F1 FLASHBACK BRITISH GRANDPRIX นักขับสัญชาติอังกฤษในความทรงจำที่ บริติช กรังด์ปรีซ์

F1 FLASHBACK  BRITISH GRANDPRIX นักขับสัญชาติอังกฤษในความทรงจำที่ บริติช กรังด์ปรีซ์
“บริติช กรังด์ปรีซ์” มีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะสำหรับนักขับสัญชาติอังกฤษ ผู้มุ่งหวังว่า อยากคว้าแชมป์ต่อหน้ากองเชียร์ในบ้านเกิด แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำได้และได้มากกว่า 1 สมัย




บริติช กรังด์ปรีซ์ หนึ่งในการแข่งขันอันเก่าแก่ อยู่คู่กับวงการมายาวนานตั้งแต่ปี 1926 ส่วนที่ ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต เริ่มต้นในปี 1948 เมื่อมีสนามแข่งอย่างเป็นกิจลักษณะ นักขับในเครือจักรภพก็ถือกำเนิดขึ้น คนแล้วคนเล่า และมีนักขับมากมายถึง 11 ชีวิตที่เกิดในสหราชอาณาจักรผงาดคว้าแชมป์ท่ามกลางเสียงเชียร์ของแฟนๆ สัญชาติเดียวกัน และยังอยู่ในความทรงจำ

อย่างไรก็ดี ในรายชื่อนี้ไม่มี เจนสัน บัตตัน แชมป์โลก 1 สมัย แม้นับเป็นหนึ่งในนักขับที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง แต่ บัตตัน ไม่เคยคว้าแชมป์ในบ้านเกิดได้เลย กระทั่งขึ้นโพเดียม ก็ไม่ได้ 

เซอร์ สเตอร์ลิ่ง มอสส์ 
บริติช กรังด์ปรีซ์ 1955

มอสส์ เป็นนักขับชาวอังกฤษคนแรกที่คว้าแชมป์ บริติช กรังด์ปรีซ์ ในบ้านเกิด และคว้าแชมป์แรกในอาชีพที่ ซิลเวอร์สโตน ปี 1955 ครั้งนั้นนอกจากชนะต่อหน้าสาวก ยังเอาชนะ ฮวน มานูเอล ฟานโจ้ เพื่อนร่วมทีมที่เป็นตำนานนักขับชาวอาร์เจนไตน์ด้วย โดยมีเสียงร่ำลือว่า ครั้งนั้น ฟานโจ้ ยอมให้ มอสส์ เข้าเส้นชัยในฐานะผู้นำ แต่ ฟานโจ้ ปฏิเสธชัดเจนว่า “วันนั้นเขาขับได้ดีกว่าผม” หลังย้ายค่ายออกจาก เมอร์ซิเดส มอสส์ ยังคว้าแชมป์กับ แวนเวลล์ ทีมผู้สร้างสัญชาติอังกฤษได้ด้วย 

จิม คล้าร์ก 
บริติช กรังด์ปรีซ์ 1963 1965 1967

คล้าร์ก ไม่ได้เป็นแค่นักขับชาวบริต แต่เป็นหนึ่งในนักขับที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล ของวงการ ฟอร์มูล่า วัน เป็นแชมป์โลกสองสมัย และเป็นแชมป์ 77 สนามในฤดูกาลที่มีเพียง 10 เรซ เมื่อปี 1963 หนึ่งในนั้นอยู่ที่ ซิลเวอร์สโตน และอีกครั้งในปี 1965 ที่ได้ทั้งแชมป์โลกและแชมป์ที่อังกฤษ 

ปี 1967 คล้าร์ก ยังคว้าแชมป์ในบ้านเกิดได้ ก่อนจะจบฤดูกาลด้วยอันดับ 3 แต่ไม่นานต่อจากนั้น หลังจากคว้าแชมป์สนามแรกของซีซั่น 1968 ช่องว่างระหว่างการแข่งขันที่ยาวนาน 4 เดือน ทำให้ คล้าร์ก เลือกไปขับรถ F2 ที่ฮ็อคเค่นไฮม์ริง และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ คอหักและศีรษะกะโหลกร้าว ด้วยวัยเพียง 32 ปี 

เซอร์ แจ็คกี้ สจ๊วร์ต 
บริติช กรังด์ปรีซ์ 1969 1971

เซอร์ สจ๊วร์ต เป็นอีกหนึ่งนักขับที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยตำแหน่งแชมป์โลก 3 สมัย และเป็นไอค่อนของวงการในปลายทศวรรษ 60 ถึงต้นทศวรรษ 70 และเคยคว้าแชมป์ที่ ซิลเวอร์สโตน 2 ครั้ง โดยในปี 1971 ที่อยู่กับทีมทายเรลล์ เป็นแชมป์ 6 จาก 11 สนาม และในสนามที่คว้าแชมป์ จะน็อครอบอันดับ 2 ทุกครั้ง 

ปี 1973 ขณะที่ฤดูกาลกำลังจะเริ่ม สจ๊วร์ต ประกาศว่าจะอำลาอาชีพนักขับ เพราะรู้สึกว่าตัวเองเสี่ยงอันตรายในสนามด้วยความเร็วสูงเสมอ และคิดถึงครอบครัว ภรรยา ลูกสองคน และทิ้งท้ายอาชีพด้วยการคว้าแชมป์โลก นอกจากนี้ เขายังเป็นหนึ่งในนักขับที่ไม่เคยปล่อยวางเรื่องความปลอดภัย เรียกร้องให้วงการมอเตอร์สปอร์ตดูแลด้านความปลอดภัยสูงสุดเพื่อนักขับอยู่เสมอ

ไนเจล แมนเซลล์
บริติช กรังด์ปรีซ์ 1987 1991 1992

แมนเซลล์ นับเป็นหนึ่งในนักขับผู้ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งยุคสมัย ท่ามกลางความสนใจของสื่อและแฟนๆ ที่จับจ้องความเป็นอริระหว่าง อายร์ตัน เซนน่า และ อแล็ง พรอสต์ โดยใน 5 ปีแรกของอาชีพ แมนเซลล์ ไม่มีผลงานโดดเด่นมากนัก จนกระทั่งเข้าสู่ทีม วิลเลี่ยมส์ ในปี 1985 และคว้าแชมป์แรกในอาชีพ 

ที่ ซิลเวอร์สโตน แชมป์ต่อหน้าแฟนๆ ในบ้านเกิดมาถึงเมื่อปี 1987 ส่วนในปี 1992 ฤดูกาลนั้นเขาเริ่มต้นอย่างยอดเยี่ยม คว้าแชมป์ 5 สนามแรก ซึ่งไม่เคยมีใครทำได้ (มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ทาบสถิติในปี 2004) ก่อนจะอำลาอาชีพไปในปี 1995

เดวิด คูลธาร์ด
บริติช กรังด์ปรีซ์ 1999 2000

คูลธาร์ด มากับความกดดันในปี 1994 เพราะเข้ามานั่งเก้าอี้นักขับของ อายร์ตัน เซนน่า ที่จากไปอย่างกะทันหัน ความพยายามหลายปีที่จะคว้าแชมป์ในบ้านเกิดมาสำเร็จในปี 1999 และทำสถิติคว้าแชมป์อย่างน้อย 1 สนามทุกปีตลอดปี 1997-2003 แต่ก็ไม่สามารถมีตำแหน่งแชมป์โลกติดมือ เพราะในตอนปลายอาชีพโดน มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ที่มาทีหลังแต่แรงกว่า

เซอร์ ลูอิส แฮมิลตัน 
บริติช กรังด์ปรีซ์ 2008 2014 2015 2015 2017 2019 2020 2021

ยุคสมัยเปลี่ยนไปกับการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น แต่ แฮมิลตัน นับเป็นหนึ่งในนักขับที่มีฝีมือพัฒนาต่อเนื่องและคงเส้นคงวา กับรถที่ยอดเยี่ยม ทุกอย่างลงตัวไปหมดกับการคว้าแชมป์ในบ้านเกิดครั้งแรกเมื่อปี 2008 และเป็นแชมป์โลกครั้งแรกกับ แม็คลาเรน ในปีนั้น ที่ผ่านมาทั้ง แมนเซลล์ และ คูลธาร์ด สามารถคว้าแชมป์ บริติช กรัรงด์ปรีซ์ 2 สมัยติดต่อกัน แต่ แฮมิลตันเป็นคนแรกที่คว้าแชมป์ 3 สมัยซ้อน 

ไม่เพียงเท่านั้น แฮมิลตัน ยังเป็นเจ้าของสถิติแชมป์ชาวอังกฤษใน บริติช กรังด์ปรีซ์ มากสมัยที่สุด 8 สมัย และยังมีโอกาสกับสมัยที่ 9 หลังจาก เมอร์ซิเดส เพิ่งอัพเกรดรถจนคว้าอันดับ 4 จาก ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ หรือหากในปีนี้ยังไม่ได้สมัยที่ 9 ปีถัดไปก็ยังมีโอกาสกับ เฟอร์รารี่  

ฟอร์มูล่า วัน บริติช กรังด์ปรีซ์ ที่ ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต วันที่ 5-7 ก.ค. นี้ ถ่ายทอดสดทางช่อง บีอินสปอร์ตส์1 (607)  

getty

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial