สลอตพอใจหงส์บุกเชือดหมาป่า แต่ยังติงลูกทีมเสียประตูง่าย

ลิเวอร์พูล ลงเล่นเป็นคู่สุดท้ายของเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยมีคิวบุกไปเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่กำลังฟอร์มย่ำแย่ หลังยังไม่ชนะใครเลยนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล และยังแพ้ไปถึง 4 นัดจาก 5 เกม ซึ่งทีมหงส์แดงหวังที่จะบุกไปเก็บ 3 แต้มกลับออกมาให้ได้เพื่อโอกาสในการขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของลีก

รูปเกมเป็น ลิเวอร์พูล ที่ทำได้ดีกว่าตามความคาดหมาย แต่กว่าจะมาได้ประตูขึ้นนำ ก็ต้องรอจนถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก และเป็น อิบราฮิม่า โกนาเต้ ที่โขกทำประตูได้ในนาทีที่ 45+2 ทำให้จบครึ่งแรกเป็นหงส์แดงที่ออกนำอยู่ 1-0

อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลังเล่นมาได้เพียง 11 นาที กลายเป็น วูล์ฟส์ ที่ตามตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะที่ โกนาเต้ ที่ไปประมาทในจังหวะบังบอลออกหลัง จนทำให้ ยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซ่น กองหน้าของเจ้าถิ่นตามมาแย่งได้ ก่อนที่สุดท้ายบอลจะไปเข้าทาง รายาน เอท-นูริ เข้ามายิงจ่อๆ ตุงตาข่าย ให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน ตีเสมอเป็น 1-1

แต่กระนั้นอีกไม่นาทีต่อมา ลิเวอร์พูล มาได้จุดโทษ หลัง เนลสัน เซเมโด้ ไปเหนี่ยว ดีโอโก้ โชต้า ล้มลงในเขตโทษ และเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ให้ ลิเวอร์พูล ออกนำอีกครั้ง ก่อนที่ช่วงเวลาที่เหลือจะทำอะไรกันเพิ่มเติมไม่ได้ ทำให้จบเกม ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายบุกมาชนะไป 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 15 คะแนนจาก 6 นัด ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของลีกเป็นที่เรียบร้อย โดยมีแต้มนำอันดับ 2 และ 3 อย่าง แมนฯ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล เพียงคะแนนเดียว

ทั้งนี้ หลังจบเกม อาร์เน่อ สลอต พอใจที่ทีมบุกมาเก็บ 3 แต้มในนัดนี้ แต่ก็ยังมีตำหนิลูกทีมที่เสียประตูง่ายเกินไป จากความผิดพลาดของตัวเอง โดยกล่าวว่า "มันเป็นเรื่องดีเสมอที่เก็บชัยชนะได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่เราต้องออกมาเล่นเป็นทีมเยือน"

"ช่วง 15-20 นาทีแรกของเกมเราทำได้ไม่ดีนัก มันเป็นการเริ่มต้นเกมที่ยากเลยสำหรับเรา แต่สุดท้ายเราก็เริ่มคุมเกมได้ ซึ่งนั่นก็ต้องให้เครดิตทาง วูล์ฟแฮมป์ตัน และ แกรี่ โอนีล ด้วย"

"ประตูที่เราเสียไปเป็นสิ่งที่เราสามารถหลีกเลี่ยงได้ มันไม่จำเป็นเลย (ที่เสียประตูแบบนั้น) และมันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่ดีเท่าไหร่ด้วย แต่ยังดีที่เราคุมเกมไว้ได้ และกลับมาชนะในที่สุด"

สำหรับโปรแกรมนัดถัดไปของ ลิเวอร์พูล นั้น พวกเขาจะได้เล่นในบ้านรับการมาเยือนของ โบโลญญ่า ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส นัดที่สอง วันพุธที่ 2 ตุลาคมนี้ ก่อนจะต้องบุกไปเยือน คริสตัล พาเลซ ในเกมพรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคมต่อไป