เอฟเอหวังเซาธ์เกตคุมสิงโตต่อ ไม่สนว่าตกรอบ 8 ทีมหรือไม่

ทีมชาติอังกฤษ ทำผลงานในศึก เวิลด์ คัพ หนนี้ได้น่าประทับใจ เมื่อสามารถผ่านรอบแรกมาได้แบบไม่ยากเย็นนัก ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มบี ด้วยผลงานชนะ 2 เสมอ 1 มี 7 คะแนน โดยมีผลงานโดดเด่นอย่างการถล่ม อิหร่าน 6-2 และเอาชนะ เวลส์ ได้ 3-0 ขณะที่ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อเอาชนะ เซเนกัล มาได้อย่างขาดลอย 3-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้อย่างสวยงาม

ทั้งนี้ จากผลงานที่ยอดเยี่ยมจนถึงตอนนี้ ทำให้มีรายงานข่าวว่า เอฟเอ ต้องการให้ เซาธ์เกต อยู่คุมทีมชาติอังกฤษต่อไปยาวๆ โดยที่ไม่สนใจว่าผลงานของทีมในฟุตบอลโลกต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร แม้ว่าทีมสิงโตคำรามอาจจะแพ้ต่อ ฝรั่งเศส ในรอบก่อนรองชนะเลิศก็ตาม เนื่องจาก เอฟเอ ต้องการให้ เซาธ์เกต กลายเป็นกุนซือทีมประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมชาติอังกฤษ ต่อจาก เซอร์ อัล์ฟ แรมซี่ย์ ที่เคยพาขุนพล "ทรีไลอ้อนส์" คว้าแชมป์โลกมาครองได้เมื่อปี 1966 ซึ่งเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวของ อังกฤษ ที่เคยเป็นแชมป์ เวิลด์ คัพ

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายเชื่อกันว่ามีโอกาสไม่น้อยที่ทัวร์นาเมนท์ฟุตบอลโลกคราวนี้ อาจจะเป็นงานสุดท้ายที่ เซาธ์เกต จะทำกับทีมชาติอังกฤษ เนื่องจากเจ้าตัวเริ่มมีความคิดว่าอยากจะกลับไปหาความท้าทายในการคุมทีมระดับสโมสรอีกครั้ง หลังเคยมีประสบการณ์คุมทีม มิดเดิ้ลสโบรซ์ ในช่วงระหว่างปี 2006-2009 ก่อนจะผันตัวมาคุมทีมชาติอังกฤษชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ในปี 2013 และก้าวขึ้นมาเป็นกุนซือทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา

สำหรับ เอฟเอ นั้นตระหนักดีถึงความต้องการของ เซาธ์เกต และกำลังพยายามโน้มน้าวให้กุนซือวัย 52 ปีรายนี้เปลี่ยนใจ ทำหน้าที่เป็นนายใหญ่ทีมชาติอังกฤษต่อไป ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2024 ในอีกสองปีข้างหน้า

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการพูดคุยระหว่าง เซาธ์เกต และ เอฟเอ อีกครั้ง หลังจากที่จบภารกิจที่ กาตาร์ เรียบร้อยแล้ว และน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นหลังจากนั้น ซึ่งเชื่อกันว่า เอฟเอ จะไม่มีทางแยกทางกับ เซาธ์เกต อย่างแน่นอน เว้นเสียแต่ว่าเจ้าตัวจะเลือกลงจากตำแหน่งไปเอง