อิตาลีเจอสวิตเซอร์แลนด์ไม่ง่าย ต้องเล่นดีจริงหากอยากผ่านเข้ารอบ

พรีวิวฟุตบอลยูโร 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
สวิตเซอร์แลนด์ พบ อิตาลี
สนาม : โอลิมเปียชตาดิโอน, เบอร์ลิน
เวลา : 23.00 น. เสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2567
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 3 (ช่อง 603)

สวิตเซอร์แลนด์
สวิตเซอร์แลนด์ ผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มเอ มีสถิติชนะ 1 เสมอ 2 เก็บไป 5 คะแนน ผลงานที่โดดเด่นคือการเอาชนะ ฮังการี ได้ 3-1 และการเจอกับเจ้าภาพ เยอรมนี ในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มก็สามารถแบ่งแต้มกับทีมอินทรีเหล็กมาได้ที่สกอร์ 1-1 โดยเป็นเกมที่พวกเขาเกือบจะเอาชนะได้เลยด้วยซ้ำ แต่มาโดน เยอรมนี ตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เรียกได้ว่าเป็นอีกทีมที่อาจจะไม่ได้ดูหวือหวา แต่มีฟอร์มการเล่นที่ไม่ธรรมดา และการมาเจอกับ อิตาลี ในรอบนี้ อาจจะเป็นเรื่องดีสำหรับ สวิตเซอร์แลนด์ ก็ได้ เพราะ อิตาลี ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดที่พวกเขาเคยเป็น

ในส่วนของสภาพทีมนั้น สวิตเซอร์แลนด์ ยังคงไม่มีผู้เล่นอย่าง เดนิส ซากาเรีย และ สตีเว่น ซูเบอร์ เหมือนเดิม ที่ยังไม่หายเจ็บ รวมถึง ซิลวาน วิดเมอร์ ที่ติดโทษแบน แต่ก็ยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไรเพราะตัวอื่นๆ ยังอยู่กันครบ ทำให้เกมนี้พวกเขาจะมาในระบบ 3-4-2-1 เหมือนเดิม แนวรุกจะใช้ ควัดโว่ ดูอาห์ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง รูเบน วาร์กาส และ แดน เอ็นดอย ส่วนแดนกลางยังมีตัวเก๋าอย่าง เรโม่ ฟรอยเลอร์ และ กรานิต ชาค่า คอยคุมเกมเหมือนเดิม
 
อิตาลี
ทีมอัซซูรี่ แชมป์เก่าเมื่อครั้งที่แล้ว มีผลงานในยูโรคราวนี้ไม่ได้น่าประทับใจเท่าไหร่นัก หลังชนะ 1 เสมอ 1 และแพ้ 1 เก็บได้ 4 คะแนน ในรอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมา แต่ยังดีพอที่จะจบอันดับที่ 2 ของกลุ่มบี เนื่องจากกลุ่มนี้ สเปน ที่เป็นแชมป์กลุ่มเป็นทีมเดียวที่จะได้ 3 เกมรวด ส่วน โครเอเชีย ก็ฟอร์มตก ไม่ชนะใครเลยและเก็บได้เพียง 2 คะแนนเท่านั้น รวมถึง แอลเบเนีย ที่ก็ถูกมองว่าน่าจะเป็นบ๊วยของกลุ่มอยู่แล้ว ทำให้ อิตาลี ได้ผ่านเข้ามาถึงในรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ซึ่งเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มก็เกือบจะแพ้ โครเอเชีย เหมือนกัน หลังโดนนำในช่วงต้นครึ่งหลัง แต่มาตามตีเสมอจนได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 8 เรียกได้ว่าเอาตัวรอดมาได้แบบหวุดหวิด

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น อิตาลี ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเลยแม้แต่รายเดียว แต่มีปัญหาตรงที่ ริคคาร์โด้ กาลาฟิออรี่ โดนแบนในเกมนี้ ทำให้อาจจะมีการปรับทีมเล็กน้อยในระบบการเล่น 4-3-3 แนวรุกจะใช้ 3 กองหน้าอย่าง เฟเดริโก้ เคียซ่า, จานลูก้า สคามัคก้า และ มัตเตีย ซัคคานยี่ คอยไล่ล่าประตู ขณะที่ ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่, จอร์จินโญ่ และ นิโกโล่ บาเรลล่า จะคอยคุมเกมในแดนกลาง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สวิตเซอร์แลนด์ (3-4-2-1) : ยานน์ ซอมเมอร์ : ฟาเบียน แชร์, มานูเอล อาคานจี, ริคาร์โด้ โรดริเกซ : เลโอนิดาส สเตอร์จู, เรโม่ ฟรอยเลอร์, กรานิต ชาค่า, มิเชล แอบิสเชอร์ : รูเบน วาร์กาส, แดน เอ็นดอย : ควัดโว่ ดูอาห์

อิตาลี (4-3-3) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า : โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, จานลูก้า มันชินี่, อเลสซานโดร บาสโตนี่, เฟเดริโก้ ดิมาร์โก : ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่, จอร์จินโญ่, นิโกโล่ บาเรลล่า : เฟเดริโก้ เคียซ่า, จานลูก้า สคามัคก้า, มัตเตีย ซัคคานยี่

ความน่าจะเป็น : ถ้าว่ากันตามชื่อชั้น อิตาลี ย่อมเหนือกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าดูจะฟอร์มในปัจจุบัน สวิตเซอร์แลนด์ ไม่เป็นรองอย่างแน่อน นอกจากนี้ถ้าย้อนไปดูสถิติการเจอกันที่ผ่านๆ มา อิตาลี อาจจะเอาชนะได้มากกว่าก็จริง แต่ส่วนใหญ่แล้วหนักไปทางเสมอ สองครั้งหลังสุดที่เจอกันก็เสมอทั้งหมด ดังนั้นเกมนี้เชื่อว่ารูปเกมที่ออกมาน่าจะสูสีกัน อยู่ที่ว่าใครจะฉกฉวยโอกาสได้มากกว่า โอกาสจบด้วยการเสมอกันใน 90 นาทีมีสูง และน่าจะต้องไปตัดสินกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ

สกอร์ที่คาด : สวิตเซอร์แลนด์ เสมอ อิตาลี 1-1