5 เหตุผลที่ไม่ควรพลาด โมโตจีพี เร้ดบูลล์ ริง

1. ตามหาคนล้มแชมป์

ถ้า เร้ดบูลล์ เรซิ่ง เป็นเจ้าของ “โฮมเรซ” ที่ออสเตรียในศึก ฟอร์มูล่า วัน แล้ว โมโตจีพี ก็เช่นกัน นักขับชาติไหนๆ จึงมักจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นในประเทศที่ถือกำเนิดแบบที่ชาวอิตาเลี่ยนแห่กันมาเชียร์ ฟรานเชสโก้ “เปคโค่” บาญาย่า และทีมดูคาติ ที่ มูเจลโล่ เซอร์กิต 

น่าเสียดายที่ไม่มีนักขับทีมไหนใน โมโตจีพี ถือสัญชาติออสเตรีย แต่ด้วยโลโก้ผู้สนับสนุนหลักเป็นเครื่องดื่มชูกำลังที่มีทีมเป็นของตัวเอง KTM จึงได้รับเสียงเชียร์ล้นหลามอย่างไม่ต้องสงสัย และหากครั้งนี้สามารถเก็บชัยก็จะเป็นปีที่ 3 ที่ทีมเจ้าบ้านคว้าแชมป์ติดต่อกัน หลังจาก แบรด บินเดอร์ ทำได้ในปี 2021 และ มิเกล โอลิเวียร่า ในปี 2020 

2. โมโตจีพี ไม่มีพัก

ความแตกต่างระหว่าง 4 ล้อและ 2 ล้อก็คือ โมโตจีพี ต้องการความละเอียดและเด็ดเดี่ยว ด้วยจำนวนการซ้อม 4 รอบ ทีมงานและนักขับต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร จะเลือกใช้ยางแบบไหน ปรับแต่งรถอย่างไร เช็คสภาพอากาศ สภาพแวดล้อม อุณหภูมิพื้นผิว ไม่มีพัก และไม่มีพลาด

นอกจากนี้ การแข่งขันที่ออสเตรียยังพิเศษอย่างยิ่ง ไม่ใช่แค่บรรดาไรเดอร์ที่จะไม่ได้พัก แต่ผู้ชมก็เช่นกัน เพราะนอกจากสองล้อทั้ง 3 รุ่นที่จะได้ชม ที่นี่ยังมี เร้ดบูลล์ รุกกี้ คัพ การแข่งขันรุ่นจูเนียร์ซึ่งเริ่มต้นเมื่อปี 2007 และเป็นบันไดก้าวขึ้นสู่ฝันไปชิงแชมป์โลก 26 นักบิดจาก 18 ชาติ โดยปีนี้มี ยาค็อบ โรเซนเธเลอร์ ดาวรุ่งจากกออสเตรียเข้าร่วมด้วย 

3. ความเร็วสูงสุดกว่าใครในโลก

ในการแข่งขัน ทุกคนทุกฝ่ายล้วนพยายามเพื่อความเร็วสูงสุด นักบิดต้องฟิตร่างกายเพื่อความอึดอทนและเพื่อบังคับจรวดติดพื้นที่มีความเร็วกว่า 180 กม./ชม. ซึ่งพร้อมจะส่ายไปมาจากลมวูบเดียว ขณะที่วิศวกรก็พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้รถไม่เป็นรองใคร แต่พื้นแทร็คก็มีส่วนเช่นกัน 

ปี 2021 ฆอร์เก้ มาร์ติน สร้างสถิติต่อรอบไว้ที่ 1:22.643 นาที เฉลี่ยความเร็ว 187.300 กม./ชม. ซึ่งเป็นสถิติใหม่ ไม่ใช่แค่ที่สปีลเบิร์ก แต่ทำลายสถิติความเร็วต่อรอบที่เคยทำไว้ที่ออสเตรเลีย ที่นี่จึงกลายเป็นสนามที่เร็วที่สุด 

4. ใกล้ชิดนักบิดคนดังและเทศกาลโมโตไบค์

สำหรับแฟนๆ ที่มีโอกาสเดินทางไปถึงที่นั่น คงพอจำกันได้ในประวัติศนามและพื้นที่บริเวณนั้นว่าเงียบสงบ ออกไปทางสงบจนแทบร้าง แต่เมื่อ เร้ดบูลล์ เข้ามาลงทุนที่ดินตรงนี้ก็กลายเป็นเมืองขนาดเล็กที่มีผู้คน และได้ต้อนรับฝูงชนในบางเวลา ช่วงเทศกาลตลอดสุดสัปดาห์สามารถเรียกสปีลเบิร์กว่า โมโตจีพี ไบค์ ซิตี้ ได้เลย 

เรื่องความเก่าแก่ ที่นี่ยังเป็นรองสตีเรี่ยน ในฮอลแลนด์ แต่ความคึกคักไม่แพ้กัน เพราะนอกจากการแข่งที่จะได้ชมในแทร็ค ยังมีกิจกรรมให้แฟนๆ ร่วมสนุก และมี พิต เลน วอล์ค ที่บรรดานักบิดจะเดินผ่านให้แฟนๆ ได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิด 

5. เรปโซล ฮอนด้า และการอยู่ที่แพ็ดด็อกของ มาร์ค มาร์เกซ 

เอ่ยถึงการแข่งขันประเภทบุคคล ตอนนี้ไม่มีใครเต็งจ๋ามากกว่า ฟาบิโอ กวาร์ตาเรโร่ ที่แม้สนามล่าสุดแผ่วไปเล็กน้อย และหากมองคะแนนก็ไม่ได้หนีห่าง อเล็กซ์ เอสปาร์กาโร่ มากนัก ส่วนประเภททีม เอพริเลีย นำมาเป็นจ่าฝูงตามด้วย ดูคาติ และ ยามาฮ่า 

ขณะที่ เรปโซล ฮอนด้า อยู่ไกลถึงอันดับ 9 มี 102 คะแนน ห่างจากอันดับ 1 มากกว่าเท่าตัว แต่สุดสัปดาห์นี้ มาร์ค มาร์เกซ เจ้าของแชมป์โลก 6 สมัยที่ไปผ่าตัดหัวไหล่ตั้งแต่เดือนพ.ค. จะกลับมายืนอยู่ในอู่ หรือ แพ็ดด็อก อีกครั้ง ถึงจะกลับมาแข่งไม่ได้ แต่เขายืนยันว่าอยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลืออะไรสักอย่าง อย่างน้อยก็อาจเป็นการพัฒนารถที่จะต้องสู้ศึกต่อไปในช่วงเวลาที่เหลือ หรืออาจจะเป็นปีหน้า ส่วนสภาพร่างกายตอนนี้แพทย์จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ยังไม่สามารถกะเกณฑ์ใดๆ อย่างแน่ชัดได้

แต่เชื่อได้เลยว่า สำหรับแฟนๆ ที่รัก โมโตจีพี และ มอเตอร์สปอร์ต ทุกคนมีเหตุผลอีกเป็นร้อยข้อสำหรับสนามที่จะถึงที่ ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ 19-21 ส.ค. นี้ และในฤดูกาลอันเข้มข้นที่เหลืออยู่ ติดตามได้ทางช่อง SPOTV (689)