สิ่งที่น่าติดตามใน ดัตช์ กรังด์ปรีซ์

สิ่งที่น่าติดตามใน ดัตช์ กรังด์ปรีซ์
หลังจากพักเบรกครึ่งฤดูกาล “ฟอร์มูล่า วัน” กลับมาแล้วใน “ดัตช์ กรังด์ปรีซ์” กับสิ่งที่น่าติดตามท่ามกลางฤดูกาลที่แชมป์หมุนเวียนกันไป แต่ในบ้านเกิดกับหล่องกองเชียร์สีส้ม จะมีใครท้าทาย “เวอร์สเตปเปน” แชมป์โลกสามสมัย


หลังจากพักเบรกกลางฤดูกาล ฟอร์มูล่า วัน ไปนานเต็มเดือน หรือหากนับจำนวนสัปดาห์ก็เป็น 3 สุดสัปดาห์ที่เงียบเหงาเล็กน้อยสำหรับแฟนๆ แม้มี โอลิมปิก เกมส์ ให้ชมคั่นเวลาสำหรับคอกีฬา แต่สำหรับสาวกตัวจริงที่รอคอยเสียงเครื่องยนตร์ การมาของ ดัตช์ กรังด์ปรีซ์ จึงเป็นเสียงสวรรค์ และเสียงลั่นระฆังของการแข่งขันที่แท้จริง 

ครึ่งฤดูกาลแรก มีเรื่องราวน่าตื่นเต้นมากมาย แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน ออกตัวได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าแชมป์ 4 จาก 5 สนามแรก และเก็บโพลรัวๆ โดนคั่นกลางจากชัยชนะของ คาร์ลอส ไซนซ์ ในออสเตรเลี่ยน กรังด์ปรีซ์ ซึ่งนั่นทำให้ เฟอร์รารี่ ดูเป็นคู่แข่งที่น่าจะมาแย่งแชมป์ แต่หลังจากนั้น แม็คลาเรน ที่ประกาศตัวไว้ตั้งแต่ปีก่อน ว่าปี 2024 จะเข้ามาร่วมวงชิงแชมป์โลกอย่างแท้จริงก็เบิกชัยชนะสนามแรกในอาชีพให้ ลันโด นอร์ริส ได้สำเร็จที่ ไมอามี่ กรังด์ปรีซ์ 

เวอร์สเตปเปน ยังพยายามรักษาฟอร์มสม่ำเสมอต่อไปที่ เอมิเลีย โรมาญ่า แต่หลังจากนั้น ชาร์ลส์ เลอแกลร์ ก็ทำความฝันเป็นจริงใน โมนาโก บ้านเกิด แต่ก็ไม่ใช่การกลับมาร่วมวงล่าแชมป์ของ เฟอร์รารี่ อย่างแท้จริง เพราะผลงานโดยรวมจากรถสองคันของ แม็คลาเรนยังดีกว่า โดย 4 สนามในรอบ 5 สัปดาห์ก่อนพักเบรกครึ่งซีซั่น จอร์จ รัสเซลล์, ลูอิส แฮมิลตัน และ ออสการ์ ปิอัสตรี ผลัดกันขึ้นรับถ้วยแชมป์ ความไม่แน่นอนและการแข่งขันสูงลิ่วในฤดูกาลนี้จึงทำให้ยังมีเรื่องน่าติดตามอีกมาก  

ราชาแห่ง ซานด์ฟอร์ต

ดัตช์ กรังด์ปรีซ์ เป็นสนามที่เจ้าถิ่น แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน มีความคาดหวังสูง และกองเชียร์สีส้มก็มาเพื่อฮีโร่แห่งชาติที่คว้าแชมป์ติดต่อกันมาแล้ว 3 ปีซ้อน เทียบเท่าสถิติของ จิม คล้าร์ก ในปี 1963-1965 และ คล้าร์ก ยังได้แชมป์อีกครั้งในปี 1967 รวม 4 ครั้ง ถ้าครั้งนี้ แชมป์โลกจากเนเธอร์แลนด์ส ยังสืบต่อความสำเร็จ ก็จะคว้าแชมป์สมัยที่ 4 ติดต่อกันซึ่งยังไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน 

จับตา เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ในทุกสนาม

เร้ดบูลล์ ทั้งทีมใหญ่และทีมรองยังคงไม่คลี่คลายสถานการณ์เรื่องที่นั่งนักขับ เวอร์สเตปเปน มีสัญญายาวและสัญญาราคาที่สูงมากจนไม่มีใครจะเอาเขาไปจากทีมนี้ได้ ยกเว้นก็แต่ เมอร์ซิเดส ซึ่งยังมีที่นั่งว่าง ขณะที่อีกเก้าอี้ข้างๆ ไม่รู้จะเป็นของ เซอร์จิโอ เปเรซ ต่อไปหรือไม่ แม้มีการประกาศต่อสัญญาเมื่อเดือนมิ.ย. ที่ผ่านา แต่จะไปนั่งตรงไหน ก็ต้องวัดผลงานในซีซั่นที่เหลือ เพราะมีเสียงสนับสนุน ยูกิ ทซึโนดะ พอสมควร ส่วนอนาคตของ แดเนี่ยล ริคคาร์โด้ ยังเป็นที่จับตา

เมอร์ซิเดส รออะไร

เมอร์ซิเดส แชมป์โลกประเภททีม 8 สมัยซ้อนยังไม่เร่งร้อน หรืออาจยังไม่แน่ใจว่าจะตัดสินใจอย่างไรกับที่นั่งข้างๆ จอร์จ รัสเซลล์ แม้ขณะนี้นักวิเคราะห์ต่างเอนเอียงไปที่ คิมี่ อันโตเนลลี่ เด็กหนุ่มดาวรุ่งที่จะอายุครับ 18 ปีในวันอาทิตย์ 25 ส.ค. นี้ ว่าจะเป็นอนาคตใหม่ของทีม เพราะหากต้องการมือเก๋า หรือต้องการนักขับประเภทพร้อมใช้งาน เมอร์ซิเดส อาจเลือก คาร์ลอส ไซนซ์ หรือไม่ก็ดึงเอาใครสักคนที่ยังไม่มีสัญญาในซีซั่นหน้าเข้ามาแล้ว นี่จึงเป็นก้าวย่างที่น่าสนใจ 

The Best of คาร์ลอส ไซนซ์

การประกาศสัญญากับทีมวิลเลี่ยมส์ของ ไซนซ์ นับเป็นเซอร์ไพรส์ ไม่มากก็น้อย เนื่องจากเมอร์ซิเดสตัดสินใจช้า หรือไม่ก็อาจตัดใจปรับแท็คติกสำหรับซีซั่นใหม่ไปแล้ว ด้วยการให้รัสเซลล์ เป็นตัวหลัก และรุกกี้ อันโตเนลลี่ เข้ามาเป็นตัวรอง ส่วน ไซนซ์ ที่ไม่ยอมกลับไป อีลพีน หรือ เรโนลต์ สปอร์ต ค่ายเก่าที่ฝรั่งเศส คาดว่าเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงภายในที่ทำให้ทีมบริหารอาวุโสและผู้บริหารที่มีประสบการณ์หลายรายค่อยๆ จากไป มองเรื่องเสถียรภาพของทีม วิลเลี่ยมส์ จึงดูดีกว่าเล็กน้อย และผลงานในซีซั่นนี้สำหรับวิลเลี่ยมส์ แฟนๆ คงรู้ดีว่า รถปานกลาง แต่ถ้ามีนักขับที่จะช่วยทีมได้มากอีกหน่อย อะไรต่ออะไร ก็คงน่ารักมากขึ้น และจากนี้ ไซนซ์ จะมีสมาธิกับฤดูกาลที่เหลือ 

ฟอร์มูล่า วัน ดัตช์ กรังด์ปรีซ์ วันที่ 23-25 ส.ค. นี้ ถ่ายทอดสดทาง ทรูวิชั่นส์

getty

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial