ศึกคอมมูนิตี้ ชิลด์ 2024 เรือใบยังมีลุ้นเบียดชนะผีมากกว่า

ศึกคอมมูนิตี้ ชิลด์ 2024 เรือใบยังมีลุ้นเบียดชนะผีมากกว่า
ศึกเอฟเอ คอมมูนิตี้ ชิลด์ 2024 แมนฯ ยูไนเต็ด ดีกรีแชมป์เอฟเอ คัพ จะเล่นที่ เวมบลีย์ พบกับ แมนฯ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีกทีมล่าสุด โดยเกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีปัญหาการจัดทีมอยู่บ้าง เนื่องจากมีตัวหลักบางรายยังไม่หายเจ็บ โดยเฉพาะแนวรับที่ยังน่าเป็นห่วง แต่ในส่วนของเกมรุกถือว่าค่อนข้างแน่น และยังมีโอกาสได้ลองแข้งใหม่อย่าง โจชัว เซิร์กซี ด้วย ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ฟอร์มอุ่นเครื่องที่ผ่านมาถือว่ายังไม่ค่อยโดดเด่น แต่เกมรุกยังแข็งแกร่งเหมือนเดิม แต่เกมนี้พวกเขายังขาดตัวหลักอีกหลายราย ทำให้น่าจะยังต้องใช้ดาวรุ่งบางรายลงเล่นในเกมนี้

พรีวิวฟุตบอลเอฟเอ คอมมูนิตี้ ชิลด์ 2024
แมนฯ ยูไนเต็ด พบ แมนฯ ซิตี้
สนาม : เวมบลีย์
เวลา : 21.00 น. เสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2567
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 3 (ช่อง 609)

แมนฯ ยูไนเต็ด
ทีมปีศาจแดงของ เอริค เทน ฮาก มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากในฤดูกาลนี้ หลังจากที่่มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของทีมงานโค้ช เมื่อมีการแต่งตั้ง รุด ฟาน นิสเตลรอย และ เรอเน่ ฮาค เข้ามาเป็นผู้ช่วยคนใหม่ รวมถึงทีมงานบริหารสโมสรที่กลายเป็น แดน แอชเวิร์ธ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการคนใหม่ ทำให้การซื้อขายนักเตะดูจะมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม แต่จนถึงตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งจะได้แข้งใหม่เพียงสองราย นั่นคือ โจชัว เซิร์กซี และ เลนี่ โยโร่ ซึ่งรายหลังได้รับบาดเจ็บที่กระดูกฝ่าเท้าช่วงปรีซีซั่น ทำให้ต้องพักนานราว 3 เดือน ทำให้เชื่อว่าการเสริมทัพยังคงต้องมีต่อไป ไม่น่าจะหยุดเพียงเท่านี้

ในส่วนของฟอร์มการเล่นเกมอุ่นเครื่องที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด อุ่นเครื่องไป 5 นัด มีสถิติชนะเพียง 2 เกมและแพ้ไป 3 โดยเกมที่แพ้นั้นมีการแพ้ต่อทีมจากอังกฤษด้วยกันอย่าง อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล ด้วย โดยเกมที่แพ้ทีมหงส์แดงที่สหรัฐอเมริกานั้นแพ้ด้วยสกอร์ขาดลอยถึง 3-0 เลยทีเดียว แต่กระนั้นผู้เล่นที่ใช้ก็ยังเรียกได้ว่าไม่ใช่นักเตะชุดใหญ่ทั้งหมด จึงทำให้ยากที่จะประเมินได้ว่ารูปแบบการเล่นของทีมอยู่ในขั้นไหน

ส่วนการจัดทีมในเกมนี้ จะเป็นครั้งแรกที่ เอริค เทน ฮาก ได้ผู้เล่นชุดใหญ่กลับมาแทบจะครบแล้ว แต่ก็ยังมีบางรายที่เจ็บอยู่ อาทิ ราสมุส ฮอยลุนด์ และ เลนี่ โยโร่ ทำให้น่าจะส่งผู้เล่นที่ดีที่สุดเท่าที่มีลงสนาม ในระบบการเล่น 4-2-3-1 แนวรุกน่าจะใช้ โจชัว เซิร์กซี ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเลย โดยมี มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ อาหมัด ดิยัลโล่ เป็นตัวสนับสนุน ส่วนตรงกลางก็ยังมี เมสัน เมาท์ คุมเกมร่วมกับ กาเซมิโร่ ขณะที่แนวรับ จอนนี่ อีแวนส์ น่าจะลงยืนคู่กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ

แมนฯ ซิตี้
ทีมเรือใบสีฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงทีมจนถึงตอนนี้น้อยมากๆ นักเตะใหม่ที่ย้ายเข้ามามีเพียงรายเดียวคือ ซาวินโญ่ ปีกชาวบราซิลวัย 20 ปีที่ย้ายมาจาก ทรัวส์ ในฝรั่งเศสด้วยค่าตัว 21 ล้านปอนด์ ส่วนที่เหลือยังเป็นทีมชุดเดิมๆ อาจจะมีแค่ในรายของ ฮูเลียน อัลวาเรซ กองหน้าอาร์เจนไตน์ที่ตัดสินใจย้ายไป แอตเลติโก มาดริด แล้ว ซึ่งก็น่าจะมีผลในแง่ของขุมกำลังเชิงลึก ที่ต้องขาดกองหน้าฝีเท้าดีไปอีกราย ทำให้เชื่อว่า แมนฯ ซิตี้ น่าจะยังต้องซื้อนักเตะเพิ่มเช่นกัน

ในส่วนของฟอร์มการเล่นช่วงปรีซีซั่นที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้มีฟอร์มที่สวยหรูอะไรนัก พวกเขาลงเล่นไป 4 นัด มีสถิติชนะ 1 เสมอ 1 และแพ้ 2 โดยเกมที่ชนะเพิ่งจะเกิดขึ้นในเกมสุดท้ายของการทัวร์สหรัฐฯ นั่นคือการเอาชนะ เชลซี ไป 4-2 แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะปกติทีมเรือใบสีฟ้าในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นั้นเครื่องร้อนช้าอยู่แล้ว

การจัดทีมในเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ ไม่มีปัญหาตัวเจ็บมากนัก แต่ก็จะมีบางรายที่ยังไม่พร้อมลงสนาม ทำให้เกมนี้เชื่อว่า เป๊ป น่าจะส่งผู้เล่นชุดใหญ่ผสมกับดาวรุ่งบางราย ในระบบการเล่น 4-2-3-1 กองหน้าตัวเป้าจะเป็น เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ โดยมีตัวสนับสนุนเกมรุกอย่าง แจ็ค กรีลิช, แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ ออสการ์ บ็อบบ์ แดนกลางจะใช้ มาเตโอ โควาซิช ยืนคุมเกมร่วมกับ เควิน เดอ บรอยน์ ส่วนแนวรับยังมีเซนเตอร์ตัวหลักอย่าง มานูเอล อาคานจี และ รูเบน ดิอาส พร้อมลงเล่น

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : อังเดร โอนาน่า : ดีโอโก้ ดาโลต์, จอนนี่ อีแวนส์, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, แฮร์รี่ อามาสส์ : เมสัน เมาท์, กาเซมิโร่ : อาหมัด ดิยัลโล่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด : โจชัว เซิร์กซี

แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : สเตฟาน ออร์เตก้า : ริโก้ ลูอิส, มานูเอล อาคานจี, รูเบน ดิอาส, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล : เควิน เดอ บรอยน์, มาเตโอ โควาซิช : ออสการ์ บ็อบบ์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, แจ็ค กรีลิช : เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์

ความน่าจะเป็น : กลับมาล้างตากันอีกครั้ง หลังจากที่ล่าสุดเจอกันไปในเกมเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ เป็นทาง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่พลิกล็อกเอาชนะไปได้ 2-1 อย่างไรก็ตาม เกมนี้แม้ว่าจะเป็นศึกชิงโล่ แต่ก็ไม่ใช่เกมที่จะเอาจริงเอาจังกันมากขนาดนั้น แต่เหมือนเป็นการซ้อมใหญ่ก่อนหน้าที่พรีเมียร์ลีกจะเปิดฉากขึ้นในอีก 1 สัปดาห์ให้หลังมากกว่า ดังนั้นเกมนี้เชื่อว่าน่าจะเป็นเกมที่สู้กันสูสีมากกว่าที่คิด ความพร้อมของทั้งสองทีมยังไม่เต็มร้อยทั้งคู่ ทำให้น่าจะวัดกันที่ใครจะเล่นพลาดน้อยกว่ากัน ดูแล้วโอกาสเป็นไปได้ทั้งหมด แต่ถ้าให้เลือกผู้ชนะ ยังมองไปที่ แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสมากกว่า

สกอร์ที่คาด : แมนฯ ซิตี้ ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1

ภาพจาก Getty Images

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial