20-22 ก.ย. นี้ ถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์ ช่องบีอินสปอร์ตส์1 (617)