ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 เลสเตอร์ ซิตี้ จะเปิดรัง คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ เชลซี โดยเกมนี้ เลสเตอร์ ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บอยู่พอสมควร ขณะที่ฟอร์มในช่วงหลังถือว่าค่อนข่างแย่ แพ้ไปถึง 3 จาก 4 นัดหลังสุด ขณะที่ เชลซี แข็งแกร่งกว่ามาก ฟอร์มการเล่นก็ทำได้ดีในช่วงหลัง จนทำให้ขึ้นไปยึดพื้นที่ในตำแหน่งท็อป 4 ได้เรียบร้อย และเกมนี้พวกเขาก็หวังคว้า 3 แต้ม เพื่อรักษาอันดับ 3 ของตัวเองไว้ต่อไป
พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25
เลสเตอร์ ซิตี้ พบ เชลซี
สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
เวลา : 19.30 น. เสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2567
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602)
เลสเตอร์ ซิตี้
ทีมจิ้งจอกสยามมีผลงานที่ขึ้นๆ ลงๆ ในช่วงที่ผ่านมา โดยล่าสุดพวกเขาไม่ชนะใครมา 4 เกมติดต่อกันแล้วในทุกรายการ โดยเป็นการเสมอ 1 แพ้ 3 แต่ถ้าย้อนไปดูช่วงก่อนหน้านั้น พวกเขาเคยมีช่วงที่แพ้เกมเดียวจากการลงเล่น 6 เกม แถมยังชนะได้ถึง 3 นัด ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกไปพ่าย แมนฯ ยูไนเต็ด ขาดลอย 3-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนจะเข้าสู่ช่วงเบรกทีมชาติ ทำให้ตอนนี้ เลสเตอร์ มีอยู่ 10 คะแนนจาก 11 นัด รั้่งอยู่อันดับที่ 15 ของตาราง ห่างจากโซนตกชั้นแค่ 3 คะแนน และเกมนี้พวกเขาต้องรับมือ เชลซี ที่กำลังฟอร์มแรงสุดๆ ถือว่าค่อนข้างยากเลยหากว่า เลสเตอร์ หวังจะมีแต้มในเกมนี้
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เลสเตอร์ มีปัญหานักเตะบาดเจ็บพอสมควร โดยเกมนี้พวกเขาจะไม่มีผู้เล่นอย่าง แพทสัน ดาก้า, ยาคุบ สโตลาซิค, ริคาร์โด้ เปเรยร่า, จอร์แดน อายิว, อับดุล ฟาตาวู ที่ยังไม่หายเจ็บ นอกจากนี้ยังต้องรอเช็คความฟิตของ เจมี่ วาร์ดี้ และ บ็อบบี้ เด กอร์โดว่า รีด ส่วน ฟากุนโด้ บัวนานอตเต้ ติดโทษแบนในเกมนี้ ทำให้ เลสเตอร์ จะมาในระบบการเล่น 4-3-3 แนวรุกจะใช้ 3 กองหน้าอย่าง บิลาล เอล คานนูส, ออดซอนน์ เอดูอาร์ และ สเตฟี่ มาวิดิดี้ ขณะที่แดนกลางจะมี แฮร์รี่ วิงค์ส, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ และ บูบาคารี่ ซูมาเร่ คอยคุมเกม
เชลซี
เชลซี ภายใต้การนำของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า กำลังทำผลงานได้อย่างดีวันดีคืน แม้ว่าในเกมพรีเมียร์ลีก 2 นัดหลังสุดพวกเขาจะเสมอด้วยสกอร์ 1-1 มาทั้งหมด แต่ก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้ เพราะเป็นการเจอกับคู่แข่งที่ไม่ง่ายอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล และถ้าดูเฉพาะผลงานในลีกอย่างเดียว พวกเขาแพ้นัดเดียวจาก 10 เกมหลังสุด และชนะไป 5 เกม เก็บไปแล้ว 19 คะแนนจาก 11 นัด รั้งอยู่อันดับที่ 3 ของตาราง แต่กระนั้นก็ยังตามหลังจ่าฝูงอย่าง ลิเวอร์พูล ถึง 9 แต้ม ดังนั้นเป้าหมายของ เชลซี ในตอนนี้น่าจะเป็นการรักษาพื้นที่ท็อป 4 ของตัวเองเอาไว้ให้เหนียวแน่นที่สุด
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เชลซี จะหมดสิทธิ์ใช้งาน รีซ เจมส์ อีกแล้ว อย่างน้อยก็ราวๆ 1 เดือน หลังเจ้าตัวเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาอีกครั้ง ขณะที่รายอื่นๆ นั้นไม่มีปัญหา น่าจะสามารถฟิตกลับมาลงสนามได้ทั้งหมด ทำให้เกมนี้ เชลซี จะมาในระบบ 4-2-3-1 ตามเดิม แนวรุกจะใช้ นิโกล่าส์ แจ็คสัน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์ และ เปโดร เนโต้ คอยไล่ล่าประตู ขณะที่แดนกลางยังมี มอยเซส ไกเซโด้ คุมเกมร่วมกับ โรเมโอ ลาเวีย
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) : แม็ดส์ เฮอร์แมนเซ่น : เจมส์ จัสติน, เวาท์ ฟาส, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น : แฮร์รี่ วิงค์ส, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, บูบาคารี่ ซูมาเร่ : บิลาล เอล คานนูส, ออดซอนน์ เอดูอาร์, สเตฟี่ มาวิดิดี้
เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ : มาโล กุสโต้, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า : มอยเซส ไกเซโด้, โรเมโอ ลาเวีย : โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์, เปโดร เนโต้ : นิโกล่าส์ แจ็คสัน
ความน่าจะเป็น : เลสเตอร์ เล่นในบ้านก็จริง แต่ฟอร์มช่วงหลังย่ำแย่มากๆ แถมยังมีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นบาดเจ็บค่อนข้างมากอีกด้วย ขณะที่ เชลซี ฟอร์มการเล่นกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ สภาพทีมก็ไม่มีปัญหาบาดเจ็บรบกวนมากมาย ตัวหลักๆ อยู่กันครบ ทำให้เกมนี้เชื่อว่าจะเป็น เชลซี ที่ครองเกมบุกได้มากกว่า และด้วยคุณภาพของตัวผู้เล่น รวมถึงแท็คติกที่เหนือกว่า หากว่าไม่ใช้โอกาสเปลืองกันไปเอง ก็ไม่น่าจะยากเกินไปที่จะบุกมาเอาชนะ
สกอร์ที่คาด : เลสเตอร์ ซิตี้ แพ้ เชลซี 0-2
ภาพจาก Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial