ฝรั่งเศสเจอเบลเยียมสุดสูสี อาจต้องวัดกันที่ความเฉียบคม

ฝรั่งเศสเจอเบลเยียมสุดสูสี อาจต้องวัดกันที่ความเฉียบคม
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2024" ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ฝรั่งเศส จะเล่นที่สนาม แมร์คูร์ ชปีล-อารีน่า ที่เมืองดุสเซลดอร์ฟ พบกับ เบลเยียม โดยเกมนี้ ฝรั่งเศส ถือว่ามีนักเตะให้เลือกใช้งานฟูลทีม หลัง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กลับมาจากอาการบาดเจ็บที่จมูกแล้ว น่าจะทำให้เกมรุกกลับมาอยู่ในจุดที่ดีอีกครั้ง ขณะที่ เบลเยียม ฟอร์มในช่วงที่ผ่านมาถือว่าไม่น่าพอใจนัก ปัญหาหลักๆ คือเกมรุกที่ไม่เฉียบคม และเกมนี้ถ้าพวกเขาไม่ยกระดับการเล่นขึ้นมา ก็มีโอกาสที่จะไม่ได้ไปต่อ

พรีวิวฟุตบอลยูโร 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ฝรั่งเศส พบ เบลเยียม
สนาม : แมร์คูร์ ชปีล-อารีน่า, ดุสเซลดอร์ฟ
เวลา : 23.00 น. จันทร์ที่ 1 กรกฎาคม 2567
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 3 (ช่อง 603)

ฝรั่งเศส
ทีมตราไก่ผ่านเข้ามาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะรองแชมป์กลุ่มดี ซึ่งถือว่าค่อนข้างพลิกความคาดหมาย เพราะ ฝรั่งเศส ถูกมองว่าเป็นเต็งแชมป์กลุ่มมาตลอด แต่กลับทำผลงานได้เพียงแค่ชนะ 1 เสมอ 2 ใน 3 เกมของรอบแบ่งกลุ่ม เก็บได้แค่ 5 คะแนน และยิงได้เพียง 2 ประตู กลายเป็น ออสเตรีย ที่กระโดดมาคว้าแชมป์กลุ่มไปครองแทน นั่นทำให้ ฝรั่งเศส ต้องเข้ามาเจอกับ เบลเยียม ในรอบน็อคเอาท์ ทั้งๆ ที่ถ้าหากคว้าแชมป์กลุ่มได้ คู่ต่อสู้ของพวกเขาในรอบนี้จะเป็น ตุรกี ซึ่งอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ ฝรั่้งเศส ภายใต้การนำของ ดีดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ เล่นเกมรุกได้ไม่ดีพอนั้น อาการบาดเจ็บที่จมูกของ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ก็น่าจะเป็นส่วนสำคัญด้วยเช่นกัน

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ฝรั่งเศส ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหรือว่าติดโทษแบนเลย โดยในส่วนของ เอ็มบั๊ปเป้ นั้นกลับมาลงเล่นได้ตามปกติแล้ว และมีการสวมหน้ากากป้องกันที่ใบหน้าเอาไว้ ทำให้เกมนี้ ฝรั่งเศส จะมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 ตามเดิม แนวรุกจะใช้ เอ็มบั๊ปเป้ ขยับไปยืนเป็นหน้าเป้า และมีตัวสนับสนุนอย่าง อุสมาน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์ และ อาเดรียง ราบิโอต์ ที่ถูกดันขึ้นมาเล่นเกมรุก ขณะที่แดนกลางก็จะมี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ คุมเกมร่วมกับ โอเรเลียง ชูอาเมนี่
 
เบลเยียม
ทีมปีศาจแดงแห่งยุโรป มีผลงานในรอบแบ่งกลุ่มไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก ทั้งๆ ที่อยู่ในกลุ่มที่ไม่ได้แข็งเท่าไหร่อย่างกลุ่มอี ซึ่งประกอบไปด้วยทีมอย่าง โรมาเนีย, สโลวะเกีย และ ยูเครน แต่กลายเป็นว่าทั้ง 4 ทีมอยู่ในสภาพงูกินหาง มีสถิติชนะ 1 เสมอ 1 และแพ้ 1 เหมือนกันหมด เก็บได้ 4 คะแนนเท่านั้น แต่เมื่อวัดผลต่างประตูได้เสียออกมาแล้ว กลายเป็น โรมาเนีย ที่คว้าแชมป์กลุ่มไปครองด้วยจำนวนประตูได้ที่เหนือกว่า และทำให้ เบลเยียม ได้เพียงอันดับ 2 เท่านั้น นั่นทำให้ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย พวกเขาต้องมาเจอกับของแข็งอย่าง ฝรั่งเศส และเมื่อดูจากฟอร์มที่ผ่านๆ มาแล้ว ถือว่าค่อนข้างน่าเป็นห่วงว่า เบลเยียม จะหยุดเส้นทางของตัวเองเอาไว้เพียงแค่รอบนี้หรือไม่

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เบลเยียม ต้องรอเช็คความฟิตของนักเตะอย่าง อักเซล วิทเซล และ โตมาส์ เมอนิเย่ร์ เนื่องจากมีอาการเจ็บเล็กน้อย ซึ่งคาดว่าจะไม่ได้ลงเล่นทั้งคู่ แต่นอกนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ เบลเยียม จะมาในระบบการเล่น 3-4-2-1 แนวรุกจะใช้ โรเมลู ลูกากู ยืนเป็นหน้าเป้าเหมือนเดิม โดยมี โดดี้ ลูเกบากิโอ, เควิน เดอ บรอยน์ และ เฌเรมี่ โดกู คอยสร้างสรรค์เกม ขณะที่แดนกลางจะมี ยูริ ตีเลอมันส์ และ อามาดู โอนาน่า คอยคุมเกม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฝรั่งเศส (4-2-3-1) : ไมค์ เมญอง : ชูลส์ กุนเด้, วิลเลียม ซาลิบา, ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ แอร์กน็องเดซ : เอ็นโกโล่ ก็องเต้, โอเรเลียง ชูอาเมนี่ : อุสมาน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, อาเดรียง ราบิโอต์ : คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

เบลเยียม (4-2-3-1) : คูน คาสเทลส์ : ทิโมธี กัสตาญ, เวาท์ ฟาส, ยาน แฟร์ตองเก้น, อาร์กตูร์ เตอ๊าต : ยูริ ตีเลอมันส์, อามาดู โอนาน่า : โดดี้ ลูเกบากิโอ, เควิน เดอ บรอยน์, เฌเรมี่ โดกู : โรเมลู ลูกากู

ความน่าจะเป็น : เป็นเกมที่น่าจะสูสีกันอย่างแน่นอน แม้ว่า ฝรั่งเศส จะดูเป็นทีมที่ดีกว่า แต่ เบลเยียม ก็มีนักเตะดีๆ และไม่เป็นรองขนาดนั้น และทั้งสองทีมก็น่าจะรู้ทางกันดี แถมยังมีสไตล์การเล่นที่คล้ายกัน ทำให้เกมนี้อาจจะต้องวัดกันที่ความเฉียบคม ซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องนี้แล้วทางด้าน ฝรั่งเศส ยังดูมีความอันตรายมากกว่า ทำให้เชื่อว่าวัดกันไปทีต่อที จะเป็น ฝรั่งเศส ที่มีเกมรุกที่น่ากลัวกว่า เป็นฝ่ายเบียดเอาชนะไปได้ในที่สุด

สกอร์ที่คาด : ฝรั่งเศส ชนะ เบลเยียม 2-1

ภาพจาก Getty Images

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial