มอนเตลล่าภูมิใจผลงานตุรกี แม้ผิดหวังที่ต้องตกรอบ 8 ทีม

ตุรกี เป็นอีกทีมที่ทำผลงานได้ค่อนข้างดีในศึกยูโร 2024 โดยพวกเขาผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์มาในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่มเอฟ เก็บได้ 6 คะแนนเท่ากันกับแชมป์กลุ่มอย่าง โปรตุเกส แต่เฮดทูเฮดเป็นรอง จากนั้นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย พวกเขาก็จัดการเฉือนชนะ ออสเตรีย ทีมที่ถูกยกย่องให้เป็นม้ามืดของทัวร์นาเมนท์ 2-1 และผ่านเข้ามาถึงรอบก่อนรองชนะเลิศพบกับ เนเธอร์แลนด์ ในที่สุด

ซึ่งเกมที่สนามโอลิมเปียชตาดิโอน ที่กรุงเบอร์ลิน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตุรกี ก็ต่อสู้ได้ดี และยังเป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อนด้วย จากจังหวะที่ อาร์ด้า กือแลร์ เปิดบอลให้ ซาเม็ต อาคายดิน กองหลังเติมขึ้นมาโหม่งตุงตาข่ายในนาทีที่ 35 และยันสกอร์นี้เอาไว้ได้จนจบครึ่งแรก

อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลังมาโดน เนเธอร์แลนด์ พลิกสถานการณ์ทำ 2 ประตูในระยะเวลา 6 นาที จากประตูตีเสมอของ สเตฟาน เดอ ฟราย ในนาทีที่ 70 และการทำเข้าประตูตัวเองของ แมร์ต มุลเดอร์ แบ็กขวาของทีมในนาทีที่ 76 ทำให้ครบ 90 นาที ตุรกี เป็นฝ่ายพ่ายไป 2-1 หยุดเส้นทางในศึกยูโรครั้งนี้ไว้เพียงแค่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเท่านั้น

ทั้งนี้ หลังจบเกม มอนเตลล่า ที่เข้ามารับหน้าที่เป็นเฮดโค้ชของ ตุรกี ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2023 ยืนยันว่าเขายังภูมิใจกับผลงานของลูกทีมทุกคน แม้ว่าจะผิดหวังที่ต้องเป็นฝ่ายตกรอบไปก็ตาม โดยกล่าวว่า "พวกเราแสดงให้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่มี เรามีเกมที่ดีในช่วงเวลา 90 นาที เราแสดงให้เห็นว่าไม่ได้เป็นรอง เนเธอร์แลนด์ ในหลายๆ มิติ ทุกๆ คนต่างแสดงความยินดีกับพวกเรา"

"ตุรกี ทีมนี้มีนักเตะหนุ่มหลายคน พวกเขาลงเล่นด้วยสปิริตที่ยอดเยี่ยม ผมรู้สึกภูมิใจกับลูกทีมของผม นักเตะเหล่านี้สมควรได้ความรักหลังจากจบรทัวร์นาเมนท์นี้ไป ตุรกี จะถูกมองด้วยความเคารพมากขึ้นกว่าเดิม เป้าหมายของเราต่อจากนี้คือศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ซึ่งจะออกสตาร์ทในเดือนกันยายนนี้ จากนั้นก็จะยังมีศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกรอเราอยู่"

"แน่นอนว่าพวกเรารู้สึกผิดหวังกับผลการแข่งขัน พวกเราสมควรได้อะไรที่มากกว่านี้ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเราลงเล่นในทัวร์นาเมนท์นี้ 5 เกมและเอาชนะได้ถึง 3 นัด แถมยังเป็นการชนะใน 90 ทั้งหมด มันเป็นผลงานที่น่าพอใจ"