มีแต่ได้กับได้! เปิดข้อดี-ข้อเสีย ช้างศึก ส่งเด็กU19 ไปแบกอายุ

มีแต่ได้กับได้! เปิดข้อดี-ข้อเสีย ช้างศึก ส่งเด็กU19 ไปแบกอายุ
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศกัมพูชา เป็นเจ้าภาพ กำลังจะเปิดฉากขึ้นแล้วในช่วงระหว่างวันที่ 14-26 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งแฟนฟุตบอลชาวไทยสามารถติดตามถ่ายทอดสดได้ทาง TrueVisions และ True4U

เป็นที่ทราบกันไปแล้วว่าการไปชิงชัยครั้งนี้ของทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะส่งทีมรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ภายใต้การคุมทัพของ ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย ไปทำหน้าที่

เนื่องจากทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวไม่ได้ขึ้นตรงตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ส่งผลให้มีปัญหาในหลายๆด้าน โดยเฉพาะการเรียกตัวนักเตะชุดU23 ไปแข่งขัน เพราะสโมสรต้นสังกัดของแต่ละคนก็มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ช่วยทีมลุยศึกไทยลีกในประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงโค้งสำคัญของฤดูกาล

ขณะเดียวกันทีมช้างศึกU23 ภายใต้การคุมทัพของ "โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ ก็จะมีโปรแกรมสำคัญลงแข่งขันอีกหลายรายการในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ต่อด้วยมหกรรมเอเชียนเกมส์ และการแข่งขันซีเกมส์ ซึ่งหากจะใช้ชุดเดียวกันไปแข่งขันทั้งหมดก็คงจะเป็นไปได้ยาก

บทสรุปสุดท้ายทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีความจำเป็นที่จะต้องหาทางออกเรื่องนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจส่งทีมช้างศึกU19 ไปลุยศึกU23ชิงแชมป์อาเซียนแทนเป็นอันดับแรก

แน่นอนว่าการตัดสินใจครั้งนี้มีเสียงแฟนบอลออกมา 2 ด้าน มุมหนึ่งก็มองว่าการส่งเด็กไปแบกอายุเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ อีกมุมหนึ่งก็มองเป็นเรื่องดีที่จะได้เห็นแข้งเยาวชนสายเลือดใหม่ได้โอกาสพัฒนาฝีเท้าตัวเองจากการแข่งขันครั้งนี้

ทีมข่าวทรูวิชั่นส์ ในฐานะที่จะรับหน้าที่ถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในครั้งนี้ จะขอพาแฟนบอลไปส่องข้อดี-ข้อเสีย ออกมาเป็นประเด็น ว่าการตัดสินใจส่งทีมชุดU19 ไปแบกอายุครั้งนี้ เป็นอย่างไร?

ข้อดี


- เป็นโอกาสของเด็กชุด U19

แน่นอนว่าข้อดีข้อแรกเลยก็คือจะเป็นโอกาสดีที่เด็กๆชุด U19 จะได้พัฒนาตัวเองให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ทั้งร่างกายและสภาพจิตใจกับการเผชิญหน้าคู่แข่งที่อายุมากกว่า

ดูอย่างในประเทศแถวหน้าของเอเชีย อย่างญี่ปุ่น ที่หลายครั้งพวกเขามักจะส่งเด็กๆไปแบกอายุตามทัวร์นาเมนต์ต่างๆ เพื่อหวังให้เด็กๆได้เจอกับสถานการณ์ที่เป็นรอง โดยที่ไม่ต้องไปสนใจในเรื่องผลการแข่งขันที่จะออกมา

เพราะแน่นอนว่าหากทีมเด็กของพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จกับการเป็นแชมป์ แต่อย่างน้อยๆทีมชุดนี้ก็จะได้โอกาสต่อยอดและกลับไปพัฒนาตัวเอง เพื่อเป็นขุมกำลังของทีมชุดใหญ่ในอนาคต กลับกันหากผลงานเกิดดีขึ้นมาก็ถือเป็นกำไรสองต่อ เพราะมันจะยิ่งทำให้เด็กของเขาได้เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง


- วัดคุณภาพเยาวชนไทย
อีกหนึ่งข้อดีที่เราจะได้เต็มๆ คือเป็นโอกาสที่จะได้วัดศักยภาพของทีมเยาวชนไทย ว่าอยู่ในระดับไหนของอาเซียน ข้อบกพร่องต่างๆที่พวกเขาจะต้องเจอในยามเผชิญหน้ากับทีมที่มีอายุมากกว่า คือสิ่งที่เราจะได้นำกลับมาแก้ไขให้ตรงจุด

เพราะเราจะเห็นได้ในหลายๆครั้งที่เด็กไทยเก่ง กลับมาก็ได้รับคำชื่นชม จนลืมไปว่าพวกเขายังมีข้อผิดพลาดที่ต้องแก้ไข กว่าที่จะเติบโตขึ้นไปเป็นนักเตะระดับทีมชาติชุดใหญ่

จริงอยู่ที่หากเราใช้เยาวชนอายุเต็มไปแข่งขัน แล้วผลที่ได้ออกมาดี เราก็จะได้ลิ้มรสของความสำเร็จ แต่ต้องไม่ลืมว่าพวกเขายังต้องการแรงผลักดันเพื่อที่จะพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่พอได้แชมป์ในระดับเยาวชนแล้ว ไฟในตัวก็หมดลงไป สุดท้ายจึงไม่เกิดการพัฒนาอย่างในหลายๆเคสที่เกิดขึ้น

การส่งทีมชุดU19 เดินทางไปแข่งขันในครั้งนี้ จะเป็นเครื่องวัดระดับฝีเท้าของนักเตะเยาวชนไทย ว่าที่ผ่านมาเราเดินหน้าหรือถอยหลัง ผลการแข่งขันอาจจะไม่ใช่ตัวตัดสินทั้งหมด แต่เรื่องของรูปแบบการเล่น ความเข้าใจเกม คือสิ่งสำคัญที่จะตัดสินว่าทีมชุดนี้มีคุณภาพ และพอจะฝากอนาคตเอาไว้ได้ขนาดไหน



- ชุด U23 ได้มุ่งสมาธิในรายการสำคัญกว่า
อย่างที่บอกไปว่าทีมชุดU23 ของเราจะมีทัวร์นาเมนต์สำคัญหลายรายการให้ชิงชัยในขวบปีนี้ เพราะฉะนั้นเราจำเป็นจะต้องเลือกให้พวกเขาได้มุ่งสมาธิอย่างเต็มที่กับการแข่งขันรายการใหญ่ ไม่ได้หมายความว่าศึกชิงแชมป์อาเซียนไม่สำคัญ เพราะทุกการแข่งขันล้วนสำคัญหมด แต่หากลองเทียบกับรายการอื่นๆ ก็ต้องยอมรับว่าศึกU23ชิงแชมป์อาเซียน เป็นรายการที่เราน่าจะลองเสี่ยงส่งชุดU19 ไปแบกอายุดูสักตั้ง

ย้อนกลับไปในอดีต หลายครั้งที่ทีมชาติไทยมีแนวคิดจะส่งเด็กไปแบกอายุ แต่สุดท้ายก็ไม่เกิดขึ้น เพราะด้วยกระแสแฟนบอล รวมถึงความสำเร็จที่เรายึดติดกันในระดับอาเซียน ทำให้เราต้องจัดเต็มทุกครั้งที่ออกไปแข่งขัน พอผลงานออกมาไปไม่ถึงแชมป์ สุดท้ายก็โดนกระแสด้านลบตามมา แต่คราวนี้ถือเป็นบรรยากาศใหม่ที่เราจะไม่เคยเจอมาก่อนกับการส่งน้องๆไปหาความท้าทายครั้งใหม่


- ตัดปัญหาเรื่องต้นสังกัดไม่ปล่อยตัว
อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ถือเป็นข้อดี เพราะอย่างที่ทราบว่าการแข่งขันชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ไม่ได้ขึ้นตรงกับปฏิทินฟีฟ่าเดย์ เพราะฉะนั้นสโมสรต้นสังกัดของนักเตะก็มีสิทธิที่จะไม่ส่งผู้เล่นมารับใช้ชาติ เพราะพวกเขาเองก็ต้องมีโปรแกรมสำคัญในลีกรออยู่

การส่งเด็กชุด U19 ไปชิงชัย ก็เป็นอีกทางออกหนึ่งที่ดูไม่เลวร้ายอะไร เพราะมันจะตัดปัญหาในเรื่องนี้ไปได้เลย แถมเด็กๆชุดนี้บางคนที่สังกัดอยู่ทีมใหญ่ๆ ก็แทบจะไม่ได้มีโอกาสลงสนามให้ต้นสังกัดในเวทีลีกอาชีพเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นทางสโมสรก็พร้อมที่จะปล่อยตัวดาวรุ่งของทีมออกไปเก็บเลเวลอย่างแน่นอน


- ต่อยอดในอนาคต
อีกหนึ่งข้อดีในครั้งนี้คือเด็กชุดU19 จะได้ประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน เพราะฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ เวลาไปแข่งขันที่ก็ใช้เวลาหลายวัน ทำให้พวกเขาได้โอกาสเต็มที่ในการรับใช้ชาติ ได้ฝึกซ้อม เล่นร่วมกับเพื่อนในระดับเดียวกันอย่างต่อเนื่อง

มันยิ่งจะส่งผลดีให้พวกเขาได้รู้ว่าความสามารถของตัวเองยังต้องพัฒนาตรงจุดไหน หากเทียบกับเพื่อนในรุ่นเดียวกัน สุดท้ายผลพลอยได้ก็จะตกกลับมาที่ทีมชาติไทย ที่จะได้มีตัวเลือกมากขึ้นในอนาคต เพราะแน่นอนว่าเด็กเหล่านี้จะเติบโตขึ้นไปเป็นกำลังสำคัญของชาติ หากได้รับการพัฒนาที่ต่อเนื่อง และได้เผชิญกับคู่แข่งที่มีกระดูกแข็งกว่า ย่อมทำให้พวกเขามีความท้าทายที่จะกลับมายกระดับตัวเอง เพื่อไปให้ถึงความสำเร็จในวันข้างหน้า


ข้อเสีย


- โอกาสประสบความสำเร็จน้อย

ข้อเสียเดียวที่ชัดเจนกับการส่งทีมชุด U19 ไปแบกอายุในครั้งนี้ คือเรื่องของโอกาสในการประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์กลับมา มันมีข้อเดียวจริงๆ กับการตัดสินใจครั้งนี้ เพราะการเจอกับเด็กที่โตกว่า 3-4 ปี ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผ่านไปได้ในแต่ละเกม เพราะฉะนั้นถ้าหวังถึงความสำเร็จก็มีโอกาสเป็นไปได้น้อย

แต่ถ้าหากเราลองมองข้ามในเรื่องความสำเร็จในเยาวชนระดับอาเซียนไป เพื่อแลกกับข้อดีหลายข้อที่ได้กล่าวมานั้น มันดูจะเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆ แม้เราจะไปไม่ถึงคำว่าแชมป์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเด็กๆชุดนี้จะหมดอนาคต

ในทางกลับกันมันยิ่งส่องแสงสว่างในอนาคตที่สดใสให้กับพวกเขาที่จะยกระดับตัวเองขึ้นมา แม้วันนี้จะไม่ประสบความสำเร็จในเวทีอาเซียน แต่พวกเขาจะได้ในสิ่งที่ไม่เคยเจอมาก่อน เพื่อกลับมาพัฒนาตัวเองให้เป็นนักเตะที่แข็งแกร่งกว่าเดิม เพราะต้องไม่ลืมว่าเป้าหมายสำคัญของทีมชาติไทยไม่ได้อยู่แค่นี้ แต่เราหวังลึกๆว่าจะก้าวไปอยู่ในระดับแถวหน้าของเอเชียให้ได้

สุดท้ายมองยังไง มุมไหน ทีมชาติไทยของเราก็มีแต่ได้กับได้ และแน่นอนว่าการไปครั้งนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องของกำลังใจจากแฟนบอลชาวไทยทุกคน ที่จะเป็นฟันเฟืองสำคัญให้กับพวกเขาได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ แม้ก้าวแรกที่ออกจากบ้านจะถูกมองว่าเป็นรอง แต่หากพวกเขาสู้เต็มที่ ใส่เกินร้อย เล่นเกินอายุ ก็ไม่มีใครกล้าตำหนิอย่างแน่นอน...

แฟนฟุตบอลชาวไทยสามารถร่วมส่งกำลังใจเชียร์ทัพ "ช้างศึก" U23 ลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน ที่ประเทศกัมพูชา จะเป็นเจ้าภาพ ในช่วงระหว่างวันที่ 14-26 กุมภาพันธ์ 2565 ทุกเกมที่ทีมชาติไทย ลงสนาม ได้ทาง TrueVisions กับ True4U

สำหรับโปรแกรมถ่ายทอดสดทีมชาติไทย(รอบแบ่งกลุ่ม) มีดังนี้
วันที่ 16 ก.พ. 65 เวลา 19.00 น. ไทย - สิงคโปร์  True Sport HD 2
วันที่ 22 ก.พ. 65 เวลา 19.00 น. เวียดนาม - ไทย  True Sport HD 2



อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial