เรือใบสีฟ้าชนะมา 6 เกมติด มีลุ้นเปิดบ้านทุบหงส์แดงที่สถิติเกมเยือนย่ำแย่

เรือใบสีฟ้าชนะมา 6 เกมติด มีลุ้นเปิดบ้านทุบหงส์แดงที่สถิติเกมเยือนย่ำแย่
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดบิ๊กแมตช์ แมนฯ ซิตี้ จะรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล โดยเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ เจ้าถิ่น กำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม หลังไม่แพ้ใครมา 10 เกมติดต่อกันแล้วในทุกรายการ แถมยังชนะมาใน 6 เกมหลังสุด และกำลังต้องการทำแต้มไล่จี้ อาร์เซน่อล อย่างหนัก ขณะที่ ลิเวอร์พูล ฟอร์มเป็นไปในทางตรงกันข้าม พวกเขาแพ้มา 2 เกมติดต่อกันแล้ว แม้จะยังต้องการแต้มเพื่อลุ้นโควต้าท็อป 4 แต่สถิติในการเล่นเป็นเกมเยือนของทีมหงส์แดงปีนี้ย่ำแย่มากๆ เมื่อแพ้ไปถึง 11 จากทั้งหมด 21 เกมในทุกรายการ

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
เวลา : 18.30 น. วันเสาร์ที่ 1 เมษายน 2566
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602)

แมนฯ ซิตี้
ทีมเรือใบสีฟ้า ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง โดยก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงเบรคทีมชาติ พวกเขาไม่แพ้ใครมา 10 เกมติดต่อกันในทุกรายการ อีกทั้งยังเป็นการชนะได้ถึง 8 เสมอ 2 แถม 6 เกมหลังสุดยังชนะรวด ทำให้ตอนนี้ถือว่า แมนฯ ซิตี้ ติดเครื่องแบบเต็มสูบแล้ว และพร้อมที่จะไล่ล่าจ่าฝูงอย่าง อาร์เซน่อล โดยผลงานในเกมลีกนัดล่าสุดคือการบุกชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0 ส่วน 2 เกมสุดท้ายก่อนเข้าสู่เบรคทีมชาติ พวกเขาทิ้งท้ายสวยหรูด้วยการถล่ม ไลป์ซิก 7-0 ในแชมเปี้ยน์ ลีก ต่อด้วยถล่ม เบิร์นลี่ย์ ในเอฟเอ คัพ ไปอีก 6-0 เรียกได้ว่าตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงที่มั่นใจเต็มเปี่ยมจริงๆ

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ จะไม่มี ฟิล โฟเด้น ที่เพิ่งผ่าตัดไส้ติ่ง ต้องพักประมาณ 2-3 สัปดาห์ ส่วน เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่มีอาการบาดเจ็บ และถอนตัวจากทีมชาติไปนั้น ล่าสุดต้องรอเช็คความฟิตอีกครั้ง แต่คาดว่าน่าจะลงเล่นได้ ส่วนตัวอื่นๆ ยังอยู่กันครบ โดยเกมรุกจะมี ฮาแลนด์ ยืนหน้าเป้า และมีตัวสนับสนุนอย่าง แจ็ค กรีลิช, เควิน เดอ บรอยน์ และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา

ลิเวอร์พูล
ทีมหงส์แดงกลายเป็นทีมที่เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยไม่แพ้ใครในลีกมา 3 เกมติด ซึ่งในนั้นมีเกมที่ถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด 7-0 ด้วย แต่หลังจากนั้นพวกเขาแพ้ 2 เกมรวด โดยเป็นเกมที่บุกไปพ่ายต่อ บอร์นมัธ 1-0 และต่อด้วยบุกไปแพ้ต่อ เรอัล มาดริด 2-0 ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง ทำให้ตกรอบไปเป็นที่เรียบร้อย ซะอย่างนั้น นั่นทำให้ผลงาน 5 นัดหลังสุดในทุกรายการพวกเขาชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 นอกจากนี้ถ้าดูฟอร์มย้อนหลังไปไกลกว่านั้น นับตั้งแต่หลังเข้าสู่ปี 2023 เป็นต้นมา ทีมหงส์แดงแพ้ไปถึง 7 เกม จาก 15 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ ที่สำคัญผลงานในเกมเยือนนั้นห่วยมาก เมื่อพวกเขาแพ้ไปถึง 11 จากทั้งหมด 21 เกมในทุกรายการที่ออกไปเยือน และชนะได้แค่ 6 เกมเท่านั้น

ในส่วนของสภาพทีม ลิเวอร์พูล จะยังคงไม่สามารถใช้งาน ติอาโก้ อัลกันตาร่า, โจ โกเมซ, คาลวิน แรมซี่ย์ และ สเตฟาน บายเซติช ที่บาดเจ็บทั้งหมด ขณะที่ หลุยส์ ดิอาซ กลับมาซ้อมได้แล้ว แต่ยังฟิตไม่พอที่จะลงเล่น นอกนั้นไม่มีปัญหา โดยการจัดทีมน่าจะยังคล้ายกับหลายๆ เกมที่ผ่านมา ในระบบ 4-3-3 ซึ่งสามประสานในแดนหน้าจะยังเป็น ดาร์วิน นูนเญซ, โคดี้ กักโป และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เหมือนเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส : จอห์น สโตนส์, มานูเอล อาคานจี, รูเบน ดิอาส, เนธาน อาเก้ : โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน : แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, แจ็ค กรีลิช : เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบคเกอร์ : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน : ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี้ กักโป, ดาร์วิน นูนเญซ

ความน่าจะเป็น : ถ้าเป็นเมื่อฤดูกาลที่แล้วคงจะเป็นเกมที่สูสีกันมากๆ แต่ในฤดูกาลนี้ชัดเจนว่า ลิเวอร์พูล ตกลงไปพอสมควร และการมาเยือน แมนฯ ซิตี้ ในเกมนี้จะเป็นงานยากสำหรับพวกเขา เพราะสถิติในการเล่นเกมเยือนซีซั่นนี้ของหงส์แดงนั้นแย่มากๆ ขณะที่ทีมเรือใบสีฟ้าต้องการชัยชนะเท่านั้นเพื่อไล่ตาม อาร์เซน่อล ทำให้เกมนี้น่าจะเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ครองเกมบุกเข้าใส่ โอกาสของ ลิเวอร์พูล นั้นมีไม่มาก แต่พวกเขาก็แพ้ไม่ได้เช่นกันเนื่องจากยังต้องการลุ้นพื้นที่ท็อป 4 ทำให้เกมนี้น่าจะตัดสินกันที่ใครจะเล่นพลาดมากกว่ากัน ซึ่งเมื่อดูผลงานในระยะหลังแล้ว เชื่อว่า แมนฯ ซิตี้ น่าจะทำได้ดีกว่า และจะเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ในเกมนี้

สกอร์ที่คาด : แมนฯ ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0

ภาพจาก Getty Images

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial