F1 ITALIAN GRANDPRIX in 4 pics

F1 ITALIAN GRANDPRIX   in 4 pics
“อิตาเลี่ยน กรังด์ปรีซ์” จบลงแบบสุดเหวี่ยง เหวี่ยงแฟนๆ “เฟอร์รารี่” และ “แม็คลาเรน” ไปคนละทาง ด้วยความรู้สึกต่างๆ กัน แบบที่ภาพเล่าเรื่องได้ดีกว่าอะไรทั้งหมด




อิตาเลี่ยน กรังด์ปรีซ์ จบลงแบบสุดเซอร์ไพรส์เมื่อคืน .ที่ผ่านมา สำหรับผู้ชมไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนทีมไหน ด้วยความรู้สึกแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าอยากเห็นรถคันไหนเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก สำหรับสาวกแม็คลาเรนก็ตั้งความหวังเอาไว้อย่างยิ่งใหญ่ แต่โดน “ม้าลำพอง” ที่กลายเป็นม้ามืดปาดหน้าเค้กไปแบบคาดไม่ถึง 


WINNERs and LOSERs




WINNERs


เฟอร์รารี่ 


ก่อนหน้าการแข่งขันที่ มอนซ่า เซอร์กิต เฟอร์รารี่ ไม่ใช่ทีมนอกสายตา จากอันดับ ในตารางคะแนนประเภททีมและที่สนามก่อนหน้าในเนเธอร์แลนด์ส ชาร์ลส์ เลอแกลร์ เพิ่งขึ้นโพเดียม ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะเป็นแรงส่งให้ขึ้นไปถึงโพเดียมอีกครั้ง หรืออาจเป็นแชมป์ได้ด้วยศักดิ์ศรีเจ้าถิ่น และมันก็เกิดขึ้นจริงๆ ด้วยแท็คติกเข้าพิตครั้งเดียว 


ทีมวางแผนมาอย่างดีให้ทั้ง คาร์ลอส ไซนซ์ และ ชาร์ลส์ เลอแกลร์ ใช้แผนเดียวกัน ออกสตาร์ทด้วยยางมีเดียมคอมพาวด์ และเปลี่ยนเป็นฮาร์ดคอมพาวด์ แต่ด้วยความเร็วที่ดีกว่าของ เลอแกลร์ และอันดับการออกสตาร์ทที่เข้าทางกับการชิงจังหวะทำให้ ไซนซ์ เป็นคันข้างหลังที่ต้องป้องกันตำแหน่งคันหน้า ซึ่งหากวิเคราะห์คู่แข่งมาอย่างดี ไซนซ์ และทีมงานคงรู้อยู่แล้วว่าจะกันท่าคันที่ตามมาได้นานแค่ไหน นานพอจะปล่อยให้ เลอแกลร์ ขับถนอมยางหรือไม่ ซึ่งจากผลที่ออกมาก็ถือว่า ไซนซ์ ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม อยู่ในความสำเร็จนี้เช่นกัน 


LOSERs


แม็คลาเรน


เป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับทั้ง ออสการ์ ปิอัสตรี และ ลันโด นอร์ริส ที่คาดว่าอาจจะต้องแข่งกันเองเพื่อแย่งแชมป์ แต่อุปสรรคกลับมากกว่าที่คิด เมื่อต้องออกตัวด้วยการชิงจังหวะกันเอง แต่ความเชี่ยวชาญที่สนามแห่งนี้กับช่องว่างของโอกาสทำให้ เลอแกลร์ แทรกเข้ามา ไม่เพียงเท่านั้น ทีมงานก็อาจคาดไม่ถึงว่า เฟอร์รารี่ มีแผนที่ล้ำเลิศกว่า และไม่ได้เตรียมแผนสำรองอย่างแผนพิตเดียวเอาไว้ ประกอบกับอัตรการสึกหรอสูงจาก ปัจจัยคือตัวรถเอง ผสมกับการขับเพื่อเร่งเครื่อง และสนามที่มีการทำพื้นผิวใหม่ ทำให้ทุกอย่างผิดจากที่คิดไว้


ปิอัสตรี ไม่ได้พูดอะไรผิดเลยเมื่อบอกว่า ทีมจะเสียทุกอย่างหากไม่ได้อะไรในสนามนี้ ขนาดได้อันดับ และ โกยแต้มไล่จี้ เร้ดบูลล์ แต่ความรู้สึกมันกลับเหมือนเป็นผู้แพ้ที่ไม่ได้คะแนนสักนิด ท่ามกลางความคาดหวังอันสูงลิ่ว แต่ความผิดหวังนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทั้ง นอร์ริส และ ปิอัสตรี ต้องเรียนรู้ต่อไป เพื่อความแข็งแกร่งในการชิงแชมป์ช่วงซีซั่นที่เหลือและในซีซั่นหน้า


เร้ดบูลล์ เรซิ่ง


ไม่ว่า แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน หรือ เซอร์จิโอ เปเรซ ก็ไม่สามารถพารถขึ้นโพเดียมได้เลยใน สนามล่าสุด อย่างที่เห็นว่าค่ายอื่นทำได้ดีกว่า ส่วน เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ยังคงกินบุญเก่า จากแชมป์ ใน สนามแรกของซีซั่น ทำให้ เวอร์สเตปเปน ถึงกับตอบแบบอารมณ์เสียว่า การแก้ปัญหาของทีมที่อาเซอร์ไบจาน สนามถัดไปก็คือการเปลี่ยนรถทั้งคัน 


DRIVER OF THE DAY

ชาร์ลส์ เลอแกลร์



นอกจากกลยุทธยอดเยี่ยม ฝีมือของนักขับก็เยี่ยมยอด จึงไม่น่าแปลกใจที่ เลอแกลร์ ได้คะแนนโหวต 26.4 เปอร์เซ็นต์ นำหน้า ปิอัสตรี ที่ตามมา 17.4 เปอร์เซ็นต์ เพราะนักขับออสเตรเลี่ยนก็ไม่ได้ทำอะไรผิดพลาด เว้นเพียงอย่างเดียวเมื่อวิศวกรถามว่า พิตเดียวไหวไหมแต่เนื่องจากการขับที่ต้องไล่ล่ากระทั่งเพื่อนร่วมทีม ปิอัสตรี จึงไม่ได้ถนอมยางและคงคิดไม่ถึงเช่นกัน เป็นเศษเสี้ยงประสบการณ์ที่ต้องปรับปรุง ส่วนอันดับ คาร์ลอส ไซนซ์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จก็ติดอันดับเข้ามาที่ 11.2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่รุกกี้ ฟรังโก โคลาปินโต มาในอันดับ ที่ 11.1 เปอร์เซ็นต์ 


FASTEST LAP

ลันโด นอร์ริส


 


นอร์ริส ก็ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดพลาดรุนแรง และเป็นที่เข้าใจได้ว่าอาจมีรีแอ็คชั่นในช่วงออกตัวที่ยังเป็นปัญหามาหลายสนาม ประกอบกับ ปิอัสตรี สามารถใช้ความได้เปรียบจากลมดูด เมื่ออยู่ในตำแหน่งข้างหลังเล็กน้อย จึงโดนแซงตั้งแต่รอบแรก ถึงอย่างนั้น หากวัดความเร็วโดยเฉลี่ย แม็คลาเรน หมายเลข ก็เป็นหนึ่งในรถที่มีความเร็วสูงที่สุดคันหนึ่ง 


RADIO OF THE WEEK


CAN PEOPLE IN THE BACKGROUND PLEASE BE AWAKE!?
 I KNOW THIS IS A **** POSITION BUT IT’S IMPORTANT.




พวกทีมงานเบื้องหลังนั่นน่ะ ช่วยตื่นหน่อย !? ผมรู้ว่าตำแหน่งเราห่วย แต่มันก็สำคัญเหมือนกันนะ”


ด้วยผลงานที่ไม่ดีในรอบคัดเลือกต่อเนื่องมาถึงรอบจริงกับปัญหาที่แก้ไม่ตกมาหลายสนาม พื้นรถ การเกาะถนน และอะไรต่างๆ ทำให้บรรยากาศของทีมระดับแชมป์โลกเงียบเหงาไป และเนื่องจาก แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน ไม่พอใจที่การเข้าพิตครั้งหนึ่งเสียเวลาไปกว่า 6.2 วินาที เพราะถอดล้อหลังขวาไม่ออก ทำให้เวลาในภาพรวมแย่ลง จบด้วยอันดับ 


อย่างไรก็ดี สิ่งนี้เป็นทั้งการพูดจาที่ฟังไม่น่ารักสำหรับนักขับถึงทีมงาน แต่ก็แสดงความเป็นมืออาชีพในตัว เวอร์สเตปเปน เช่นกัน เพราะถึงจะอันดับแย่ แต่ก็ต้องแข่งไปจนจบ และทุกสนาม ทุกคะแนนยังมีความหมาย ไม่ใช่แกล้งหลับเพราะอันดับไม่ดี 


สนามถัดไป ฟอร์มูล่า วัน อาเซอร์ไบจาน กรังด์ปรีซ์ วันที่ 13-15 .นี้ ถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์ ช่องบีอินสปอร์ตส์1 (617) 


getty

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial