สเปนปะทะอิตาลีสุดสูสี มีโอกาสสูงที่จะกอดคอเสมอกันไป

พรีวิวฟุตบอลยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่มนัดที่สอง กลุ่มบี
สเปน พบ อิตาลี
สนาม : อารีน่า เอาฟ์ชาลเก้, เกลเซ่นเคียร์เช่น
เวลา : 02.00 น. ศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2567
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 3 (ช่อง 603)

สเปน
ทีมกระทิงดุมีผลงานที่ยอดเยี่ยมมากๆ หลังออกสตาร์ทด้วยการถล่ม โครเอเชีย ไปอย่างขาดลอย 3-0 ในเกมแรก ทำให้โอกาสในการจะเข้ารอบต่อไปนั้นมีสูงมากๆ และเกมนี้ที่ต้องเจอกับ อิตาลี นั้น สเปน ไม่มีความจำเป็นต้องบุกหนักเพื่อเปิดหน้าแลก ขอแค่ประคองตัวไม่แพ้ไว้ก่อนก็น่าจะทำให้ได้เปรียบมากๆ แล้ว เพราะพวกเขายังเหลือเกมนัดสุดท้ายที่เจอกับ แอลเบเนีย อีก 1 นัด ซึ่งถือว่าเป็นคู่แข่งที่อ่อนที่สุดในกลุ่ม ดังนั้นพูดง่ายๆ ว่า ขอแค่ไม่แพ้ในเกมนี้ โอกาสที่ สเปน จะเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มจะมีสูงมากๆ เลยทีเดียว นอกจากนี้ ถ้าหากว่าย้อนไปดูสถิติการเจอกันในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา สเปน เป็นทีมที่มีผลงานดีกว่า อิตาลี อย่างชัดเจน หลังเจอกันมา 8 ครั้งหลังสุด สเปนชนะไป 4 เสมอ 3 และแพ้แค่ครั้งเดียว ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ศึกยูโร 2016

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น สเปน รอเช็คความฟิตของ อัลบาโร่ โมราต้า แค่รายเดียวเท่านั้น หลังเจ็บมาจากเกมแรก แต่คาดว่าไม่น่ามีปัญหา น่าจะฟิตทันลงเล่นได้ ทำให้เกมนี้ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ พร้อมส่งทีมที่ดีที่สุดลงสนาม ในระบบการเล่น 4-3-3 โดยแนวรุกจะยังใช้ 3 ประสานอย่าง ลามีน ยามาล, อัลบาโร่ โมราต้า และ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ เหมือนเดิม ขณะที่แดนกลางจะมี เปดรี้, โรดรี้ และ ฟาเบียน รุยซ์ คอยคุมจังหวะเกม
 
อิตาลี
ทีมอัซซูรี่เกือบออกสตาร์ทแบบน่าผิดหวัง หลังโดน แอลเบเนีย ยิงนำไปก่อนตั้งแต่ 22 วินาทีแรกของเกม แต่สุดท้ายใช้เวลาไม่นานกลับมายิงแซงนำ 2-1 และรักษาสกอร์เอาไว้จนจบเกม ทำให้ อิตาลี มีอยู่ 3 คะแนนจากเกมแรก และเกมนี้พวกเขาต้องเจอกับงานหนักอย่าง สเปน ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในเกมที่ถล่ม โครเอเชีย ดังนั้นเป้าหมายในเกมนี้ของ อิตาลี น่าจะเป็นการขอมีแต้มเอาไว้ก่อน ถ้าทำได้ เกมนัดสุดท้ายที่พวกเขาจะเจอกับ โครเอเชีย จะกลายเป็นเกมที่เล่นได้ง่ายมากขึ้นในทันที และจากเหตุผลดังกล่าวทำให้มีโอกาสสูงที่เกมนี้เราอาจจะได้เห็นการเล่นแบบรัดกุมสุดๆ จาก อิตาลี ยิ่งกว่าเกมแรกเสียอีก

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น อิตาลี ต้องรอเช็คความฟิตของ เฟเดริโก้ เคียซ่า กองหน้าตัวเก่งที่มีอาการเจ็บเล็กน้อย แต่คาดว่าไม่น่ามีปัญหา ทำให้เกมนี้พวกเขาจะมาในระบบ 4-2-3-1 แนวรุกจะใช้ จานลูก้า สคามัคก้า ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี เฟเดริโก้ เคียซ่า, ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่ และ ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่ เป็นตัวสร้างสรรค์เกม ขณะที่ นิโกโล่ บาเรลล่า และ จอร์จินโญ่ จะคอยคุมเกมในแดนกลาง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สเปน (4-3-3) : อูไน ซิม่อน : ดานี่ การ์บาฆาล, โรแบ็ง เลอ นอร์กม็องด์, นาโช่ เฟร์นานเดซ, มาร์ก กูกูเรย่า : เปดรี้, โรดรี้, ฟาเบียน รุยซ์ : ลามีน ยามาล, อัลบาโร่ โมราต้า, นิโก้ วิลเลี่ยมส์

อิตาลี (3-4-1-2) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า : โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, อเลสซานโดร บาสโตนี่, ริคคาร์โด้ กาลาฟิโอรี่, เฟเดริโก้ ดิมาร์โก : จอร์จินโญ่, นิโกโล่ บาเรลล่า : เฟเดริโก้ เคียซ่า, ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่, ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่ : จานลูก้า สคามัคก้า

ความน่าจะเป็น : เป็นการเจอกันของสองทีมที่ต่างชนะมาได้ในเกมแรกทั้งคู่ ทำให้เกมนี้ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ทั้งสองทีมต้องเปิดหน้าแลกเข้าใส่กัน สเปน ในยุคใหม่เล่นฟุตบอลที่ไม่ได้เน้นการครองบอลมากเหมือนแต่ก่อน ขณะที่ อิตาลี ก็เล่นในสไตล์ปลอดภัยไว้ก่อนอยู่แล้ว ยิ่ง โครเอเชีย ทำได้แค่เสมอกับ แอลเบเนีย ไปก่อน ยิ่งทำให้เกมนี้ทั้งสองทีมต่างไม่ต้องการแพ้ นั่นทำให้ดูแล้วน่าจะเป็นเกมที่ออกมาแบบสูสี และเน้นรัดกุมเป็นหลัก ถ้ายิงไม่ได้ก็ต้องไม่เสีย ดังนั้นมีโอกาสสูงมากที่อาจจะจบลงแบบเสมอกัน

สกอร์ที่คาด : สเปน เสมอ อิตาลี 1-1