เรือใบสีฟ้าเยือนเชลซีไม่ง่าย แต่ยังมีลุ้นเบียดชนะมากกว่า

เรือใบสีฟ้าเยือนเชลซีไม่ง่าย แต่ยังมีลุ้นเบียดชนะมากกว่า
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 เชลซี จะเปิดรัง สเตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ แมนฯ ซิตี้ โดยเกมนี้ เชลซี มีสภาพทีมที่ค่อนข้างพร้อม ตัวหลักอยู่กันเกือบครบ แต่ปัญหาคือฟอร์มในช่วงปรีซีซั่นไม่ดีเอาเสียเลย ทำให้ฟอร์มของทีมในเวลานี้อาจจะยังไม่พร้อมสักเท่าไหร่ ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาที่ผ่านไป และน่าจะมีความพร้อมเกือบเต็มร้อยแล้วในการลงเล่นเกมแรกของฤดูกาล

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25
เชลซี พบ แมนฯ ซิตี้
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เวลา : 22.30 น. อาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2567
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602), True 4K (ช่อง 400)

เชลซี
เชลซี ภายใต้การนำของกุนซือคนใหม่ เอ็นโซ่ มาเรสก้า มีผลงานในช่วงปรีซีซั่นไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก หลังคุมทีมชนะได้แค่เกมเดียวเท่านั้นจากทั้งหมด 6 เกม ที่เหลือเป็นการเสมอ 2 และแพ้ไป 3 ซึ่งเกมที่ชนะนั้น เป็นเกมที่ถล่มทีมอย่าง คลับ อเมริกา ของเม็กซิโกไป 3-0 แต่เกมที่แพ้นั้น แพ้ทั้ง เซลติก, แมนฯ ซิตี้ และ เรอัล มาดริด แม้ว่าการอุ่นเครื่องจะเอามาวัดอะไรไม่ได้มาก แต่การที่ผลงานเป็นแบบนี้ก็น่าจะมีผลต่อความมั่นใจของทีมเช่นกัน แถมเกมแรกของซีซั่นก็ต้องเจอกับงานยากอย่าง แมนฯ ซิตี้ ทันทีเลยด้วย

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดของ เชลซี แทบไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บเลย โดยมีเพียงแค่ รีซ เจมส์ รายเดียวเท่านั้นที่ติดโทษแบน ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหา ฟิตพร้อมลงสนามทั้งหมด ในระบบการเล่น 4-3-3 แนวรุกจะใช้งานสามประสานอย่าง โคล พาลเมอร์, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และ มีไคโล มูดริค คอยไล่ล่าประตู ขณะที่แดนกลางจะมี เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, โรเมโอ ลาเวีย และ มอยเซส ไกเซโด้ คอยคุมเกม

แมนฯ ซิตี้
ทีมเรือใบสีฟ้าไม่ได้มีฟอร์มการเล่นในช่วงปรีซีซั่นที่สวยหรูอะไรนัก พวกเขาลงเล่นไป 4 นัด มีสถิติชนะ 1 เสมอ 1 และแพ้ 2 โดยเกมที่ชนะเกิดขึ้นในเกมสุดท้ายของการทัวร์สหรัฐฯ นั่นคือการเอาชนะ เชลซี ไป 4-2 เรียกได้ว่าเป็นการชิมลางก่อนที่จะต้องเจอกันในเกมแรกของพรีเมียร์ลีก ส่วนเกมอย่างเป็นทางการเกมแรกของ แมนฯ ซิตี้ คือศึกคอมมูนิตี้ ชิลด์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ในช่วง 90 นาทีเสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไป 1-1 ก่อนจะเอาชนะได้ในการดวลจุดโทษ 7-6 ทำให้ได้ครองแชมป์รายการนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีหลังสุด

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ ต้องเจอกับข่าวร้ายเมื่อ ออสการ์ บ็อบบ์ กองหน้าดาวรุ่งได้รับบาดเจ็บกระดูกขาแตกในระหว่างการซ้อม ทำให้ต้องประเมินอีกครั้งว่าต้องพักนานแค่ไหน ขณะที่ โรดรี้ ยังมีปัญหาเรื่องความฟิต อาจจะยังลงเล่นเกมนี้ไม่ได้ ส่วน แจ็ค กรีลิช มีอาการเจ็บเล็กน้อย ต้องรอเช็คอีกครั้ง แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา พร้อมลงสนามทั้งหมด ในระบบการเล่น 4-2-3-1 กองหน้าตัวเป้าจะเป็น เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ โดยมีตัวสนับสนุนเกมรุกอย่าง ฟิล โฟเด้น, เควิน เดอ บรอยน์ และ เฌเรมี่ โดกู ขณะที่แดนกลางจะใช้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา คุมเกมร่วมกับ มาเตโอ โควาซิช

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (4-3-3) : ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น : มาโล กุสโต้, อักเซล ดิซาซี่, ลวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า : เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, โรเมโอ ลาเวีย, มอยเซส ไกเซโด้ : โคล พาลเมอร์, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, มีไคโล มูดริค

แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส : ไคล์ วอล์คเกอร์, มานูเอล อาคานจี, เนธาน อาเก้, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล : แบร์นาร์โด้ ซิลวา, มาเตโอ โควาซิช : ฟิล โฟเด้น, เควิน เดอ บรอยน์, เฌเรมี่ โดกู : เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์

ความน่าจะเป็น : เชลซี ได้เล่นในบ้านก็จริง แต่การเจอกับ แมนฯ ซิตี้ นั้นไม่ง่ายแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมือนว่า มาเรสก้า ยังหาทีมที่ดีที่สุดไม่เจอ ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ผู้เล่นค่อนข้างสมบูรณ์กว่า และเกมการเล่นก็มีความเสถียรมากกว่า แม้ว่าปีที่แล้วทีมเรือใบสีฟ้าจะไม่ชนะ เชลซี เลยทั้งไปและกลับ โดยเสมอทั้งสองนัด แต่ปีนี้น่าจะแตกต่างออกไป รูปเกมช่วงแรกอาจจะสูสีกัน แต่ในระยะยาวจะเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่สร้างโอกาสได้มากกว่า และถ้าหากไม่ใช้โอกาสเปลืองกันไปเอง ก็มีลุ้นบุกมาเก็บ 3 แต้มได้เหมือนกัน

สกอร์ที่คาด : เชลซี แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-2

ภาพจาก Getty Images

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial