“ออสเตรเลี่ยน กรังด์ปรีซ์” กลับมาพร้อมกับความน่าตื่นตาและความคาดหวังว่า ที่นี่จะเป็นสนามที่การแข่งขันแรงร้อนไม่แตกต่างจากปีก่อน และจะมีใครหรือไม่ที่มาโค่นบัลลังก์ “เร้ดบูลล์ เรซิ่ง”
ออสเตรเลี่ยน กรังด์ปรีซ์ เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่เพราะการอยู่ในลำดับ 3 ของปฏิทินแข่งขัน จากที่เคยยืนหนึ่งเป็นเรซแรกของฤดูกาล แต่เป็นเพราะที่นี่สามารถใช้ DRS ได้ 4 โซน ตั้งแต่ปี 2022 และด้วยพื้นแทร็คที่มีความเร็ว โค้งความเร็วสูงอละอันตรายเกินว่าที่รถ 2 คันจะเบียดแซงกันได้ ปี 2023 จึงเกิดเหตุการณ์มากมาย
มีรถเพียง 12 คันเท่านั้นที่สามารถเข้าเส้นชัยได้ เนื่องจากทันทีที่ออกตัวและเตรียมเข้าโค้งก็มีรถเสียหายตั้งแต่ยังไม่ทันไปได้ถึงครึ่งรอบ ปี 2024 จึงเป็นอีกครั้งที่แฟนๆ จะพลาดไปไม่ได้ และยังมีหลายสถานการณ์ที่น่าติดตาม
คาร์ลอส ไซนซ์ หรือ โอลิเวอร์ แบร์แมน
เนื่องจากเพิ่งฟื้นตัวจากการเข้าผ่าตัดไส้ติ่ง แม้ คาร์ลอส ไซนซ์ กลับออกมาจากโรงพยาบาลได้ในไม่กี่วัน แต่อาการเจ็บข้างในที่มากกว่าตาเห็นเป็นเรื่องที่ยากจะตอบได้ ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวรายบุคคล ที่จริงแล้วนักขับชาวสเปนลงซ้อมรอบแรกได้ตามปกติ แต่ก็บอกไว้ว่า ถ้ารู้สึกไม่ดีอาจจะไม่ลงแข่ง ดังนั้น โอกาสอาจเป็นของ โอลิเวอร์ แบร์แมน แบบไม่ทันตั้งตัวอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี แม้ดาวรุ่งจาก ฟอร์มูล่า ทู ทำผลงานได้ดีเกินคาด แต่ฝีมือที่ต้องการการขัดเกลาอีกเล็กน้อยอาจยังไม่พอสำหรับ เฟอร์รารี่ ที่ต้องการเก็บแต้มจำนวนมากในซีซั่นนี้ และสิ่งที่ผู้คนรอคอยโดยเฉพาะเหล่า “ติโฟซี่” คือการเห็นพัฒนาการที่อาจกลายเป็นความกดดัน หาก แบร์แมน ได้ลงขับอีกครั้ง
ใครก็ได้ที่ไม่ใช่ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง
ซีซั่นที่แล้วผลงานของ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ดีเกินคาด โดยเฉพาะ แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน จนถึงกับทำให้สาวกทีมอื่นออกอาการไม่พอใจและอยากเห็นใครก็ได้ขึ้นมายืนเบียดบนโพเดียม และแย่งตำแหน่งแชมป์ แต่ในสองสนามแรก ทั้ง เวอร์สเตปเปน และ เซอร์จิโอ เปเรซ ตอกย้ำความแรงระดับทีมแชมป์โลกด้วยการเข้าแถวในอันดับ 1 และ 2
เฟอร์รารี่ และ เฟร็ด วาสเซอร์ ดูจะเริ่มต้นได้ดี และรอจังหวะที่จะแทรกเข้ามาให้ได้ในที่ไหนสักแห่ง ดังนั้นการขึ้นโพเดียมถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี ขณะที่ เมอร์ซิเดส ทำผลงานได้ไม่ดีนักที่ซาอุดิอาระเบีย แม้ทั้ง ลูอิส แฮมิลตัน และ จอร์จ รัสเซลล์ ยืนยันว่า W15 ยอดเยี่ยมกว่ารถที่ขับมาตลอด 2-3 ปีนี้ แต่ยังไม่ได้ทำผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน ขณะที่ แม็คลาเรน แสดงตัวว่าพร้อมป่วนทุกสนาม แต่ก็ยืนระยะยังไม่ได้
ม้ามืด เจ้าถิ่น
อย่างไรก็ดี หากจะมีใครสักคนที่ไม่ใช่นักขับ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง และเป็นที่น่าจับตาเหมาะจะเป็นม้ามืด คงไม่มีใครแซงหน้าขวัญใจเจ้าถิ่น ออสการ์ ปิอัสตรี ที่จะมาแสดงฝีมือต่อหน้าแฟนๆ ใน เมลเบิร์น เป็นครั้งที่สอง โดยผลงานในปีที่แล้วจบด้วยอันดับ 8 มีแต้มติดมือ แม้น่าเสียดายไปเล็กน้อยที่รถของ แม็คลาเรน มาเร่งแรงในช่วงอัพเกรดครั้งใหญ่หลังผ่านเกือบครึ่งซีซั่นก็ตาม
ครั้งนี้ ปิอัสตรี กลับมาอีกครั้ง โดยผลงานใน ซาอุดิ อาระเบีย จบเป็นอันดับ 4 ด้วยฝีมือ ประสบการณ์และอีกหลายอย่างที่ดีขึ้นเป็นลำดับ และการเริ่มต้นที่ดีของ แม็คลาเรน เป็นไปได้ว่าปี 2024 จะดีกว่าอันดับ 8 และหลังจากรอบซ้อมรอบแรกที่ ลันโด นอร์ริส เพื่อนร่วมทีมทำเวลาได้เป็นอันดับ 1 ปิอัสตรี อันดับ 10 หมายความว่ารถของ แม็คลาเรน มีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่แล้ว
แดเนี่ยล ริคคาร์โด้ ไม่ได้ลงขับเมื่อปีก่อน แต่เขากลับมาแล้วในซีซั่นนี้แม้ยังไม่มีคะแนน แต่เขาบอกเอาไว้ว่า เขาตั้งความหวังกับโฮมเรซ และคิดว่าจะมีอะไรที่จะเป็นการออกตัวเริ่มต้นอย่างชัดเจนในซีซั่นนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นเหตุการณ์ทีมออร์เดอร์ส่งถึง ยูกิ ทซึโนดะ ในบาห์เรน แสดงออกแล้วว่าทีมให้ความสำคัญกับมือขับวัย 34 ปีที่มากมายด้วยประสบการณ์และเคยเป็นแชมป์ถึง 8 สนาม มากกว่านักขับชาวญี่ปุ่น
ฟอร์มูล่า วัน สนามถัดไป ออสเตรเลี่ยน กรังด์ปรีซ์ รอบคัดเลือก เวลา 12.00 น. วันที่ 23 มี.ค. นี้ถ่ายทอดสดทางช่อง บีอินสปอร์ตส์1 (607)
getty
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial