พ็อตเตอร์รับสภาพเชลซีแพ้ยับ ชี้ครึ่งแรกเล่นน่าผิดหวัง

เชลซี มีคิวต้องไปเยือน แมนฯ ซิตี้ ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 หลังจากที่เพิ่งจะเจอกันมาหมาดๆ ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว และทีมสิงโตน้ำเงินครามก็เป็นฝ่ายแพ้คาบ้านไป 0-1 ทำให้เกมนี้ พ็อตเตอร์ ต้องพยายามนำทีมบุกไปเอาชนะให้ได้ เพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมา และยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์เอฟเอ คัพ ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าหลายอย่างจะไม่เป็นไปอย่างที่ เชลซี คิด เมื่อโดน แมนฯ ซิตี้ ไล่ยิง 3 ประตูตั้งแต่ในครึ่งแรก โดยได้ประตูจาก ริยาด มาห์เรซ นาทีที่ 23, ลูกจุดโทษของ ฮูเลียน อัลวาเรซ ในนาทีที่ 30 และ ฟิล โฟเด้น ในนาทีที่ 38 ก่อนที่ในครึ่งหลังช่วงนาทีที่ 85 แมนฯ ซิตี้ จะมาได้ประตูที่ 4 จากลูกจุดโทษของ มาห์เรซ ทำให้จบเกม เชลซี บุกมาพ่ายต่อเรือใบสีฟ้าขาดลอย 4-0 ตกรอบเอฟเอ คัพ ไปเป็นที่เรียบร้อย

ทั้งนี้ หลังจบเกม พ็อตเตอร์ ที่ตอนนี้น่าจะกำลังกดดันอย่างหนักและมีความเสี่ยงที่อาจจะถูกปลดจากตำแหน่งกุนซือของเชลซีได้กล่าวว่า ทีมของตนเล่นไม่ดีนักในครึ่งแรก ทำให้ทุกอย่างกลายเป็นงานยาก "ผมคิดว่าครึ่งหลังเราทำได้ดีขึ้น แต่ครึ่งแรกนั้นเป็นอะไรที่ย่ำแย่ โดยเฉพาะในช่วง 20 นาทีแรก เราเล่นเกมรุกและเกมรับได้ไม่ดีพอ และไม่สามารถเปิดเกมได้อย่างที่เราต้องการ"

"แมนฯ ซิตี้ มีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมมาก เราต้องพบกับความยากลำบาก ประตูแรกเป็นลูกฟรีคิกที่ยอดเยี่ยม ส่วนประตูที่สองเราต้องเสียจุดโทษแบบแปลกๆ การที่ต้องตามหลัง 2-0 มันทำให้เราเล่นยาก และต้องพยายามไล่เอาบอลกลับคืนมา และห้ามเปิดพื้นที่ว่าง ดังนั้นเกมในครึ่งแรกจึงเป็นอะไรที่ย่ำแย่และยากลำบากสำหรับเราทุกคน"

"ครึ่งหลังเรามีการตอบสนองที่ดีขึ้น โดยเฉพาะบรรดากลุ่มผู้เล่นดาวรุ่ง ผมคิดว่าพวกเขาทุ่มเททุกอย่างที่มี และแสดงให้เห็นถึงคุณภาพ แน่นอนว่าเรารู้สึกผิดหวังที่ต้องตกรอบ และผมต้องขอแสดงความยินดีกับ แมนฯ ซิตี้ ด้วย เพราะพวกเขาสมควรเป็นฝ่ายชนะ"

ทั้งนี้ หลังความพ่ายแพ้ในเกมนี้ทำให้ เชลซี แพ้ไปแล้ว 6 จาก 10 เกมหลังสุดในทุกรายการ และตกรอบฟุตบอลถ้วยในประเทศครบทุกถ้วยแล้ว ที่สำคัญทั้งในรายการ คาราบาว คัพ และ เอฟเอ คัพ พวกเขาตกรอบเพราะ แมนฯ ซิตี้ ทั้งหมด