F1 AZERBAIJAN GRANDPRIX in 4 pics

F1 AZERBAIJAN GRANDPRIX 

in 4 pics

อาเซอร์ไบจาน กรังด์ปรีซ์ เกือบจะจบลงอย่างเรียบง่าย เมื่อคืน 15 ก.ย. ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เรียบ ไม่ง่าย โดยเฉพาะกับ ชาร์ลส์ เลอแกลร์ และเสียอารมณ์สุดขีดสำหรับ เซอร์จิโอ เปเรซ ที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้ หรืออย่างน้อยเก็บคะแนนให้ได้กับสนามที่ใครๆ ก็ยกย่องว่าขับได้อย่างยอดเยี่ยม และในที่สุดความพยายามตลอดซีซั่นที่ แม็คลาเรน ตั้งความหวังก็มาถึง 

WINNERs and LOSERs

WINNERs

ออสการ์ ปิอัสตรี และ แม็คลาเรน

ในที่สุด ชัยชนะที่ใฝ่ฝัน ขาวสะอาด สวยงาม ทุกอย่างมาจากการทำงานหนักที่สั่งสมมาตลอดก็เกิดขึ้นกับ ออสการ์ ปิอัสตรี แบบไม่มีอะไรมาคั่นกลาง และเป็นสนามที่สองในซีซั่นนี้ จากการชิงหวะสุดทางตรงหลังจากไล่ตาม ชาร์ลส์ เลอแกลร์ หลายต่อหลายรอบ ไม่เพียงเท่านั้น ถัดไปจากกลุ่มผู้นำ ลันโด นอร์ริส ยังแซง แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน ทำอันดับได้ดีกว่า

แชมป์ของ ปิอัสตรี และการไต่จากอันดับ 17 สู่อันดับ 4 ของ นอร์ริส ทำให้ แม็คลาเรน ได้ในสิ่งที่เฝ้าฝัน เฝ้ารอคอยมาแสนนาน คือการเป็นอันดับ 1 ในตารางคะแนนสะสมประเภททีมผู้สร้าง สมกับที่ แซ็ค บราวน์ เคยบอกไว้ว่าเป้าหมายคือการชิงแชมป์โลก จากนี้ที่ต้องทำต่อไป คือการรักษาผลงาน รักษาฟอร์ม ทำผิดพลาดให้น้อยที่สุด

LOSERs

เซอร์จิโอ เปเรซ และ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง

ก่อนเข้าสู่ บากู มีข่าวลือว่า เร้ดบูลล์ เรซิ่ง สามารถแก้ไขเซ้ตติ้งรถได้แล้ว และรถจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เผชิญปัญหาน้อยลงที่อาเซอร์ไบจาน แต่กลายเป็นว่าผู้ที่ได้ประโยชน์จากการปรับจูนครั้งนี้มีเพียงคนเดียวคือ เซอร์จิโอ เปเรซ ที่ดูจะชำนาญกับสนามแห่งนี้มากเป็นพิเศษ อีกเพียงไม่เกิน 2 รอบ รถหมายเลข 11 จะผ่านเส้นชัยได้แล้ว ไม่ว่าจะได้โพเดี้ยมหรือไม่ อย่างน้อยก็มีอันดับดีกว่า แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน

หากไม่ได้ขึ้นรับรางวัล อย่างน้อยยังได้ลบคำครหาเรื่องฝีมือที่ใครๆ บอกว่านักขับดัตช์นั้นทำได้ดีกว่ามาตลอด แต่สถานการณ์พลิกอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างเกิดขึ้นในเสี้ยววินาที เมื่อยางรถของ เชโก้ และ คาร์ลอส ไซนซ์ เฉี่ยวกัน จนทั้งสองดึงดูดเข้าหากันและสะบัดไปติดกำแพงด้วยแรงเหวี่ยงอันเกินควบคุม จากโพเดี้ยมกลายเป็นศูนย์ และข้างหลัง เวอร์สเตปเปน โดน นอร์ริส แซงหน้าไป ทำให้สนามนี้เจ็บปวดอย่างยิ่งสำหรับทีมงาน เร้ดบูลล์ 

DRIVER OF THE DAY

ออสการ์ ปิอัสตรี

ด้วยตำแหน่งกริดที่ดีจากรอบคัดเลือกวันก่อนหน้า สิ่งเดียวที่ ปิอัสตรี รอคอยก็คือความผิดพลาดและจังหวะเผลอของ เลอแกลร์ ซึ่งมันก็เกิดขึ้นจริง และเพียงแค่ไม่กี่วินาทีนั้นทำให้นักขับในรถสีแดงที่น่าจะนำม้วนเดียวจบ กลายเป็นอันดับ 2 ไปแบบสุดเสียดาย และ ปิอัสตรี ได้โหวตจากแฟนๆ 29.6 เปอร์เซ็นต์ ตามด้วยเพื่อนร่วมทีมที่แซงแล้วแซงอีก นอร์ริส รับโหวตไป 14.2 เปอร์เซ็นต์ 

ถัดมาในอันดับ 3 คือ เลอแกลร์ และ เปเรซ ส่วนอันดับ 5 มาแบบเป็นกำลังใจคือ ฟรังโก โคลาปินโต ที่ได้คะแนนใน ฟอร์มูล่า วัน เป็นแต้มแรก 

FASTEST LAP

ลันโด นอร์ริส

เนื่องจากอันดับในรอบคัดเลือกไกลกว่าที่คิด แผนการของ นอร์ริส จึงไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำความเร็ว เร็วอีก เร็วให้มากขึ้นในทุกๆ รอบจนกลายเป็นคันที่เร็วที่สุด กระทั่ง 3 นักขับที่รอรับรางวัลบนโพเดี้ยมยังปรึกษากันว่า นอร์ริส เขาเร็วๆ จริงๆ นะ 

RADIO OF THE WEEK

IMAGINE ANDREA ON YOUR SHOULDER SAYING

ZERO WHEEL SPIN EVERY EXIT

ก่อนที่ นอร์ริส จะแซงหน้า เวอร์สเตปเปน มีเสียงวิทยุอันแสนน่ารักจากทีมงานบอกว่า “จินตนาการภาพ อันเดรีย (สเตลล่า หัวหน้าทีม) ยืนเกาะไหลนาย แล้วพูดว่า อย่าให้รถส่ายทุกครั้งที่ออกโค้ง” ซึ่งเป็นคำเตือนที่ทั้งน่ารักน่าชัง และอาจจะน่าสยดสยองเล็กน้อยหากความผิดพลาดเกิดขึ้น แต่ก็เป็นการเรียกสติว่า ถ้าไม่แซง แซงไม่ได้ ก็ขอให้แข่งจนจบ และในที่สุด นอร์ริส ก็ทำได้ดีกว่าที่จินตนาการ โดย สเตลล่า ไม่ต้องมายืนตบบ่าด้วย 

สนามถัดไป ฟอร์มูล่า วัน สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ วันที่ 20-22 ก.ย. นี้ ถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์ ช่องบีอินสปอร์ตส์1 (617)