ราชันชุดขาวหวังเปิดเบร์นาเบว ย้ำแค้นหงส์แดงฉลุยรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ราชันชุดขาวหวังเปิดเบร์นาเบว ย้ำแค้นหงส์แดงฉลุยรอบ 8 ทีมสุดท้าย
ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง เรอัล มาดริด จากสเปน จะรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล จากอังกฤษ โดยเกมนี้ เรอัล มาดริด เจ้าถิ่น กุมความได้เปรียบค่อนข้างมากหลังบุกไปชนะมาได้ก่อนในเกมแรกถึง 5-2 และเกมนี้ได้กลับมาเล่นในบ้าน จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแพ้ในระดับ 3 หรือ 4 ประตู ตรงกันข้ามกับ ลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มขึ้นๆ ลงๆ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ แถมยังมีฟอร์มการเล่นในเกมเยือนที่แย่มากๆ หลังแพ้ไปถึง 10 จากทั้งหมด 19 เกมที่เล่นเป็นทีมเยือน โอกาสที่จะมาพลิกสถานการณ์ในเกมนี้จึงเป็นอะไรที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

พรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง
เรอัล มาดริด พบ ลิเวอร์พูล
สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
เวลา : 03:00 น. วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม 2566 (แข่งคืนวันพุธ)
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 3 (ช่อง 608)

เรอัล มาดริด
ราชันชุดขาวที่นำโดย คาร์โล อันเชลอตติ ถือว่ามีผลงานที่กำลังอยู่ในช่วงที่พอใช้ได้ หลังจากที่ 9 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ พวกเขาชนะมา 6 เกม เสมอ 2 และแพ้ 1 โดยผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านเอาชนะ เอสปันญ่อล มาได้ 3-1 ในเกม ลา ลีกา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักๆ ก็คือ 4 เกมหลังสุดถือว่า เรอัล มาดริด ฟอร์มหลุดไม่น้อย เพราะชนะแค่เกมเดียว เสมอ 2 และแพ้ 1 นั่นจึงทำให้ตอนนี้ต้องตามหลัง จ่าฝูงอย่าง บาร์เซโลน่า ไปแล้วได้ถึง 9 แต้ม เรียกได้ว่าโอกาสลุ้นแชมป์ ลา ลีกา เริ่มจะยากแล้ว แต่กระนั้นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ถือว่าราชันชุดขาวยังอยู่ในตำแหน่งที่ดี และมีโอกาสผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายค่อนข้างสูง หลังในรอบ 16 ทีมเกมแรกบุกไปถล่ม ลิเวอร์พูล มาได้ก่อนถึง 5-2

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เรอัล มาดริด จะไม่มีเพียงแค่ แฟร์กล็อง เมนดี้ และ ดาวิด อลาบา เท่านั้นที่มีอาการบาดเจ็บ นอกนั้นไม่มีปัญหา โดยคาดว่าเกมนี้ อันเชตลอตติ จะส่งทีมชุดที่ดีที่สุดลงสนามในระบบ 4-3-3 โดยสามประสานในเกมรุกน่าจะเป็น วินิซิอุส จูเนียร์, คาริม เบนเซม่า และ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ เหมือนเดิม

ลิเวอร์พูล
ทีมหงส์แดงกลายเป็นทีมที่เอาอะไรไม่ได้เลย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ทำผลงานได้อย่างสุดยอด เมื่อเปิดบ้านถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด คู่ปรับตลอดกาลไปอย่างขาดลอย 7-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก แต่ในเกมต่อมากลับบุกไปพ่ายต่อ บอร์นมัธ ซึ่งเป็นบ๊วยของตาราง 1-0 ซะอย่างนั้น นั่นทำให้ผลงาน 5 นัดหลังสุดในทุกรายการพวกเขาชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 นอกจากนี้ถ้าดูฟอร์มย้อนหลังไปไกลกว่านั้น นับตั้งแต่หลังเข้าสู่ปี 2023 เป็นต้นมา ทีมหงส์แดงแพ้ไปถึง 6 เกม จาก 14 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ ถือว่าเป็นฟอร์มที่ต่ำกว่ามาตรฐานที่เคยทำได้เมื่อหลายปีก่อนมากๆ และปีนี้ผลงานในการเล่นเกมเยือนก็ย่ำแย่สุดๆ แพ้เป็นว่าเล่น ซึ่งถ้าหากว่าวันนี้พวกเขาสร้างปาฏิหาริย์ที่ เบร์นาเบว พลิกกลับมาเข้ารอบไม่ได้ ก็จะถือว่าหมดลุ้นแชมป์ในปีนี้ครบทุกรายการอย่างเป็นทางการ

ในส่วนของสภาพทีม ลิเวอร์พูล จะยังคงไม่สามารถใช้งาน หลุยส์ ดิอาซ, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, โจ โกเมซ, นาบี เกอิต้า และ คาลวิน แรมซี่ย์ ที่ยังไม่หายเจ็บทั้งหมด แต่ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหา โดยการจัดทีมน่าจะยังคล้ายกับหลายๆ เกมที่ผ่านมา ในระบบ 4-3-3 ซึ่งสามประสานในแดนหน้าจะยังเป็น ดาร์วิน นูนเญซ, โคดี้ กักโป และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เหมือนเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ : ดาเนียล การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า : ลูก้า โมดริช, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, โทนี่ โครส : เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, คาริม เบนเซม่า, วินิซิอุส จูเนียร์

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบคเกอร์ : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, สเตฟาน บายเซติช : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี้ กักโป, ดาร์วิน นูนเญซ

ความน่าจะเป็น : เป็นเกมที่ต้องการปาฏิหาริย์เท่านั้นสำหรับ ลิเวอร์พูล หากว่าต้องการพลิกกลับมาเป็นฝ่ายเข้ารอบ เพราะต้องยิงอย่างน้อย 3-0 เพื่อตีเสมอ หรือถ้าจะเข้ารอบไปเลยแบบไม่ต้องต่อเวลา ก็ต้องบุกมาชนะ 4-0 ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยเพราะฤดูกาลนี้ เรอัล มาดริด เคยแพ้ที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว แค่ 2 เกมเท่านั้น โดยเป็นการแพ้ต่อ บาร์เซโลน่า ทั้งสองเกมในรายการ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า กับ โกปา เดล เรย์ และถูกยิงมากที่สุดที่สกอร์ 1-3 นอกจากนี้ยังชนะได้ถึง 15 เกมจากทั้งหมด 21 เกมที่ได้เล่นในบ้านทุกรายการ ดังนั้นเกมนี้เชื่อว่าไม่น่ามีอะไรพลิกล็อค เรอัล มาดริด จะอาศัยความได้เปรียบในการเล่นในบ้าน และดีไม่ดีอาจจะชนะ ลิเวอร์พูล ย้ำแค้นไปอีกนัด ก่อนผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปแบบสบายๆ

สกอร์ที่คาด : เรอัล มาดริด ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0

ภาพจาก Getty Images

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial