ปิอัสตรี คว้าแชมป์แรก แม็คลาเรน คว้าชัยคู่รอบ 3 ปี

ออสการ์ ปิอัสตรี คว้าแชมป์ ฟอร์มูล่า วัน ฮังกาเรี่ยน กรังด์ปรีซ์ เมื่อคืน 21 ก.ค. ที่ผ่านมา คว้าแชมป์เมนเรซครั้งแรกในอาชีพนักขับ โดยก่อนหน้านี้เคยเป็นเพียงแชมป์ สปรินท์ เรซ ตามด้วยเพื่อนร่วมทีม ลันโด นอร์ริส ทำให้ แม็คลาเรน คว้าอันดับ 1-2 ติดต่อกันเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี และ ลูอิส แฮมิลตัน ขึ้นโพเดียมครั้งที่ 200 ในอันดับ 3 

สภาพอากาศที่ ฮังการอริงในวันนี้แจ่มใส่กว่าเมื่อวันก่อน แดดแรง ค่อนข้างอบอุ่น เริ่มออกตัวรอบแรก ทั้ง ลันโด นอร์ริส และ ออสการ์ ปิอัสตรี เร่งเครื่องได้เร็วพอๆ กัน ส่วน แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน เบียดขวาเข้ามาหา นอร์ริส ก่อนจะหลับซ้ายออกไปนอกแทร็ค และกลับเข้ามาด้วยอันดับ 2 ทำให้ทั้งวิศวกรประจำตัวและนักขับวิทยุสื่อสารกันว่าควรทำอย่างไร หรือจะมีบทลงโทษอะไร ในที่สุด เวอร์สเตปเปน จึงคืนอันดับให้ นอร์ริส ขึ้นมาที่ 2 และกลับลงไปในอันดับ 3

ปิอัสตรี ขึ้นเป็นผู้นำ โดยรถกลุ่มนำใช้ยางแบบมีเดียมคอมพาว์ และเมื่อผ่าน 20 รอบรถหัวแถวเริ่มเข้าพิต กลับออกมาด้วยยางฮาร์ดคอมพาวด์ โดยเมื่อผ่านไปประมาณ 1 ใน 3 ของ 70 รอบสนาม ยังเป็น แม็คลาเรน นำหน้าทั้งสองคัน ตามด้วย ลูอิส แฮมิลตัน และ เวอร์สเตปเปน และ 2 คันถัดมาคือ เฟอร์รารี่ ส่วน เซอร์จิโอ เปเรซ ที่ออกสตาร์ทจากอันดับ 16 ไต่มาที่อันดับ 9 แล้ว แต่เมื่อเข้าพิตในรอบที่ 29 ก็กลับออกมากับอันดับ 15

ผ่านครึ่งทาง เวอร์สเตปเปน พยายามแซงขึ้นมาในอันดับ 3 หลังจาก แฮมิลตัน เบรกพลาด แต่เนื่องจากเร่งเครื่องมาทางขวาแล้วมีโค้งขวาตาม ทำให้รถไถลไปเล็กน้อย กลับมาตามหลังประมาณ 1 วินาทีเหมือนรอบก่อนหน้า ในที่สุด เพราะยางเริ่มหมดทำให้ แฮมิลตัน เข้าพิต พร้อมกับ ชาร์ลส์ เลอแกลร์ที่ตามมาข้างหลัง ปล่อยให้นักขับดัตช์ขึ้นอันดับ 3 ไปก่อนในรอบที่ 42

ผู้นำเป็น ลันโด นอร์ริส ในรอบที่ 49 จากนั้นทีม แม็คลาเรน มีคำสั่งว่า เมื่อถึงช่วงหนึ่งอาจต้องคืนตำแหน่งให้ ปิอัสตรี และพยายามกำชับอยู่ตลอดว่าให้ลดความเร็วช่วงเข้าโค้ง แต่ นอร์ริส พยายามโต้เถียงจนเหลืออีก 5 รอบสุดท้าย ถึงอย่างนั้นก็ยังนำหน้าเพื่อนร่วมทีม 6 วินาที 

เข้าสู่ 15 รอบสุดท้าย เวอร์สเตปเปน ในอันดับ 5 พยายามแซง เลอแกลร์ และทำสำเร็จในอีก 2 รอบถัดมา ขึ้นมาอันดับ 4 ยังตามหลัง แฮมิลตัน 2 วินาที และเมื่อเหลืออยู่ 8 รอบ รถของ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ก็เริ่มไล่กดดัน จากนั้นรอบถัดมา เวอร์สเตปเปน กำลังจะได้เปรียบ แต่เบรกลึกเกินไป แฮมิลตันที่กำลังหักเลี้ยวสะกิดล้อหลังทางซ้ายจนรถหมายเลข 1 กระดก และเสียตำแหน่งร่วงลงไปอันดับ 5 อีกครั้ง ตามหลัง เลอแกลร์ และไม่ได้โพเดียมที่สนามนี้ 

เหลืออีก 3 รอบสุดท้าย หลังจากการโต้เถียงทางวิทยุอยู่นาน ในที่สุด นอร์ริส ยอมลดความเร็วและปล่อยให้ ปิอัสตรี แซงหน้า โดย ปิอัสตรีได้โหวตนักขับยอดเยี่ยมประจำวันนี้ด้วย 

สนามถัดไป ฟอร์มูล่า วัน เบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ ที่ สปา ฟรังโกชองส์ วันที่ 26-28 ก.ค. นี้ ถ่ายทอดสดทางช่อง บีอินสปอร์ตส์1 (607)