ฟอเรสต์ยังหนีตายต้องเน้นเต็มที่ แต่อาร์เซน่อลยังดูเหนือกว่ามีลุ้นบุกชนะ

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ พบ อาร์เซน่อล
สนาม : ซิตี้ กราวด์
เวลา : 23.30 น. วันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม 2566
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602)

ฟอเรสต์
ทีมเจ้าป่าเคยมีผลงานที่ย่ำแย่มากๆ ในช่วงที่ผ่านมา โดยเคยมีช่วงที่ไม่ชนะใครมา 11 เกมติดต่อกันในเกมลีก จนทำให้อันดับกราวรูดลงไปอยู่ในโซนตกชั้น อย่างไรก็ตาม พวกเขาเพิ่งจะกลับมาคืนฟอร์มได้ในช่วง 4 เกมหลังสุด หลังชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 1 เก็บได้ 7 แต้ม โดยสองเกมที่ชนะนั้นคือเกมในบ้านล้วนๆ ที่เอาชนะ ไบรท์ตัน 3-1 ต่อด้วยชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 4-3 ส่วนเกมล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนก็บุกไปเสมอกับ เชลซี มาได้ 2-2 ถือเป็นแต้มที่สำคัญมาก ทำให้ตอนนี้ ฟอเรสต์ รั้งอยู่อันดับที่ 16 ของตาราง มีอยู่ 34 แต้มจากการลงเล่น 36 เกม ทิ้งห่างอันดับ 18 อย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด อยู่ 3 แต้ม ขออีก 4 คะแนนจาก 2 เกมที่เหลือจะการันตีการรอดตกชั้นได้ทันที

ในส่วนของสภาพทีมนั้น ฟอเรสต์ มีปัญหานักเตะบาดเจ็บค่อนข้างเยอะเหมือนเดิม โดยพวกที่หมดสิทธิ์ลงเล่นนั้นประกอบไปด้วย เนโก้ วิลเลี่ยมส์, คริส วู้ด, โอมาร์ ริชาร์ดส์, ดีน เฮนเดอร์สัน, ฌูเลียง เบียงโกเน่, สกอตต์ แม็คเคนน่า, แจ็ค โคลแบ็ค, เอมมานูเอล เดนนิส และ กุสตาโว่ สคาร์ป้า ที่ยังบาดเจ็บทั้งหมด แต่ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหา โดยแนวรุกจะใช้ ไทโว่ อโวนิยี่, เบรนแนน จอห์นสัน และ มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ เป็น 3 ประสานในแดนหน้า ในระบบการเล่น 4-3-3

อาร์เซน่อล
หลังจากที่มีช่วงฟอร์มสะดุด ไม่ชนะในลีกถึง 4 เกมติดต่อกัน โดยเป็นการเสมอ 3 แพ้ 1 จนทำให้เสียตำแหน่งจ่าฝูงไปให้กับ แมนฯ ซิตี้ จากนั้นทีมปืนใหญ่กลับมาคืนฟอร์มเก็บชัยได้ 2 เกมรวด ทำให้ยังพอมีลุ้นเล็กๆ ที่จะไล่ตาม แมนฯ ซิตี้ ให้ทัน แม้ว่าอาจจะเป็นเรื่องยากก็ตาม แต่ทุกอย่างก็น่าจะจบลงเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ในเกมลีกนัดล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน อาร์เซน่อล แพ้คาบ้านให้กับ ไบรท์ตัน ไปอย่างเหลือเชื่อ 0-3 ทำให้ตอนนี้พวกเขามีเพียง 81 แต้มจาก 36 นัด ตามหลังทีมเรือใบสีฟ้าอยู่ 4 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด นั่นหมายความว่าถ้า แมนฯ ซิตี้ ชนะได้อีกแค่เกมเดียวจาก 3 เกมที่เหลือ ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองทันที

ในส่วนของสภาพทีม อาร์เซน่อล เจอกับข่าวร้ายล่าสุดเมื่อ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ กองหน้าตัวเก่งได้รับบาดเจ็บ ลงเล่นในเกมที่เหลือไม่ได้อีกแล้ว ส่วนพวกที่เจ็บหน้าเดิมๆ ก็ประกอบไปด้วย โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, วิลเลี่ยม ซาลิบา, ทาเคฮิโร่ โทมิยาสึ และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ที่ยังบาดเจ็บทั้งหมด แต่ตำแหน่งอื่นๆ นั้นไม่มีปัญหา พร้อมลงเล่นในระบบ 4-3-3 โดยสามประสานในแนวรุกจะเป็น เลอันโดร ทรอสซาร์, กาเบรียล เชซุส และ บูคาโย่ ซาก้า โดยที่มี มาร์ติน โอเดการ์ด เป็นตัวปั้นเกม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฟอเรสต์ (4-3-3) : เกย์ลอร์ นาวาส : แซร์จ โอริเย่ร์, เฟลิเป้, มูสซ่า นียาคาเต้, เรนาน โลดี้ : ไรอัน เยทส์, โอเรล มองกาล่า, ดานิโล่ : มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์, ไทโว่ อโวนิยี่, เบรนแนน จอห์นสัน

อาร์เซน่อล (4-3-3) : อารอน แรมส์เดล : เบน ไวท์, ยาคุบ คิวิออร์, กาเบรียล มากัลเญส, คีแรน เทียร์นี่ย์ : มาร์ติน โอเดการ์ด, จอร์จินโญ่, กรานิต ชาค่า : บูคาโย่ ซาก้า, กาเบรียล เชซุส, เลอันโดร ทรอสซาร์

ความน่าจะเป็น : เป็นเกมที่ก็ต้องการชัยชนะด้วยกันทั้งคู่ แต่ ฟอเรสต์ น่าจะมีแรงจูงใจมากกว่า เนื่องจากพวกเขาต้องการทุกแต้มจากทุกเกมที่เหลือเพื่อหนีตกชั้น ขณะที่ อาร์เซน่อล น่าจะไล่ตาม แมนฯ ซิตี้ ไม่ทันแล้ว และพวกเขาก็ไม่เสียอันดับ 2 อย่างแน่นอน ก็อาจจะทำให้แรงจูงใจลดลงไป อย่างไรก็ดี อะไรก็อาจจะยังเกิดขึ้นได้ ก็ยังต้องเน้นเอาชนะไว้ก่อน รูปเกมน่าจะสูสีกันในช่วงแรก แต่ด้วยมาตรฐานที่สูงกว่า น่าจะทำให้ อาร์เซน่อล บุกมาเอาชนะไปได้ แต่สกอร์อาจจะไม่ขาด

สกอร์ที่คาด : ฟอเรสต์ แพ้ อาร์เซน่อล 1-2