ชุดขาวยังเหนือกว่าเสือเหลือง ลุ้นเป็นเจ้ายุโรปสมัยที่ 15

ชุดขาวยังเหนือกว่าเสือเหลือง ลุ้นเป็นเจ้ายุโรปสมัยที่ 15
ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จากเยอรมนี จะเล่นที่สนาม เวมบลีย์ กรุงลอนดอน พบกับ เรอัล มาดริด จากสเปน ดีกรีแชมป์ 14 สมัย โดยเกมนี้ ดอร์ทมุนด์ ไม่มีอะไรจะเสีย พร้อมลุยอย่างเต็มที่หลังการันตีว่าได้ไป แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีหน้าอย่างแน่นอนแล้ว ขณะที่ฟอร์ม 5 เกมหลังสุดก็ถือว่าค่อนข้างดี ชนะ 4 แพ้ 1 ส่วน เรอัล มาดริด ไม่ต้องพูดถึง พวกเขาคือเต็งแชมป์อย่างแท้จริง มีความพร้อมทุกส่วนทั้งในเรื่องของฟอร์มการเล่นที่ไม่แพ้ใครมา 25 เกมติดต่อกันแล้ว และตัวผู้เล่นที่อยู่กันเกือบครบทีม และต้องการที่จะคว้าแชมป์สมัยที่ 15 มาครองให้ได้

พรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี) พบ เรอัล มาดริด (สเปน)
สนาม : เวมบลีย์, ลอนดอน
เวลา : 02:00 น. วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน 2567 (แข่งคืนวันเสาร์)
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sport 3 (ช่อง 609)

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
ทีมเสือเหลืองจบฤดูกาลบุนเดสลีกาด้วยอันดับที่ 5 หลังเก็บไป 63 แต้มจาก 34 เกม แต่ก็ยังเพียงพอต่อการไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า หลังจากที่ลีกเยอรมนีมีค่าสัมประสิทธิ์สูงมากพอที่จะได้โควต้าเพิ่ม ทำให้เกมนัดนี้พวกเขาสามารถเล่นได้อย่างเต็มที่โดยที่ไม่ต้องไปพะวงเรื่องอื่น และพร้อมแล้วกับการลุ้นแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 2 ของพวกเขา หลังจากที่เคยได้แชมป์รายการนี้ครั้งแรกตั้งแต่เมื่อฤดูกาล 1996-97 ขณะที่ฟอร์มการเล่นในช่วงที่ผ่านมาก็ถือว่าค่อนข้างดี เมื่อพวกเขาชนะ 4 แพ้ 1 จาก 5 เกมหลังสุด ผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านถล่ม ดาร์มสตัดท์ 4-0 ในเกมบุนเดสลีกานัดสุดท้ายของฤดูกาล เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว และจากการที่ได้พักมาอย่างเต็มที่ ทำให้พวกเขามีสภาพทีมที่พร้อมสมบูรณ์ด้วย

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ดอร์ทมุนด์ มีปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่มากนัก โดยเกมนี้จะไม่มีผู้เล่นอย่าง รามี่ เบนเซไบนี่, เซบาสเตียง อัลแลร์, ฌูเลียง ดูร็องวิลล์ และ มาเตอู โมเรย์ เท่านั้นที่ยังไม่หายเจ็บ แต่ไม่ใช่ปัญหาอะไรเพราะตัวหลักอื่นๆ ยังอยู่กันครบ พร้อมลงสนามทั้งหมดในระบบ 4-2-3-1 โดยเกมรุกจะใช้ นิคลาส ฟึลล์ครุก ยืนเป้นหน้าเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง เจดอน ซานโช่, ยูเลียน บรันด์ท และ คาริม อเดเยมี่ คอยสร้างสรรค์เกม ขณะที่แดนกลางจะมี มาร์เซล ซาบิตเซอร์ และ เอ็มเร่ ชาน คอยคุมเกม

เรอัล มาดริด
ราชันชุดขาวที่นำโดย คาร์โล อันเชลอตติ มีฟอร์มการเล่นที่สุดยอดมากจริงๆ จนถึงตอนนี้ลงเล่นมาแล้ว 54 เกมรวมทุกรายการ เพิ่งจะแพ้ไปแค่ 2 เกมเท่านั้น เสมอ 11 และชนะไปถึง 41 เกม ถือว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ ล่าสุดก็ไม่แพ้ใครมา 25 เกมติดต่อกันแล้ว ผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านเสมอกับ เรอัล เบติส 0-0 ในเกม ลา ลีกา นัดสุดท้ายของฤดูกาล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่า 2 เกมหลังสุด เรอัล มาดริด จะทำได้แค่เสมอทั้งหมด แต่ก็ถือว่าไม่แปลก เพราะพวกเขาคว้าแชมป์ ลา ลีกา ไปนานแล้วนั่นเอง ทำให้สามารถพักตัวหลักเอาไว้ได้อย่างเต็มที่ในช่วงท้ายซีซั่น และตอนนี้พวกเขาก็พร้อมเต็มที่แล้ว กับการจะลุ้นคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองเป็นสมัยที่ 15 ของตัวเอง

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เรอัล มาดริด จะขาด 2 ตัวสำคัญอย่าง โอเรเลียง ชูอาเมนี่ และ ดาวิด อลาบา ที่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ อังเดร ลูนิน นายทวารที่ลงเล่นในช่วงก่อนหน้านี้มาโดยตลอดก็มามีอาการป่วยพอดี แต่ก็จะได้ ติโบต์ กูร์กตัวส์ กลับมาเฝ้าเสาได้ในเกมนี้ นอกนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ เรอัล มาดริด จะมาในระบบการเล่น 4-3-1-2 เหมือนเดิม คู่กองหน้าจะเป็น วินิซิอุส จูเนียร์ จับคู่กับ โรดรีโก้ โดยมี จู๊ด เบลลิงแฮม เป็นเพลย์เมคเกอร์ ส่วนแดนกลางก็จะมีตัวเก๋าอย่าง โทนี่ โครส คอยคุมเกมร่วมกับ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ และ เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (4-2-3-1) : เกรกอร์ โคเบล : ยูเลี่ยน ไรเออร์สัน, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, นิโก้ ชล็อทเทอร์เบ็ค, เอียน มาทเซ่น : มาร์เซล ซาบิตเซอร์, เอ็มเร่ ชาน : เจดอน ซานโช่, ยูเลี่ยน บรันด์ท, คาริม อเดเยมี่ : นิคลาส ฟึลล์ครุก

เรอัล มาดริด (4-3-1-2) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ : ดาเนียล การ์บาฆาล, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, นาโช่ เฟร์นานเดซ, แฟร์กล็อง เมนดี้ : เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า, โทนี่ โครส : จู๊ด เบลลิงแฮม : โรดรีโก้, วินิซิอุส จูเนียร์

ความน่าจะเป็น : เป็นเกมที่ถ้าว่ากันตามตรง ดอร์ทมุนด์ ดูเป็นรอง เรอัล มาดริด อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฟอร์มการเล่นโดยรวม หรือว่าจะเป็นเรื่องของชื่อชั้นของนักเตะ ที่ทีมราชันชุดขาวดูดีกว่ามาก แต่อย่างไรก็ตาม ดอร์ทมุนด์ ก็แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมในแต่ละรอบที่ผ่านมา เมื่อพวกเขาผ่านได้ทั้ง แอตเลติโก มาดริด และ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ทำให้เกมนี้จะเป็นเกมที่สนุกอย่างแน่นอน แต่กระนั้นถ้าพูดถึงความนิ่งและประสบการณ์ เรอัล มาดริด ยังเหนือชั้นกว่า และพวกเขารู้ดีว่าต้องทำอย่างไรในเกมแบบนี้ ดูแล้วจะเป็นเกมที่วัดกันที่ความผิดพลาด และจะเป็นทีมราชันชุดขาวที่ฉกฉวยโอกาสตรงนี้เอาไว้ได้

สกอร์ที่คาด : ดอร์ทมุนด์ แพ้ เรอัล มาดริด 1-2

ภาพจาก Getty Images

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial